โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

โอเวอร์ซัพพลาย 'จีน' ดันแบตเตอรี่อีวีทั่วโลกสูงเกินดีมานด์ 3 เท่า

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เว็บไซต์นิกเกอิเอเชียรายงานว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่กำลังชะลอตัวลง กำลังส่งผลให้สต็อกอุปทานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการถึง "สามเท่า" กลายเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและสหรัฐ ในการสร้างฐานการผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศ

จากข้อมูลของ S&P Global Mobility พบว่า กำลังการผลิตรวมต่อปีของโรงงานผลิตแบตรถยนต์อีวีคาดว่าจะสูงถึง 3,930 กิกะวัตต์ชั่วโมง ขณะที่ดีมานด์ความต้องการจริงคาดว่าจะอยู่ที่ 1,161 กิกะวัตต์ชั่วโมง

คาดว่าซัพพลายจะคงอยู่ที่ "อย่างน้อยสามเท่า" ของดีมานด์ไปจนถึงปี 2569 ก่อนจะลดลงหลือมากกว่าสองเท่าในปี 2573 อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยกำลังการผลิตของโรงงานผลิตบางแห่งที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาในจีน ซึ่งหมายความว่า "ภาวะโอเวอร์ซัพพลายจริงอาจมีมากว่านี้"

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยในเกาหลีใต้เอสเอ็นอี รีเสิร์ช ระบุว่า "จีน" ซึ่งเป็นตลาดรถอีวีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 70% ของโลก โดยบริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL) เป็นผู้นำตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามมาด้วย BYD

ส่วน"เกาหลีใต้" และ "ญี่ปุ่น" ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่นั้นมีบริษัท LG Energy Solution และ Panasonic Holdings ตามมาในอันดับ 3 และ 6 ตามลำดับ และมีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง

ลงทุนอีวีในอเมริกาชะลอตัว

ก่อนหน้านี้หลายประเทศ เช่น สหรัฐและญี่ปุ่น พยายามส่งเสริมให้บริษัทต่างๆ ผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาจีน แต่กลยุทธ์นี้กลับส่งผลเสียกลับมาเมื่อความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างไม่คาดคิด

ภาวะโอเวอร์ซัพพลายนี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในภาคพื้น "อเมริกาเหนือ" ซึ่งคาดว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้นมากกว่าดีมานด์ถึง "4.8 เท่า" ในปีนี้ และคาดว่าช่องว่างดังกล่าวจะยังคงสูง "มากกว่าสี่เท่า" ไปจนถึงปี 2571

การลงทุนด้านแบตเตอรี่ในสหรัฐนั้นปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่รัฐบาลชุดเก่าของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีการออกมาตรการจูงใจผ่านพระราชบัญญัติลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) แต่รัฐบาลชุดต่อมาในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังยกเลิกมาตรการเหล่านี้ ทำให้นอกจากจะเกิดภาวะตกต่ำของรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมแล้ว ยังกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ของตนเองอีกด้วย

Panasonic เริ่มเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรีในสหรัฐเมื่อเดือนก.ค. 2568 ที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนการเปิดดำเนินการผลิตอย่างเต็มรูปแบบออกไป จากเดิมที่มีกำหนดช่วงปลายปีงบประมาณ 2569 เนื่องจากกังวลถึงความเสี่ยงในการเพิ่มกำลังการผลิตเร็วเกินไป ท่ามกลางผลประกอบการที่ตกต่ำของ Tesla Inc. ที่เป็นลูกค้าหลัก และเนื่องจากคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมลดลง พานาโซนิคจึงตั้งเป้าที่จะหาลูกค้าใหม่ในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ให้มากขึ้น

ผู้ผลิตรถยนต์ต่างลดการลงทุนลงท่ามกลางภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า Toyota Motor ได้เลื่อนแผนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรีในญี่ปุ่นออกไป และ Honda Motor เลื่อนแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีในแคนาดาออกไป 2 ปี ส่วนผู้ผลิตแบตเตอรีรายใหญ่ของเกาหลีใต้ซึ่งวางแผนจะลงทุนอย่างหนักในสหรัฐ ก็กำลังทบทวนแผนลงทุนของตนอีกครั้ง เนื่องจากผลประกอบการที่ลดลงเช่นกัน

การลงทุนลดจะทำให้โลกต้องพึ่งพาจีน

ข้อมูลจากธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ภาวะโอเวอร์ซัพพลายในตลาดแบตเตอรีอีวีทั่วโลกเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งเป็นปีที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มปรับตัวลดลง ราคาแบตเตอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 111 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงในปีที่แล้ว ลดลง 26% จากปี 2566 และคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจลดลงเหลือประมาณ 80 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569

ก่อนหน้านี้ Northvolt บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรีสัญชาติสวีเดน ซึ่งมี Volkswagen เป็นหนึ่งในนักลงทุน ได้ยื่นขอปรับโครงสร้างจากศาลล้มละลายในสวีเดนเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

แต่ถึงอย่างนั้นบรรดาบริษัทจีนก็ยังคงเร่งลงทุนมากขึ้น เนื่องจากความต้องการในประเทศที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปยังคงพึ่งพาแบตเตอรีจากบริษัทจีนมากขึ้น โดย CATL กำลังขยายการลงทุนในยุโรป ขณะที่ BYD กำลังเพิ่มการผลิตแบตเตอรีราคาประหยัด

แนวโน้มเหล่านี้อาจทำให้ "ช่องว่าง" ในด้านกำลังการผลิตและความสามารถทางเทคนิคยิ่งกว้างขึ้น ระหว่างผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ประเทศอื่นๆ และอาจกดดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องจำใจพึ่งพาจีนเป็นหลัก หากรถยนต์ไฟฟ้ากลับมาบูมอีกครั้ง

การชะลอตัวด้านการใช้จ่ายของผู้ผลิตแบตเตอรียังคาดว่าอาจจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วห่วงโซ่อุปทานด้วย โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนว่า หากการลงทุนในการพัฒนาแหล่งลิเทียมและนิกเกิลชะลอตัวลง อาจนำไปสู่การขาดแคลนลิเทียมและทรัพยากรอื่นๆ ภายในปี 2573

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'คมสัน' เล่าบรรยากาศในศาล รธน. อ้าง 'อิ๊งค์' สะอื้น-ตอบข้อ กม.พลาด

26 นาทีที่แล้ว

‘เทศกาล K-Food’ ปีที่ 15 เด็กไทยคว้า ‘Cover Dance’ ชิงแชมป์โลก

41 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยวันนี้ (21 ส.ค.) ปิดตลาดหุ้น ลบ 3.34 จุด ขาดปัจจัยกระตุ้น

47 นาทีที่แล้ว

เวียดนามเตรียมเปิด 'กระดานหุ้นสตาร์ตอัป' จ่อเข้าครม.อนุมัติ ต.ค. นี้

50 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ฉลอง 60 ปี เขตปกครองตนเองทิเบต ‘สี จิ้นผิง’ ย้ำสร้างแบบ ‘สังคมนิยมสมัยใหม่’

The Bangkok Insight

เซเลนสกีพบปูติน มีเงื่อนไขรับประกันความมั่นคง

AFP

“จีน-อัฟกานิสถาน” หารือทำเหมือง-ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

เดลินิวส์
วิดีโอ

ช็อก! พบศีรษะมนุษย์ 6 หัวถูกทิ้งบนถนนเม็กซิโก-ยังไม่ชัดโยงแก๊งอาชญากรรม

WeR NEWS

รู้กันไหม? คำตอบของปริศนา "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา" นักวิทยาศาสตร์ไขได้นานแล้ว

sanook.com

งานแต่งในจีนเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ทำคุณปู่ที่เลี้ยงดูหลานสาวกำพร้าจนโต น้ำตาซึมตลอดงาน

THE STATES TIMES

อินเดียเสนอร่างกฎหมายแบนพนันออนไลน์ หวังหยุดยั้งความเสียหายทางการเงิน

เดลินิวส์

จับชาวญี่ปุ่นเกือบ 30 คนในฐานสแกมเมอร์ปอยเปต ลวงเหยื่อเสียหาย 300 ล้านบาท

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...