โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ผ่าทางรอด? "แพทองธาร" สู้คดีคลิปเสียงฮุน เซน แนะชี้แจงศาลด้วยตัวเอง!

PPTV HD 36

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ผ่าทางรอด?
ผ่าทางรอด?

การพิจารณาคดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดนัดไต่สวนพยานวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ได้จุดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของศาลและการตัดสินใจทางการเมือง นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอกรวมประชาชน ได้แสดงทัศนะในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk โดยนายจตุพรเน้นถึงการปฏิบัติตามกฎหมายและกติกาที่ยอมรับไว้ ขณะที่นายวีรพัฒน์มองว่าบางประเด็นควรเป็นอำนาจตัดสินใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเพื่อรักษากลไกประชาธิปไตยที่แท้จริง

"คลิปเสียงนายกฯ" ประชาชนควรมีส่วนตัดสินใจ

ทัศนะของนายวีรพัฒน์ มองว่า การตัดสินข้อกฎหมายเป็นหน้าที่ของศาล เช่น คดีฆ่าคนตาย คดีขโมยของ หรือคดีโกง แต่ในกรณีคลิปเสียงซึ่งเกี่ยวข้องกับความเหมาะสมของคำพูด แทคติกการเจรจา หรือ ความไม่ระมัดระวัง นั้น ควรเป็นเรื่องที่ต้องถามประชาชน เพราะแต่ละคนมีมุมมองต่างกัน

นายวีรพัฒน์ ยกตัวอย่างทหารที่เสี่ยงชีวิตและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งควรเป็นผู้ร่วมตัดสินใจ เพราะในหลักประชาธิปไตย การตัดสินใจควรมาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ และกล่าวว่าหากทุกเรื่องตัดสินโดยศาล ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองก็ส่งชื่อให้ศาลพิจารณาคุณสมบัติได้โดยตรง

นายวีรพัฒน์ เห็นด้วยว่าควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยพยายามทำอย่างรอบคอบและขอความเห็นจากศาล เพื่อไม่ให้เสียของเหมือนในอดีต ที่เคยพยายามแก้รัฐธรรมนูญแล้วถูกวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง โดยยืนยันว่า การตัดสินใจของประชาชนเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะแค่วันเลือกตั้ง

หากนายกฯ ทำผลงานได้ดี ประชาชนจะสนับสนุน แต่หากไม่ ประชาชนจะลงโทษทางการเมือง ดังนั้น นายกฯ ควรใช้โอกาสนี้เร่งสร้างผลงานเพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา

แนะ "นายกฯ อิ๊งค์" เข้าชี้แจงศาล

ในมุมมองของนายวีรพัฒน์ “นายกฯ อิ๊งค์” ควรไปชี้แจงต่อศาล เพราะหากไม่ไปในนาทีสุดท้ายจะสร้างความเสียหายต่อความรู้สึกและกระแสสังคม สิ่งสำคัญคือทั้งนายกฯ และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญ จะต้องให้ปากคำที่ตรงกันและชัดเจน เพราะศาลจะเปรียบเทียบคำให้การระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ

นอกจากนี้ ศาลควรพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่ใช่แค่ 17 นาทีในคลิป แต่รวมถึงบริบทแวดล้อม เจตนา และความมุ่งหมายในการกระทำ ว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ

การที่ศาลเรียกเลขาฯ สมช. มาเป็นพยาน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะแสดงให้เห็นว่าศาลสนใจที่จะฟังมิติการทำงานด้านความมั่นคง ไม่ใช่แค่ประเด็นทางการเมือง จริยธรรมสูงสุดของนักการเมืองคือการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและป้องกันความเสียหาย ซึ่งหากการกระทำของนายกฯ เป็นไปเพื่อการนั้น ก็ไม่ถือว่าผิดจริยธรรม

ไขทางออกประเทศชาติ หนุนศาลมีถ่ายทอดสดพิจารณาคดี

นายวีรพัฒน์ มองว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติคือ การคืนอำนาจการตัดสินใจให้แก่ประชาชน หากนายกฯ ไม่ยุบสภา ก็ต้องมั่นใจว่าจะสร้างผลงานเพื่อเรียกคะแนนนิยมได้

การนำคดีทางการเมืองไปให้ศาลตัดสินเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมชาติและขัดต่อประชาธิปไตย. สำหรับทางเลือกหากนายกฯ ไม่รอดคดี เขามองว่านายชัยเกษม นิติสิริ มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ระบบปัจจุบันถูกล็อกไว้ทำให้ยากต่อการเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่ง

ทั้งนี้ นายวีรพัฒน์สนับสนุนให้มีการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยให้สังคมสามารถตัดสินใจได้ว่าการนำคดีทางการเมืองไปให้ศาลตัดสินนั้นถูกต้องหรือไม่

ร้อง "อนุสัญญาออตตาวา" เป็นประโยชน์-ชัดเจนกว่า ICC

ในประเด็นการดำเนินคดีกับผู้นำกัมพูชาในศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) นายวีรพัฒน์กล่าวว่า เป็นทางเลือกที่มีอยู่แต่ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีข้อจำกัดเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มกัน และหากเรายอมรับอำนาจศาล ICC แบบเต็มรูปแบบ กัมพูชาหรือใครในโลกก็สามารถฟ้องไทยได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์มากกว่าในตอนนี้คือเรื่องอนุสัญญาออตตาวา ที่เกี่ยวข้องกับการฝังทุ่นระเบิด ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานให้สังคมนานาชาติรับรู้ได้ว่ากัมพูชาเป็นผู้กระทำเอง

ประชาชนตัดสินใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีกลไกถ่วงดุลอำนาจ

ทัศนะของนายจตุพร เน้นย้ำว่า ตราบใดที่มีกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยกล่าวถึงรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ยกองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมา ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 จะกระชับและเบ็ดเสร็จเด็ดขาดขึ้น

แต่เมื่อนักการเมืองยอมรับกติกาและเข้าสู่การเมือง ก็ต้องเล่นตามกติกา นายจตุพร โต้แย้งแนวคิดที่ว่าควรให้ประชาชนตัดสินใจในการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเชื่อว่าการเลือกตั้งในประเทศไทยมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้าน

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกถ่วงดุลอำนาจ เช่น การตรวจสอบจากเสียงข้างน้อยหรือกระบวนการอื่น ๆ เพื่อคานอำนาจเสียงข้างมาก ไม่ให้เสียงข้างมากเป็นตัวกำหนดความถูกต้องได้

เห็นด้วย "นายกฯ อิ๊งค์" ชี้แจงศาลด้วยตัวเอง

นายจตุพร วิจารณ์พรรคเพื่อไทยว่า ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะเรื่อง สว. ที่ร่วมโหวตเลือกนายกฯ แต่กลับไม่จริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจังตั้งแต่แรก และเพิ่งมาคิดแก้เมื่อตนเองหรือพรรคกำลังเผชิญกับคดีมาตรฐานทางจริยธรรม

นายจตุพร เชื่อว่านายกรัฐมนตรีควรไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง เพราะเป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องกล้าเผชิญปัญหา และหากคิดจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ต้องไป นายจตุพรตั้งข้อสังเกตว่าคำชี้แจงของนายกฯ อาจมีความย้อนแย้งหรือขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่เคยแถลงไว้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคดี

นายจตุพร ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าไปฟังการไต่สวนได้ แต่ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสด ส่วนการอ่านคำวินิจฉัยจะอนุญาตให้ถ่ายทอดสดได้

ไม่เชื่อ! "อังเคิลอยากได้อะไร" เป็นเทคนิคเจรจา นายกฯ รอดยาก

สำหรับกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมา นายจตุพรไม่เชื่อว่าคำพูดที่ว่า "อังเคิลอยากได้อะไร" เป็นเทคนิคการเจรจา เขามองว่าการอ้างเทคนิคนี้เป็นการอธิบายย้อนหลัง และเชื่อว่าคนทั่วไปจะไม่เชื่อว่าเป็นเทคนิคการเจรจา พร้อมชี้ถึงความไม่ตรงกันของวันเวลาเหตุการณ์บางอย่างที่นายทักษิณ ชินวัตรพยายามเข้ามาช่วยอธิบาย ซึ่งกลับยิ่งมัดตัวมากขึ้น

นายจตุพรประเมินว่า นายกฯ มีโอกาสรอดคดียากมาก ท่ามกลางกระแสข่าวและความนิยมที่ตกต่ำเหลือ 4%. หากนายกรอดจากศาล ก็จะต้องเผชิญหน้ากับประชาชน ซึ่งความนิยมศรัทธาได้หมดไปแล้ว และมองว่าประชาชนจะไม่ยินดีกับการกลับมาของนายกฯ และอาจเกิดการต่อต้านอย่างกว้างขวาง

ไทยไม่กล้าลุยฟ้องICC เพราะมี "แผล" จากอดีต

ในประเด็นการฟ้องคดีอาญาระหว่างประเทศกับผู้นำกัมพูชา นายจตุพรเชื่อว่าการที่รัฐบาลไทยไม่กล้าฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เป็นเพราะมี "แผล" ในอดีตจากคดีที่เกี่ยวข้อง และอาจถูกลากเข้าไปในคดีอื่น ๆ ได้

การฟ้องร้องผู้นำกัมพูชาในศาลไทยเป็นการ "ฟ้องแก้เกี้ยว" เท่านั้น เพราะไม่มีผลในทางปฏิบัติ และจะปิดช่องทางการเจรจาสองฝ่ายในอนาคต ทำให้สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาอาจไม่จบสิ้น และมองว่ารัฐบาลปัจจุบันตกเป็นเบี้ยล่างของกัมพูชาและมีการเสียเปรียบหลายด้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผ่าทางรอด? "แพทองธาร" สู้คดีคลิปเสียงฮุน เซน แนะชี้แจงศาลด้วยตัวเอง!

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PPTV HD 36

กฟภ.แจงปมบิลค่าไฟเก่า ส่วนมาตรการเยียวยา เริ่มเดือน ก.ค.-ส.ค.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพภาค 2 คาดเสียงระเบิดใกล้ตาควาย ทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิดเอง!

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เช็กแล้ว! ข่าวลือยิงฐานตาควาย เป็นเสียงดังฝั่งกัมพูชา-ไม่เกี่ยวฝั่งไทย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ทุกคน ถูกจำกัดวงเงินโอน 5 หมื่นบาท

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่เจ็บ 4

สยามรัฐ

"ทัพภาคที่ 2 " ยันไม่จริง ! ข่าว "ทหารกัมพูชา" ยิงปืนใหญ่ใส่ฐาน "ปราสาทตาควาย"

สยามรัฐ

"วราวุธ" กำชับ ทีม พม. อุดรฯ จับมือ ทีมสหวิชาชีพ เยียวยาจิตใจ เด็กป.6 ถูกรถกระบะเหยียบหลัง

สยามรัฐ

กองทัพภาค 2 แถลงด่วน! หลังได้ยินเสียงบึ้มสนั่น บริเวณปราสาทตาควาย

สยามนิวส์

ไม่ต้องจ่าย! มท.1 ยืนยัน กฟภ. งดเก็บค่าน้ำ-ค่าไฟ พื้นที่อพยพ 2 เดือน

Khaosod

ย้อนรอย "ผู้นำไทย" ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ จาก "สมัคร" มาถึง "นายกฯอิ๊งค์"

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

กต.ยันคลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดเป็นของจริง ชี้กัมพูชาพยายามบิดเบือน

PPTV HD 36

ยายผงะ! เจอ "งูทับสมิงคลา" ซ่อนในบ้าน "เบ็นซ์ อสรพิษ" เผยพบตัวแรกในตรัง

PPTV HD 36

เจอมือถือปริศนา! ทหารเรือเก็บกู้ทุ่นภูมะเขือ พบหลักฐานโยงเขมร

PPTV HD 36
ดูเพิ่ม