กลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนวิ่งไล่ทำร้าย หนุ่มเมียนมา จนเสียชีวิตคาสะพานลอย
วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าพบชายไม่ทราบชื่อ นอนจมกองเลือด สภาพมีบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าถูกแทงเสียชีวิต อยู่ที่กลางสะพานลอยข้ามแยก ณ ระนอง หลังรับแจ้ง จึงนำกำลังสายตรวจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณกลางสะพานลอยข้ามแยก พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดสีดำ มีเสื้อเชิ้ตคลุม และรองเท้าผ้าใบ นอนอยู่ในสภาพนอนหงาย มีเลือดออกจำนวนมาก สภาพร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลกรีดยาวและลึกหลายแผล ทั้งที่ศีรษะ มือ สะโพก และหลัง
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงตี 2 ตนเห็นกลุ่มวัยรุ่นมากันหลายคน โดยผู้เสียชีวิต วิ่งหนีมาจากทางแยกคลองเตย แล้วข้ามถนนไป ก่อนที่จะมีชายวัยรุ่นอีกหลายคนวิ่งตาม ในมือถือไม้ยาวๆ แต่ตนไม่เห็นว่ามีมีดด้วยหรือไม่ เพราะมันมืดมองไม่ชัด แล้วก็มีเสียงโวยวายกันดังลั่น แต่ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร สักพักก็มีอีกกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์มารับคนที่วิ่งไล่ตามผู้เสียชีวิตแล้วขี่หนีไป ตนก็เพิ่งมารู้ตอนเช้าว่ามีการแทงกันด้วย
แม่ค้าที่อยู่ใกล้กับทางขึ้นสะพานลอย บอกว่า ปกติตอนกลางคืนจะไม่มีใครอยู่ที่ร้าน แต่เมื่อเช้าหลานของตนที่ขี่รถส่งของกะดึกโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า ช่วงประมาณตี 2 เห็นกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน ขี่รถจักรยานยนต์มาประมาณ 5 คัน แล้วก็มีเสียงโวยวายวิ่งไล่กัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ พนักงานรักษาความปลอดภัยของตึกที่อยู่ใกล้กัน บอกว่า ปกติบริเวณนี้จะมีคนเร่ร่อนอาศัยอยู่จำนวนมาก บางครั้งก็เมาเหล้าแล้วนอนอยู่บนสะพาน ตนต้องคอยเดินไปดู แต่เมื่อเช้านี้ตอนที่มาทำงานแล้วรู้ว่ามีคนเสียชีวิตบนสะพานลอย ก็เลยขึ้นไปดู แต่พบว่า ไม่ใช่คนรู้จักหรือคนเร่ร่อนที่เคยเห็น จึงคาดว่าจะเป็นคนนอกพื้นที่
ทางด้าน พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบเอกสารประจำตัวของผู้เสียชีวิต โดยที่ตัวมีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว ตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นชาวต่างชาติ สัญชาติเมียนมา แต่ต้องรอยืนยันให้ชัดเจนก่อน เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่จากการแต่งกาย สันนิษฐานว่าน่าจะเดินทางมาจากที่อื่น เพราะแต่งกายไม่เหมือนคนงานในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อคืนตำรวจสายตรวจมีได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทในพื้นที่โซนนี้ด้วย แต่ต้องไปตรวจสอบก่อนว่า เป็นเหตุที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน. ท่าเรือ อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิด และสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับเชิญเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ ก่อนจะมีการสืบหาเหตุและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน