Open House ‘บ้านหมา-แมวประเวศ’ โฉมใหม่ตอกย้ำนโยบายจัดการสัตว์จรอย่างเป็นระบบ
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานแถลงข่าว “Open House บ้านน้องหมาน้องแมวประเวศโฉมใหม่ (ศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร)” ณ ศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) เขตประเวศ เพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการปรับปรุงศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศให้ได้มาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ และส่งเสริมการหาบ้านใหม่ให้กับสัตว์จรจัด
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม. มีนโยบายดูแลสัตว์จรและสัตว์เลี้ยงในกทม. มาตั้งแต่แรกเริ่ม สำหรับศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ในช่วงแรก ค่อนข้างร้อนและแห้งแล้ง จึงได้ดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีพื้นที่สีเขียว น่าอยู่ และมีมาตรฐานในด้านของสวัสดิภาพสัตว์ โดยรับสัตว์จรเข้ามาซึ่งสัตว์เหล่านี้จะได้รับการดูแลที่ดี
นอกจากนี้ ที่บ้านประเวศยังมีการสร้างกำแพงกันเสียง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ย.68 นี้ เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียง รวมทั้งได้มีนโยบายในการส่งเสริมการอุปการะสุนัขและแมวจร จากที่นี่ให้กลับไปเป็นสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง โดยได้มีการทำงานร่วมกับเครือข่ายองค์กรต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งความร่วมมือกับเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการประชาสัมพันธ์และการทำงานในชุมชน เพราะเครือข่ายมีความเชี่ยวชาญมากกว่าหน่วยงานรัฐ
" กทม. มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่ “ต้นน้ำ” ด้วยการออกข้อบัญญัติเรื่องการจดทะเบียน ฝังไมโครชิป และการกำหนดจำนวนสัตว์ที่สามารถเลี้ยงได้ต่อพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงอย่างรับผิดชอบ มีการทำหมันและฉีดวัคซีนสัตว์จรเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตระหนักดีว่าจำนวนสัตว์จรที่แท้จริงอาจมีมากถึงหลักแสนตัว ไม่ใช่แค่หลักหมื่น
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทำงานอย่างหนัก แต่อัตราการรับอุปการะสัตว์ออกจากศูนย์ฯ ยังค่อนข้างต่ำ โดยต่ำกว่า 500 ตัวใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม โดยเป้าหมายคือการสร้างระบบที่มั่นใจได้ว่าสัตว์ที่ได้รับการอุปการะจะไม่ถูกทอดทิ้งอีกครั้ง” รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ด้าน รองปลัดฯ สุนทร กล่าวว่า เดิมศูนย์ฯ แห่งนี้มีสุนัขอยู่หนาแน่น รวมทั้งในอดีตบริเวณนี้ไม่มีบ้านจัดสรร เป็นทุ่งนา แต่ปัจจุบันบริบทเปลี่ยนไป กทม. จึงได้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น พร้อมคำนึงถึงชุมชนใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบทางเสียงจากการเห่าของสุนัข หลักการสำคัญเราเรียกว่า One Health คน สัตว์ สิ่งแวดล้อม ต้องอยู่กันได้อย่างสมบูรณ์ การดูแลสัตว์ที่นี่จะเน้นสวัสดิภาพของสัตว์ มีการปรับปรุงพื้นที่ให้มีลานวิ่งเล่นและต้นไม้ร่มรื่น และปัจจุบันได้จัดทำเป็น Adopt Center เพื่อส่งเสริมการอุปการะ โดยจะมีการคัดกรองผู้เลี้ยงอย่างละเอียด
“จากนี้ กทม. จะเดินหน้าต่อเนื่องร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะในเรื่องการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงและฉีดฝังไมโครชิปตามห้างและหน่วยเคลื่อนที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ม.ค.69 เพื่อให้สัตว์ได้มีสวัสดิภาพที่ดีและอยู่ร่วมกันได้” รองปลัดฯ กทม.กล่าว
เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ กทม.จึงจัดสถานที่สำหรับรองรับสุนัขและแมวจรจัดใน 4 กรณี ได้แก่ 1. กรณีสงสัยหรือสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า 2. กรณีกัดทำร้ายคนที่มีหลักฐานชัดเจน 3. กรณีมีพฤติกรรมดุร้ายก้าวร้าวที่พิสูจน์ว่าเป็นจริง 4. เจ้าของสัตว์เสียชีวิตหรือสิ้นสภาพการเลี้ยง โดยไม่มีทายาทรับเลี้ยงดูแลต่อ ทั้งนี้ เพื่อให้สัตว์จรจัดได้ใช้ชีวิตอยู่ในสถานพักพิงอย่างเหมาะสมและปลอดภัย ภายใต้การดูแลเอาใจใส่จากสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่
โดยปัจจุบัน กทม.มีสถานพักพิงสัตว์จรจัด 2 แห่ง คือ ศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) และศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกรุงเทพมหานคร (อุทัยธานี)
สำหรับศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) มีขนาดพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ ภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ แบ่งเป็นเรือนเลี้ยงสุนัข 18 เรือน และเรือนเลี้ยงแมว 3 เรือน สามารถรองรับสุนัขได้ประมาณ 1,000 ตัว และแมวประมาณ 300 ตัว บริหารจัดการพื้นที่สำหรับการกักโรคเพื่อสังเกตอาการ การดูแลพักฟื้น การเลี้ยง และการรับอุปการะ
สัตว์จรจัดที่เข้ามาในศูนย์ทุกตัวจะได้รับการตรวจคัดกรองโรค กักสังเกตอาการ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ผ่าตัดทำหมัน ฟื้นฟูสภาพร่างกาย และได้รับการรักษาเบื้องต้นในกรณีที่บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่จะดูแลจนกว่าจะมีเจ้าของมาติดต่อขอรับกลับคืนหรือมีผู้มาขอรับอุปการะ พร้อมทั้งสร้างความคุ้นเคยและสังเกตพฤติกรรมของสุนัขและแมว เพื่อคัดเลือกตัวที่สุขภาพแข็งแรงและมีพฤติกรรมที่เหมาะสมมาประชาสัมพันธ์หาบ้านต่อไป กรณีที่ไม่มีเจ้าของมาติดต่อขอรับกลับคืน หรือไม่มีคนมาขอรับอุปการะ สุนัขจะได้รับการเลี้ยงและดูแลต่อยังศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกรุงเทพมหานคร (อุทัยธานี)
นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ยังเป็นสถานที่รองรับการนำสุนัขและแมวจรจัดที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ มาเข้ารับการผ่าตัดทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำสัญลักษณ์ และนำกลับคืนพื้นที่เดิม เพื่ออยู่ร่วมกับชุมชนโดยไม่เพิ่มจำนวน
นอกจากนี้ ยังมีการมอบของที่ระลึก ให้แก่สำนักงานเขตที่มีผลการดำเนินงานควบคุมจำนวนแมวจรจัดในชุมชนพื้นที่กทม. สูงสุด 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1. สำนักงานเขตบางพลัด 2. สำนักงานเขตวังทองหลาง 3. สำนักงานเขตบางกอกน้อย 4. สำนักงานเขตยานนาวา 5. สำนักงานเขตสายไหม อีกด้วย.