เอกชน เรียกร้องรัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจทันที
การยุบสภาในช่วงเวลานี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนต่างคาดการณ์ว่าอาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศซึมลงไปมากขึ้น โดยเฉพาะภาคธุรกิจร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาหนัก
นางฐนิวรรณ กุลมงคลนายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยกับ'ฐานเศรษฐกิจ' โดยเผยถึงมุมมองและข้อเสนอเกี่ยวกับการยุบสภาและความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพว่า
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการยุบสภาในช่วงนี้ มองว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งในช่วงเวลานี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในด้านการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะสั้น เนื่องจากรัฐบาลที่ไม่มั่นคงและไม่มีความชัดเจนอาจทำให้เกิดการชะงักงันในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ
ปัญหาที่สำคัญ
1.ภาคธุรกิจ: ในภาคธุรกิจหลาย ๆ กลุ่ม เช่น ร้านอาหารและอสังหาริมทรัพย์ กำลังเผชิญกับการลดลงของกำลังซื้อของผู้บริโภค ภาคธุรกิจเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการขาดแคลนการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
2.การท่องเที่ยว: แม้ว่าการท่องเที่ยวจะเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศไทย แต่ตัวเลขการท่องเที่ยวในปีนี้ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการลดลงของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อร้านอาหารและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.ส่งออก: อีกปัจจัยคือการที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาการส่งออกที่ไม่เติบโตตามเป้าหมาย รวมถึงราคาสินค้าที่สูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจทำให้ผู้ส่งออกของไทยยากที่จะแข่งขันในตลาดโลก
การลดลงของกำลังซื้อ เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ประเทศกำลังเผชิญ ซึ่งในปีที่แล้วยังคงมีการจับจ่ายใช้สอยในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจร้านอาหารและอสังหาริมทรัพย์ แต่ในปีนี้ การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้หลายธุรกิจไม่สามารถทำกำไรได้ตามที่คาดหวังไว้
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจับจ่ายในประเทศ
1.การลดลงของนักท่องเที่ยว
จำนวนของนักท่องเที่ยวที่มาถึงไทยในปีนี้ยังไม่สามารถกลับมาสู่ระดับเดิมได้ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงปี 2025 อยู่ที่ประมาณ 60,000 - 70,000 คนต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึงกว่า 90,000 คนต่อวัน
2.การส่งออกที่ไม่ดี
การส่งออกของไทยในปีนี้ยังไม่เติบโตตามที่คาดหวัง ทำให้ภาคการผลิตและการส่งออกของไทยมีรายได้ลดลง
3.การไม่กระตือรือร้นของภาคอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยเริ่มชะลอตัวลงอย่างมาก โดยโครงการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมีจำนวนที่น้อยลงและหลายโครงการต้องหยุดชะงัก เนื่องจากขาดแคลนเงินทุนและกำลังซื้อจากผู้บริโภค
นางฐนิวรรณ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลเฉพาะกาลที่อาจจะอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือนนั้น อาจไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาได้อย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลเฉพาะกาลนั้นอาจไม่มีความมั่นคงเพียงพอในการดำเนินการที่สำคัญและเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว
เชื่อว่า รัฐบาลที่เข้ามามีเสถียรภาพ และสามารถดำเนินการทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้ จะต้องมาพร้อมกับ นโยบายที่ชัดเจนและมีการสนับสนุน จากภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนจากรัฐบาลในเรื่องของการช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชน เช่น การคืนภาษี หรือการจัดตั้งโครงการที่ช่วยให้คนมีแรงจูงใจในการใช้จ่ายมากขึ้น
นางฐนิวรรณได้กล่าวถึงความคาดหวังต่อ นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ที่จะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยระบุว่าผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งต้องมีความสามารถในการจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างนโยบายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจร้านอาหารที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนัก เช่น ปัญหาการลดลงของกำลังซื้อ การขึ้นราคาค่าใช้จ่าย และการชะลอตัวของการลงทุนในภาคต่าง ๆ
ยกตัวอย่าง โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนและผู้ประกอบการอย่างดี โดยเฉพาะจากร้านอาหาร เนื่องจากเป็นโครงการที่สามารถช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยการให้รัฐบาลช่วยแบ่งจ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและช่วยให้ร้านอาหารสามารถขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น
"ทั้งนี้ควรปรับปรุงเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเน้นที่การพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืน และ สนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยการเน้นสนับสนุนภาคการผลิตที่เน้นนวัตกรรมและการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งสามารถนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต"
นางฐนิวรรณกล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งและการได้รัฐบาลใหม่ ที่มี ความมั่นคง จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวจากวิกฤติในปัจจุบันได้ โดยการดำเนินนโยบายที่ตรงกับความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมามีความแข็งแรงและมีการหมุนเวียนที่ดี