“หุ้น Samsung–SK Hynix” ร่วง หลังสหรัฐจำกัดการส่งอุปกรณ์ผลิตชิปไปจีน
"หุ้น Samsung–SK Hynix" ร่วง หลังรัฐบาลทรัมป์ยกเลิกสิทธิยกเว้นการนำเข้าอุปกรณ์ผลิตชิปเข้าสู่จีน จำกัดศักยภาพการผลิตในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 10.12 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นบริษัท Samsung Electronics Co. และ SK Hynix Inc. ร่วงลงในวันจันทร์ หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตัดสินใจจำกัดความสามารถของผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลกในการจัดส่งอุปกรณ์สำคัญไปยังโรงงานขนาดใหญ่ในจีน
คำตัดสินที่ไม่คาดคิดนี้อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก แม้ว่าทั้งสองบริษัทเกาหลีใต้จะมีโรงงานในประเทศ แต่การผลิตในจีนยังคงมีสัดส่วนใหญ่ต่อผลผลิตรวมทั่วโลก โดยหุ้น Samsung ร่วงลงมากกว่า 2% ส่วนหุ้น SK Hynix ลดลงกว่า 4% ในการซื้อขายช่วงเช้า
ทั้ง Samsung และ Hynix ซึ่งแข่งขันกับ Micron Technology Inc. ผลิตชิ้นส่วนหลักที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทั้งหมด ตั้งแต่ iPhone ของ Apple Inc. ไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ AI ของ Nvidia Corp. เดิมที ทั้งสองบริษัทสามารถนำเข้าอุปกรณ์ผลิตชิปเข้าสู่จีนได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตใหม่ทุกครั้ง แต่ปัจจุบันได้รับการขยายเวลาเพียง 120 วันก่อนที่ “สิทธิยกเว้น” (waiver) จะหมดอายุ ตามประกาศใน US Federal Register โดยบริษัทสามารถยื่นขอใบอนุญาตเพื่อดำเนินการต่อได้
รัฐบาลสหรัฐ ภายใต้ทรัมป์มีแผนแก้ไขกฎที่เรียกว่า validated end user (VEU) ซึ่งจะจำกัดความสามารถในการผลิตชิปในจีน และกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีของจีน
สิทธิยกเว้นดังกล่าวมีมาตั้งแต่ปี 2566 เมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ผู้ผลิตชิปเกาหลีใต้สามารถจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อรักษาและขยายโรงงานขนาดใหญ่ในจีนได้ โดยถือเป็นการผ่อนปรนจากข้อจำกัดที่ห้ามส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิประดับสูงไปยังจีน
SK Hynix ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทจะรักษาการสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับทั้งรัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐ และดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ
เจฟฟรีย์ เคสเลอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ที่กำกับดูแลด้านการควบคุมการส่งออก ระบุในถ้อยแถลงว่า “รัฐบาลทรัมป์มุ่งมั่นที่จะอุดช่องโหว่ด้านการควบคุมการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ทำให้บริษัทสหรัฐเสียเปรียบในการแข่งขัน และคำตัดสินวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”
คำตัดสินครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ทรัมป์พบกับ อี แจ มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่กำหนดอัตราภาษีสินค้าจากเกาหลีใต้ที่ 15% ช่วยให้รอดพ้นจากอัตราภาษี 25% ที่ทรัมป์เคยขู่จะใช้
ตามการวิจัยของ Bernstein การยกเลิกสิทธิยกเว้นจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อยอดขายตลาดเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทที่ไม่ใช่จีนใช้จ่ายเพียง 2 พันล้านดอลลาร์ไปกับอุปกรณ์ใหม่ในโรงงานที่จีนในปี 25567 คิดเป็นไม่ถึง 2% ของยอดขายอุปกรณ์ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดีโรงงานในจีนที่เป็นของบริษัทต่างชาติมีบทบาทเกินกว่าสัดส่วนการลงทุน โดยคิดเป็น 10% ของการผลิตหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ทั่วโลก และ 15% ของการผลิตชิปจัดเก็บข้อมูล
อ้างอิง : bloomberg.com