เจาะแนวคิดกำนันตำบลท่าทราย ทำอย่างไรให้เงินบุญเข้าวัดทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
จากสภาวะปัจจุบันที่พบว่ามีหลายวัดเกิดปัญหาอันหลากหลาย จนนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาหรือความศรัทธาที่ลดน้อยถอยลงของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระสงฆ์ ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อการดูแลศาสนสถาน และศาสนวัตถุไปด้วยนั้น แต่ทั้งนี้ก็นับว่าเป็นเพียงส่วนน้อยหากเทียบกับวัดจำนวนมากที่มีอยู่ในประเทศไทย ยังคงมีหลายวัดที่พุทธศาสนิกชนหรือชาวบ้านในพื้นที่ ได้ช่วยกันให้การดูแลบำรุงศาสนสถาน และมีแนวทางการบริหารจัดการกับวัดที่น่านำมาปฏิบัติตาม อย่างเช่น ที่วัดศรีเมือง ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร
นายวรชาติ สายน้ำผึ้ง กำนันตำบลท่าทราย ได้บอกแนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่วัดศรีเมืองซึ่งเป็นวัดในพื้นที่ โดยได้ดำเนินการมานานถึง 13 ปีแล้ว คือ การร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ดูแลรับผิดชอบศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ด้วยกัน อย่างเช่นที่วัดศรีเมือง ชาวบ้านก็มีส่วนร่วมที่เห็นเด่นชัด คือ การร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีตามกำลังศรัทธา โดยทรัพย์ที่ได้จะนำฝากเข้าสู่บัญชี “สมทบทุนทอดผ้าป่าเพื่อบูรณะโบสถ์วัดศรีเมือง” ซึ่งบัญชีนี้มีวัตถุประสงค์หลักของการใช้จ่ายคือ เพื่อบูรณะโบสถ์ สิ่งที่เป็นศาสนสถาน และศาสนวัตถุ หรือสิ่งอื่นใดที่จำเป็นที่อยู่ภายในบริเวณวัดศรีเมือง โดยการเบิกจ่ายก็จะมีทั้งผู้แทนกรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และ ผู้ที่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งจากชาวบ้าน ร่วมกันพิจารณาทุกครั้ง ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการทอดผ้าป่าสามัคคีในแต่ละปีเมื่อช่วงวันเข้าพรรษา มาใช้ในการบูรณะวัดศรีเมืองตามที่เจ้าอาวาสวัดเห็นสมควร ไม่เกี่ยวกับบัญชีของวัดที่อยู่ภายใต้อำนาจการตัดสินใจของเจ้าอาวาสวัด ซึ่งก็ได้ดำเนินการเช่นนี้มาเป็นเวลานานถึง 13 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาก็เช่น การบูรณะโบสถ์ การซ่อมแซมเมรุที่ถูกฟ้าผ่า การปรับพื้นผิวทางเดิน ร่องน้ำ
รวมถึงการปรับสภาพพื้นที่โดยรอบในวัดให้มีความปลอดภัยต่อผู้ที่มาเข้าวัดทำบุญอีกด้วย ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีเงินเหลือพอที่นำมาพัฒนาวัดศรีเมืองให้เป็นวัดที่พึ่งของชุมชนอย่างแท้จริง ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เชื่อได้คือ วัดศรีเมือง ตำบลท่าทราย จ.สมุทรสาคร จะยังคงเป็นวัดที่รองรับพุทธศาสนิกชนทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติให้เข้ามาทำบุญได้อย่างยั่งยืนตลอดไป นั่นเพราะการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังและจริงใจของผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่