DSI เผยคำพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา คดี “อนาจารออนไลน์”
DSI เผยคำพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา คดี “อนาจารออนไลน์” ชี้ภัยคุกคามเด็กในโลกดิจิทัลเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด
จากการที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ มอบหมายให้ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่กองปฏิบัติการพิเศษ ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PDPC) และสนธิกำลังร่วมกับลิฟท์อินเตอร์เนชั่นแนล (LIFT INTERNATIONAL) องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (OUR Rescue), มูลนิธิไซเอนเทียโปรแกรม (The Scientia Program) และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย (ThaiHotline) ลงพื้นที่ตามหมายค้น และหมายจับ 4 จุดพร้อมกัน
ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดตรัง เปิดปฏิบัติการจับกุมและตรวจค้นขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ/คลิปวิดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram ผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย จับกุมตัวได้ 3 ราย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมานั้น
วันที่ 22 ส.ค.2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยแพร่คำพิพากษาศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อทย 54/2568 คดีหมายเลขแดงที่ อทย 390/2568 คดีขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ/คลิปวิดีโอลามกผ่าน www.asianclip.xyz และ Telegram ชื่อ Asinclip
ต่อมา ศาลศาลอาญาได้มีคำพิพากษา ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายธัชพล (จำเลยที่1) ถูกฟ้องในข้อหา นำเข้าสู่ระบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก เผยแพร่หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์, ทำ ผลิต มีไว้ประกอบการค้า หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก และ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งนายธัชพล ให้การปฏิเสธ ศาลมีคำสั่งให้แยกฟ้องเป็นคดีใหม่
นายธนากร (จำเลยที่ 2) พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งฟ้องในความผิด ฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ฐานครอบครอง สื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ และ ฐานชักจูง ยุยง ส่งเสริม ให้เด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี แสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน โดยศาลได้พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวมทั้งสิ้น 1 ปี 12 เดือน และริบของกลางทั้งหมด
และ 3 นายทรงวุฒิ (จำเลยที่ 3) พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งฟ้องในความผิด ฐานยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน (บัญชีม้า) โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ศาลได้พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม จำคุก 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวมทั้งสิ้น 2 เดือน และริบของกลางทั้งหมด
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอเตือนว่าการล่อลวงเด็กให้ถ่ายภาพโป๊เปลือย ถือเป็นการ “กระทำอนาจาร” แม้ไม่เคยพบเหยื่อในชีวิตจริง แต่หากกระทำผ่านสื่อออนไลน์ก็มีความผิดและถูกลงโทษตามกฎหมาย อีกทั้งหากมีการรวมกลุ่มหรือสนับสนุนธุรกรรมใดๆ ให้เครือข่ายดังกล่าว ศาลถือว่าเข้าข่าย “องค์กรอาชญากรรม” มีโทษทางกฎหมายทั้งสิ้น
จึงขอให้ผู้ปกครอง ครู และสังคมทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวัง และหากพบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน DSI 1202 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก เพื่อให้เด็กได้รับการคุ้มครองอย่างทันท่วงที
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : DSI เผยคำพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา คดี “อนาจารออนไลน์”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th