SPRC รอวันคัมแบค? หลังราคาร่วงจากต้นปี 28% กูรูชูป้ายทั้ง “ซื้อ” และ “Trading” คาดกำไรครึ่งปีหลังฟื้น-ปันผลสม่ำเสมอ
ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน โดยวันที่ 22 ส.ค.68 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 4.66 บาท ลดลง 1.30% จากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 67.27 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากนับจากต้นปีราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปแล้ว 28.31% จากระดับ 6.50 บาท ณ วันที่ 2 ม.ค. 68
โดยคาดว่าปัจจัยที่กดดันราคาหุ้น SPRC ให้ปรับตัวลดลงอย่างหนักตั้งแต่ต้นปี เกิดจากค่าการกลั่น (GRM) ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลประกอบการต่ำกว่าคาด อีกทั้งขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน และราคาน้ำมันโลกที่ยังคงผันผวน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันภายนอกอย่างค่าเงินบาทกับอุปสงค์ในเอเชียที่ฟื้นช้ากว่าคาด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองในทิศทางใกล้เคียงกัน โดยแนะนำทั้ง “ซื้อ” และ “Trading” หุ้น SPRC โดยมองว่าราคาหุ้นยังปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่มโรงกลั่น แม้จะเผชิญภาวะขาดทุนแต่บริษัทยังคงจ่ายปันผลสม่ำเสมอ อีกทั้งคาดอัตราผลตอบแทนปีนี้อยู่ที่ราว 6.3% ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกและปี 2567 จากค่าการกลั่นที่ปรับดีขึ้น, อัตราใช้กำลังการกลั่นที่สูงขึ้น และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว หนุนประมาณการกำไรทั้งปีอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท แม้ยังถูกกดดันจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 2569
โดย บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) “ซื้อ” หุ้น SPRC ด้วยราคาเป้าหมาย 7.90 บาท จากราคาหุ้นที่ยังปรับขึ้นช้ากว่าหุ้นโรงกลั่นอื่น ๆ และ SET แม้จะขาดทุน แต่ SPRC ประกาศจ่ายเงินปันผลสะท้อนแนวทางการมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยจ่ายเงินปันผลจากกำไรที่ไม่รวมผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ทั้งนี้ คาดการณ์อัตราเงินปันผลปีนี้ 6.3% ซึ่งถือเป็นระดับน่าสนใจ
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “Trading” หุ้น SPRC ด้วยราคาเป้าหมาย 5.80 บาท โดยแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2568 ฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก และจากปีก่อนหน้า เนื่องจากขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากไม่น่าเกิดขึ้น, คาดอัตราใช้กำลังกลั่นเร่งตัวขึ้นรองรับความต้องการใช้ในประเทศ เพราะเป็นช่วงหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงกลั่นแห่งอื่นในประเทศ, ค่าการกลั่นฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะกลุ่ม Middle Distillate (ดีเซลอากาศยาน) จากการปิดตัวของโรงกลั่นในภูมิภาคยุโรป, การส่งออกของรัสเซียลดลง, กิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยว
โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 1 พันล้านบาท ทั้งนี้การฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จะเป็นการฟื้นตัวจากฐานต่ำ และปัจจัยบวกบางส่วนจะถูกจำกัดด้วยทิศทางส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินที่อ่อนแอในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 (SPRC มีสัดส่วนการกลั่นสูงกว่าคู่แข่ง) รวมทั้งบริษัทฯ มีกำหนดการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ตามวัฏจักรทุก 5-6 ปี ในไตรมาส 1/69 (ครั้งก่อน ไตรมาส 4/62) ทำให้อัตราการกลั่นไตรมาส 1/69 ลดลง และอาจทยอยบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ไตรมาส 4/68