พิพัฒน์ ห่วงปมการเมือง ป่วนงบปี 69 ล่าช้า เสี่ยงฉุดจีดีพีทรุด 1%
พิพัฒน์ ห่วงการเมืองป่วนงบปี 69 ล่าช้า เสี่ยงฉุดจีดีพีทรุด 1%
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ปัจจัยที่มีผลต่อนโยบายในการบริหารงานประเทศในช่วงต่อไปเป็นเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งหวังว่าสถานการณ์จะสามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้รัฐบาลและข้าราชการขับเคลื่อนนโยบายให้เดินหน้าต่อไป โดยความกังวลและเป็นห่วงมากที่สุดคือ งบประมาณประจำปี 2569 ที่หวังว่าจะไม่มีอะไรเข้ามากระทบจนส่งผลให้เกิดการล่าช้าออกไป เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว โดยหากงบประมาณล่าช้าจากปกติ การเบิกจ่ายที่ล่าช้าจะมีผลกระทบต่อจีดีพีอาจสูงถึง 1% ได้ เพราะมีผลกระทบกับความคาดหวังของภาคเอกชนและภาครัฐในการตัดสินใจ จึงถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่
“ทุกครั้งที่เกิดความไม่แน่นอน ทุกคนก็รอดูสถานการณ์เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนเป็นหลัก อาจเป็นความเสี่ยงทำให้ทุกอย่างชะลอตัว รอตัดสินใจเมื่อมีความชัดเจนอีกครั้ง ทำให้เกิดผลกระทบระยะสั้นได้ แต่หากสถานการณ์คลี่คลายจากระยะสั้นๆ นี้ ก็น่าจะทำให้เกิดความชัดเจน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจ” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ภาพรวมของคดีนายกรัฐมนตรีและแนวโน้มการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะออกมาเชิงบวกหรือลบ อาจไม่ได้กระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจมากขนาดนั้น สถานการณ์ขึ้นอยู่กับการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนเยอะกว่า แต่รัฐบาลก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นส่วนของราชการก็คงเบิกจ่ายไปต่อได้ แต่ความสำคัญเป็นเรื่องความเชื่อมั่น และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอนคือ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ที่ต้องผ่านไปให้ได้ จากนั้นจะเป็นความไม่แน่นอนทางการเมืองปกติ ที่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาก็ต้องดูนโยบายว่าเป็นอย่างไร การขับเคลื่อนเชิงนโยบายจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจคงไม่ได้มีมากนัก
=นโยบายการเงิน-คลังทำคู่กัน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นโยบายการเงินและการคลังในการขับเคลื่อนต่อจากนี้ มองว่าควรมีการสอดประสานกันมากขึ้น รวมถึงนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่ต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 3 ด้าน เพราะทำอย่างเดียว อาทิ การลดดอกเบี้ยนั้น อาจไม่ได้ช่วยมากขนาดนั้น เพราะความท้าทายของเศรษฐกิจไทยทั้งปัจจัยพื้นฐาน ปัญหาเชิงโครงสร้างต่างๆ ความสามารถในการแข่งขันยังต้องได้รับการปรับปรุง อาทิ ทักษะของแรงงานจะต้องพัฒนาเพิ่มเติมให้ทันโลกใหม่มากขึ้น ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลอาจต้องพิจารณาดำเนินการอย่างจริงจังในการช่วยเหลือด้านต่างๆ
=ยก3เรื่องสำคัญครึ่งปีหลัง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ แนวโน้มที่สำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ภาคการท่องเที่ยวที่ตัวเลขยังชะลอตัว แต่ถือเป็นเครื่องจักรเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำให้หากช่วงที่เหลือของปีการท่องเที่ยวยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาอย่างเห็นได้ชัด จะเป็นตัวดึงเศรษฐกิจลง 2.อุตสาหกรรม ที่เห็นการส่งออกดีมากช่วงครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลังจึงอาจชะลอตัวลง มีผลต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และ 3.การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังเห็นการขยายตัวที่ติดลบ แม้มาจากฐานที่สูง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า ระหว่างที่เศรษฐกิจชะลอตัว แรงส่งของสินเชื่อและภาวะทางการเงินยังไม่ได้เป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พิพัฒน์ ห่วงปมการเมือง ป่วนงบปี 69 ล่าช้า เสี่ยงฉุดจีดีพีทรุด 1%
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th