โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

‘บุหรี่ไฟฟ้า’ จากภัยยาสูบ สู่ยาเสพติด สิงคโปร์ประกาศวาระแห่งชาติ สั่งปราบปรามเด็ดขาดเพื่อปกป้องเยาวชน

TODAY

อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 1.14 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • workpointTODAY

ที่ผ่านมา เรามองบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเพียงยาสูบ มีโทษสูงสุดแค่ปรับเงิน แต่ตอนนี้ไม่พออีกต่อไป” ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง บนเวที National Day Rally เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา สะท้อนชัดว่า รัฐบาลสิงคโปร์มองบุหรี่ไฟฟ้าเป็น ‘ปัญหายาเสพติด’ที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง หมุดหมายนี้ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ในฐานะประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

จากเดิมที่การครอบครองหรือใช้งานบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษแค่เพียงค่าปรับ แต่หลังจากนี้ รัฐบาลเตรียม ‘ยกระดับบทลงโทษ’ ให้รุนแรงกว่าเดิมถึงขั้นจำคุก โดยเฉพาะต่อผู้ลักลอบขายหรือนำเข้าสารอันตรายผสมในบุหรี่ไฟฟ้า การประกาศบนเวทีระดับชาติครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแสดงจุดยืนด้านกฎหมาย แต่เป็นการยกระดับประเด็นบุหรี่ไฟฟ้าไปสู่ ‘วาระแห่งชาติ’ ที่เกี่ยวโยงกับทั้งสังคมและความมั่นคงของประเทศโดยตรง

จากแค่ปรับ สู่โทษจำคุก

สิงคโปร์ประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2018 ภายใต้กฎหมาย Tobacco (Control of Advertisements and Sale) Act ซึ่งกำหนดโทษปรับสูงสุด 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 50,000 บาท สำหรับผู้ครอบครองหรือใช้ และปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 253,000 บาท) หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน สำหรับผู้ที่ขายหรือโฆษณา

ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลยังเดินหน้ารณรงค์อย่างเข้มข้น เช่น แคมเปญ ‘Bin the Vape’ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทิ้งบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงการออกกฎห้ามครอบครองหรือใช้อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (NTU) และ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS)

แต่แม้กฎหมายจะเข้มเพียงใด ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้ายังคงลุกลาม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ตัวอย่างล่าสุด เมื่อกลางเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานวิทยาศาสตร์สุขภาพสิงคโปร์ (HSA) ได้บุกตรวจสถานบันเทิงหลายแห่ง ยึดของกลางได้กว่า 280 เครื่อง และจับกุมผู้กระทำผิดมากถึง 115 คน อายุระหว่าง 17–61 ปี

เหตุการณ์นี้สะท้อนชัดว่า แม้จะมีการแบนมานานกว่า 6 ปี บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังฝ่าฝืนแพร่กระจาย รัฐบาลจึงประกาศเดินหน้าขยายโทษรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะต่อผู้ลักลอบขายหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้องห้าม รวมถึงโทษจำคุก เพื่อส่งสัญญาณชัดเจนว่า ‘การปราบปรามครั้งนี้เอาจริง และไม่เปิดทางให้ผ่อนปรนอีกต่อไป’

‘Kpods’ จุดเปลี่ยนที่รัฐไม่อาจมองข้าม

สิ่งที่ผลักดันให้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสิงคโปร์รุนแรงเกินกว่าจะเพิกเฉย คือการตรวจพบ บุหรี่ไฟฟ้าผสมสาร Etomidate หรือ Kpods สารยาสลบออกฤทธิ์เร็วที่ใช้เฉพาะในโรงพยาบาล แต่กลับถูกนำมาผสมในบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อสร้างฤทธิ์ทางประสาทที่รุนแรงกว่าเดิม

ข้อมูลจากสำนักงานวิทยาศาสตร์สุขภาพสิงคโปร์ (HSA) ระบุว่า เพียงครึ่งแรกของปี 2025 ก็พบคดีที่เกี่ยวข้องกับ Kpods มากถึง 28 คดี เกือบสามเท่าของปี 2024 ปรากฏการณ์นี้ชี้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียง ‘ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผิดกฎหมาย’ แต่กำลังกลายเป็น ประตูสู่ยาเสพติด

บนเวที National Day Rally นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง เตือนว่า “วันนี้อาจเป็น Etomidate แต่วันข้างหน้าอาจเป็นสารที่อันตรายยิ่งกว่า” คำเตือนนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงภัยสุขภาพ แต่ยังโยงไปถึง ความมั่นคงทางสังคมและอาชญากรรมข้ามชาติ ที่อาจตามมา

ขณะเดียวกัน ในเชิงการเมือง สิงคโปร์ยังคงเดินตามแนวทาง ‘ตัดไฟแต่ต้นลม’ ใช้กฎหมายเข้มและบังคับใช้อย่างเด็ดขาด เพื่อส่งสัญญาณว่า รัฐพร้อมป้องปรามก่อนที่เยาวชนจะถูกดึงเข้าสู่สารเสพติดที่ร้ายแรงกว่า แม้จะเสี่ยงถูกมองว่าเข้มงวดเกินไปในสายตานักท่องเที่ยว แต่รัฐบาลยอมแลกเพื่อคงภาพลักษณ์ประเทศที่ ปลอดภัย มีระเบียบ และน่าอยู่

จากสิงคโปร์ สะเทือนถึงอาเซียน

การประกาศยกระดับบุหรี่ไฟฟ้าเป็น ‘ภัยยาเสพติด’ ของสิงคโปร์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงในประเทศ แต่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอาเซียน ในฐานะศูนย์กลางการเงินและการท่องเที่ยว สิงคโปร์เลือกเดินหน้าด้วยมาตรการเด็ดขาดที่สุดหรือ ‘Zero Vape Policy’ ไม่เปิดช่องให้มีการใช้ในทุกรูปแบบ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของประเทศที่ปลอดภัย มีระเบียบ และพร้อมตัดไฟแต่ต้นลม

เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ความแตกต่างชัดเจนทันที เช่น ไทย ยังถกเถียงอยู่ว่าจะปลดล็อกเพื่อเก็บภาษีและควบคุมอย่างเป็นระบบ หรือคงมาตรการแบนถาวร, มาเลเซีย เพิ่งเริ่มออกกฎหมายควบคุมแต่ยังไม่ถึงขั้นห้ามเต็มรูปแบบ, ส่วนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ใช้มาตรการเข้มกับเยาวชนและการเข้าถึง แต่ไม่ได้ห้ามสิ้นเชิง

ท่าทีแข็งกร้าวของสิงคโปร์จึงไม่เพียงแต่กลายเป็นตัวอย่างของ ‘การเมืองเชิงป้องปราม’ ที่เด็ดขาด แต่ยัง กดดันให้ประเทศรอบข้าง โดยเฉพาะไทย ต้องเร่งหาท่าทีที่ชัดเจน คำถามคือ มาตรการแบบสิงคโปร์จะเป็นเกราะปกป้องเยาวชนได้จริง หรือแค่ผลักพวกเขาไปสู่ตลาดมืด? และไทยพร้อมหรือยังที่จะเลือกระหว่างโมเดลเข้มข้นแบบสิงคโปร์ หรือเส้นทางที่ต่างออกไป?

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY

ฮิตช้าแต่ฮิตนะ ‘ลิซ่า’ แปลงร่างเป็น ‘ลาบูบู้’ ตอกย้ำความแรงทั่วอังกฤษ

37 นาทีที่แล้ว

AWC เผยโฉม “Jurassic World: The Experience” สร้างปรากฏการณ์ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการด้วยยอดจองต่อเนื่องยาวหลายเดือน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

‘สวอตช์’ ร่อนจดหมายขอโทษภาพนายแบบทำท่าตาตี่ สั่งถอดโฆษณาทั่วโลก

เดลินิวส์
วิดีโอ

นอนคุกยาว! วัน มรณา โดนสั่งปลดจากตำแหน่งออกญา-ค้านประกันตัว

WeR NEWS

กองทัพเมียนมาทิ้งระเบิดเขตชุมชนบนเทือกเขา ตายมากกว่า 20 คน

Thai PBS

FSB รัสเซียยืนยัน สกัดแผนบึ้มสะพานไครเมียสำเร็จ แฉ!! ‘ยูเครน’ วางแผนใช้คนขับรถระเบิดพลีชีพ…แบบไม่รู้ตัว

THE STATES TIMES

เจอคลิปแล้ว "หมาป่า" ขาติดต้นไม้ ตร.ใจกล้าเข้าช่วย แต่คนโฟกัสเสียงเห่า วนฟังกันไม่เลิก!

sanook.com

หอการค้า ‘เกาหลีใต้’ เสนอ รับบัณฑิตต่างชาติอีก 1 ล้านคน ช่วยกระตุ้นจีดีพี 6%

เดลินิวส์

"กต."เตรียมยื่นหลักฐานบนเวทีอนุสัญญาออตตาวา 22 ส.ค. พร้อมหนุนกดดัน “กัมพูชา” หลังลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย

สยามรัฐ

พระเอกดัง เปิดใจเผยอาจเสี่ยงป่วย อัลไซเมอร์สูง 10 เท่า หลังเจอปัญหาสุขภาพครั้งใหญ่ในชีวิต (ข่าวต่างประเทศ)

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

กษัตริย์มาเลย์ฯ เยือนรัสเซีย จุดเปลี่ยนอาเซียนในเวทีโลก?

TODAY

ถอดบทเรียน “รัฐสวัสดิการเชิงรุก” แบบสิงคโปร์ แจกคูปองเงินสดให้ประชาชนใช้จ่ายทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น ไทยเรียนรู้อะไรได้บ้าง?

TODAY

‘LAS VEGAS SANDS’ โครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ในสิงคโปร์ คาดเป็นจุดหมายด้านความบันเทิง 8 พันล้านเหรียญ

TODAY
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...