พ้นเดดไลน์ โอลิมปิคไทย ไม่ทน เดินหน้าทวง เบี้ยเลี้ยง ซีเกมส์ ค้างจ่าย 4 เดือน
คณะกรรมการโอลิมปิคไทย นัดหมาย นายกสมาคมกีฬาชุดเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขัน ซีเกมส์ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ถกปมปัญหาเรื่องเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวและค่าผู้ฝึกสอนค้างตั้งแต่เดือนมีนาคม ทั้งๆที่เหลือเวลาอีก 3 เดือนเศษ เป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท หลังผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องรับปากจะแก้ไขแต่ผ่านมา 2 สัปดาห์ยังไม่มีวี่แววความคืบหน้า 25 ส.ค.นี้ "ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์" ย้ำถือเป็นความอับอายและถือเป็นยุคตกต่ำของกีฬาไทย ที่ไม่ควรเกิดขึ้นประเทศเจ้าภาพแต่นักกีฬายังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงถือเป็นเรื่องน่าเศร้าใจมาก
สืบเนื่องจากการประชุมกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ว่าด้วยเรื่องการติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณของสมาคมกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 18 ส.ค.68 โดยครั้งนี้ป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 248,520,000 บาท โดยมีการเบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 208,452,137.69 บาท คงเหลือ 40,346,430.31 บาท ที่ยังไม่ได้จ่ายให้กับสมาคมกีฬาฯเพื่อเป็นเบี้ยเลี้ยงการฝึกซ้อมของนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ที่ตกค้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกองทุนฯ ได้ขอให้สมาคมกีฬาฯที่ยังไม่ได้รับเงินตรงนี้ส่งเอกสารการเบิกจ่ายมายังฝ่ายคลังฯของกองทุนฯ ภายใน 7 วัน คือ ก่อนวันที่ 31 ส.ค.นี้
จากกรณีดังกล่าว นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตนมองว่าปัญหาการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้นักกีฬาล่าช้าและมียอดค้างจ่ายสะสมมากว่า 4 เดือนนี้ เป็นปัญหาที่กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการเบิกจ่าย โดยเอกสารทั้งหมดจะต้องผ่านกองทุนก่อน จากนั้นผู้จัดการจะเซ็นเอกสารและส่งสำเนาให้ ฝ่ายเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย ส่วนตัวจริงจะส่งให้สมาคมกีฬา หลังจากนั้น สมาคมต้องนำใบเสร็จที่มีข้อมูลตรงกับที่ขอไว้ไปส่งให้ฝ่ายการคลังของกองทุนฯ เพื่อดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีของสมาคมต่อไป โดยข้อมูลอัปเดตต่างๆ ต้องสอบถามจากกองทุนโดยตรง
ทั้งนี้แนวทางการแก้ปัญหาจากกองทุนฯ คือ กองทุนฯ มีแนวคิดที่จะนำระบบ "ไอที" เข้ามาช่วยให้ขั้นตอนการขอ การลงนาม และการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมดสามารถทำได้ในแอปพลิเคชันเดียว อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ถูกสมาคมกีฬาฯ แย้งขึ้นมาว่าอาจขัดต่อกฎหมาย ทำให้เป็นปัญหาในขั้นตอนการส่งเอกสารของสมาคมกีฬาที่ซ้ำซ้อน และ มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก หากทำระบบเดิมคือ ทุกสมาคมกีฬาส่งให้ฝ่านพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศของการกีฬาฯ ก็จะลดขั้นตอนไปได้เยอะ การทำงานของสมาคมกีฬาก็จะกระชับขึ้นมาก
นอกจากนี้ นายชัยภักดิ์ ยังได้กล่าวอีกว่า วันนี้ได้คุยกับ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ แล้ว ท่านบอกว่า ขณะนี้ได้เลยกำหนดที่เราเป็นเด็กดีมาในวันนี้ คือ ครบสองสัปดาห์ที่ทางท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนฯ ได้รับปากที่จะดำเนินการในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงที่ค้างจ่ายแก่นักกีฬามาหลายเดือนแล้ว และขณะนี้ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้า แต่กลับเป็นการโยนปัญหามาให้สมาคมกีฬาต่อการส่งเอกสารโดยอ้างว่าเป็นความล่าช้าของสมาคมกีฬาเอง ดังนั้นเราจึงคิดว่าถ้ามันจะต้องอายไปทั้งอาเซี่ยนก็คงต้องยอมเป็นข่าวแล้ว
"ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมโอลิมปิคฯ ทุกสมาคมที่ยังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมของนักกีฬา ค่าอาหารที่พักตั้งแต่มีนาคม หรือ เมษายน ก็ขอให้มารวมตัวกันที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เพื่อจะมาถกปัญหานี้ร่วมกัน"
นายชัยภักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากถามว่าพวกท่านไม่ละอายใจกันบ้างหรือ ปล่อยกันจนเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้มาให้สัมภาษณ์ว่าจะเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ นี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์เลยตอนนี้ก็ยังเงียบ และการมาอ้างว่าขาด MOA บ้าง ขาดรายงานผลการเก็บตัวบ้างก็ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สมาคมแห่งประเทศไทยต้องไปรายงานกองทุนฯ จริงๆเรื่องนี้ข้อมูลทุกอย่างก็อยู่ที่ฝ่ายเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว ในเมื่อเป็นหน่วยงานภายใต้การกีฬาแห่งประเทศไทยก็น่าจะใช้ข้อมูลเดียวกันนี้"
"ผมเศร้าใจจริงๆที่วงการกีฬาในบ้านเรามันตกต่ำได้ถึงขนาดนี้นี่จะแข่งอยู่แล้วเบี้ยเลี้ยงอาหารเด็กยังค้างนักกีฬาอยู่ได้ตั้งสามสี่เดือน" นายชัยภักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พ้นเดดไลน์ โอลิมปิคไทย ไม่ทน เดินหน้าทวง เบี้ยเลี้ยง ซีเกมส์ ค้างจ่าย 4 เดือน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th