ชี้ช่องกฎหมายผ่อนรถไฟฟ้าไม่ไหวส่งคืนไฟแนนซ์ได้ ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากตัวแทนกลุ่มผู้ใช้รถไฟฟ้า “เนต้า” (NETA) ยื่นหนังสือต่อสภาผู้บริโภค เนื่องจากประสบปัญหาจากการใช้งานรถยนต์ ทั้งจดทะเบียนป้ายขาวไม่ได้ รถเสียไร้อะไหล่ซ่อม ศูนย์บริการปิดตัวหรือปฏิเสธเคลม แม้ก่อนหน้านี้เนต้าและตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางแก้ไข
แต่สภาผู้บริโภคและกลุ่มผู้เสียหายพบว่าคำชี้แจงดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงในเชิงปฏิบัติ และไม่ครอบคลุมความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้บริโภค สภาผู้บริโภค จึงมีการดำเนินคดีช่วยเหลือผู้บริโภคในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม (Class Action) และอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม
ล่าสุดสภาผู้บริโภคได้รับการร้องเรียนเพิ่มเติมจากผู้ใช้รถไฟฟ้า “เนต้า” ที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินและไม่สามารถผ่อนชำระต่อไปได้ จึงแนะนำแนวทางในการดำเนินการคือ การนำรถยนต์ไปคืนให้แก่ บริษัท ไฟแนนซ์ หรือผู้ให้เช่าซื้อรถยนต์ ที่ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไว้ โดยต้องไม่มีประวัติค้างชำระ
ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถคืนรถได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนต่างของราคาที่เหลือ และหากบริษัทไฟแนนซ์ไม่รับคืนรถ ผู้บริโภคสามารถทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาได้ และใช้สิทธิวางทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 333 ได้
เนื่องจากเข้าลักษณะเจ้าหนี้คือบริษัทไฟแนนซ์บอกปัด หรือปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ โดยปราศจากเหตุอันจะอ้างตามกฎหมายได้ โดยนำรถยนต์ดังกล่าวไปวางไว้ที่สำนักงานบังคับคดี ณ ท้องที่ที่ผู้ให้เช่าซื้อตั้งอยู่ และเมื่อมีการวางทรัพย์แล้ว ทำให้ผู้บริโภคหลุดพ้นจากหนี้ที่ต้องชำระ ไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่บริษัทไฟแนนซ์หลังจากวันที่วางทรัพย์
“ผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์เนต้า พร้อมได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับ บริษัท ไฟแนนซ์ และไม่มีประวัติค้างชำระ สามารถใช้สิทธิในฐานะผู้บริโภค ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาและส่งมอบคืนรถยนต์ให้กับ บริษัท ไฟแนนซ์ ที่ได้ทำสัญญาไว้ได้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573
โดยมีขั้นตอนดำเนินการ คือ ให้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และนำไปส่งมอบพร้อมกับนำรถไปคืนที่บริษัทไฟแนนซ์ คู่สัญญาพร้อมถ่ายภาพรถที่ส่งมอบเป็นหลักฐาน และให้มีการตรวจสภาพรถที่ส่งมอบ”
นายโสภณ กล่าวอีกว่า บริษัท ไฟแนนซ์ อาจพยายามฟ้องร้องผู้บริโภคเพื่อเรียกเก็บค่าส่วนต่างหลังจากคืนรถนั้น โดยศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษามาแล้ว ผู้บริโภคที่ไม่ได้ค้างชำระค่างวดมีสิทธิที่จะคืนรถและไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนต่างที่คงเหลือ รวมถึงมีข้อสัญญาที่กำหนดให้ผู้บริโภครับผิดชอบในส่วนต่างหลังการบอกเลิกสัญญานั้น ถือเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งหากผู้บริโภคพบปัญหาจากการดำเนินการดังกล่าว สามารถติดต่อร้องเรียนได้ที่สภาผู้บริโภค
โดยสภาผู้บริโภคกำลังเร่งขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. …. หรือ “เลมอน ลอว์” โดยหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้จะทำให้ผู้ขายหรือผู้ประกอบการ “เปลี่ยน หรือ คืน” สินค้าชำรุดให้กับผู้บริโภค โดยร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอโดยภาคประชาชนได้ผ่านการตรวจสอบโดยสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วและกำลังรอการบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
ดังนั้น หากมีกฎหมายนี้บังคับใช้ในอนาคต ทำให้ผู้บริโภคที่มีผลิตภัณฑ์ชำรุดที่ซื้อภายใต้สัญญาเช่าซื้อ สามารถหยุดชำระค่างวดได้โดยไม่ต้องคืนผลิตภัณฑ์ จนกว่าจะมีการซ่อมแซมให้ใช้งานได้ ถือว่าหลักการนี้รับประกันความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภคหากไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากความบกพร่อง และไม่ควรมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระค่าสินค้า