“โรม” จี้รัฐบาลยกระดับปราบ “ฮุน เซน” ฟ้องศาล ICC “เท้ง” แนะต้องกดดันทุกช่องทาง
“โรม” จี้รัฐบาลยกระดับเอาผิด “สมเด็จฮุน เซน” ด้วยการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ชี้ จับเข้าคุกในประเทศไม่ใช่สิ่งที่กัมพูชากลัว ด้าน “เท้ง” แนะต้องกดดันทุกช่องทาง
วันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลดำเนินคดีอาญากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยหากพบที่ประเทศไทย สามารถจับกุมได้ทันที ว่า การดำเนินการผ่านกระบวนการยุติธรรมในประเทศไม่ใช่สิ่งที่กัมพูชากลัวที่สุด แต่ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งการลงพื้นที่มาเห็นผู้ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถเป็นผู้ร้องเรียนได้ แต่จู่ๆ ชาวบ้านจะไปร้องเรียนเองก็เป็นไปไม่ได้ ต้องดำเนินการโดยรัฐบาล ที่อำนวยความสะดวกในการร้องเรียน ขณะเดียวกันกัมพูชาก็เป็นภาคีอนุสัญญาศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) อยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่เป็นภาคี กระบวนการจะยกระดับไปสู่ศาล ICC ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปให้สัตยาบัน ตนจึงอยากให้รัฐบาลยกระดับ เพราะถือเป็นสิ่งการันตี จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งตามแนวชายแดนแบบที่ผ่านมามากกว่านั้น
โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์ที่เกิดที่ช่องอานม้าเมื่อช่วงเช้า สะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งที่ประชาชนมองคือความกังวลที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงกว่าการปะทะคารมหรือการผลักกันหรือไม่ ทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนรู้สึกไม่มั่นใจ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการศึกษา วันนี้เด็กบางคนตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน เพราะไม่รู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ครอบครัวจะมีความพร้อมในการอพยพหรือไม่
ดังนั้น หากอยากทำให้เป็นหลักประกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก การฟ้องศาล ICC สามารถทำได้ และไม่ได้เอาผิดเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับไทยเท่านั้น แต่สามารถหยิบประเด็นอื่นเช่นคอลเซ็นเตอร์ ที่เข้าองค์ประกอบและมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้นำกัมพูชามีส่วนเกี่ยวข้อง การโจมตีที่มีเป้าหมายพลเรือน ประกอบกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ที่ทุกประเทศได้รับผลกระทบด้วย ตนเชื่อว่าสามารถสร้างเสถียรภาพตามพื้นที่แนวชายแดน และทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติที่สามารถนั่งคุยเจรจาได้อย่างประเทศศิวิไลซ์ที่หาทางออกเลื่อนเส้นเขตแดน
เมื่อถามว่าทำไมประเทศไทยถึงไม่ยอมฟ้อง สมเด็จฮุน เซน ต่อศาล ICC นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รัฐบาลคงไม่เข้าใจว่า ICC มีกลไกอย่างไร และต้องยอมรับว่าไทยนั้นหลีกเลี่ยงกระบวนการระหว่างประเทศ เพราะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเรื่องนี้ และเชื่อมั่นในกลไกทวิภาคี ซึ่งกลไกทวิภาคีเป็นกลไกที่สำคัญและต้องมาลงรายละเอียดกัน การที่จะให้คนอื่นมาลงรายละเอียดแทนเราเป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับว่ากัมพูชาไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคี แต่ถ้ามีกลไกใดที่ทำให้การเจรจากลับเข้าสู่วงทวิภาคีได้ คือการใช้กลไก ICC ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าหากปล่อยให้สถานการณ์บานปลายออกไป จากเดิมสถานการณ์ความขัดแย้งของคนไม่กี่คนใน 2 ประเทศ จะขยายตัวกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างคนไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจุดเริ่มต้นความขัดแย้งไม่ได้เกิดจากคนไทยและกัมพูชา
ทั้งนี้ ระหว่างสัมภาษณ์มีชาวบ้านถามว่าความขัดแย้งเกิดจากใคร นายรังสิมันต์ ตอบว่า ทุกคนทราบดีว่ามีสาเหตุจากอะไร แต่หากอ้างอิงตามที่กระทรวงการต่างประเทศ ระบุไว้คือเป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้ความขัดแย้งขยายตัวควรจบปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด จะได้กลับมาฟื้นฟูมีความมั่นใจเรื่องการลงทุน
ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้กลไกที่มีอยู่ทั้งระบบยุติธรรมในประเทศและต่างประเทศ ไม่สามารถดำเนินการด้วยกลไกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ต้องดำเนินการกดดันในทุกช่องทาง.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “โรม” จี้รัฐบาลยกระดับปราบ “ฮุน เซน” ฟ้องศาล ICC “เท้ง” แนะต้องกดดันทุกช่องทาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “โรม” จี้รัฐบาลยกระดับปราบ “ฮุน เซน” ฟ้องศาล ICC “เท้ง” แนะต้องกดดันทุกช่องทาง
- ทหารตรึงกำลังเข้ม "กัมพูชา" ระดมชาวบ้าน เด็ก คนชรา ก่อม็อบกดดันไทยรื้อรั้วลวดหนาม
- พบความเคลื่อนไหวฝ่ายกัมพูชา มีรถบรรทุก-รถยนต์หลายคัน วิ่งเข้ามาในบางพื้นที่
- “เท้ง” บุกฟังเสียง ชรบ. บอกนับถือใจที่เสียสละ จ่อถามรัฐบาลเรื่องเงินเยียวยารายครอบครัว
- "ณัฐพงษ์" ลงชายแดนกัมพูชารับทราบปัญหาเยียวยา เตรียมตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath