มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เตรียมยื่นอัยการสอบ จนท.คุมตัวนักเรียนกัมพูชา โดยไม่มีหมายศาล
(28ส.ค.68) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ผู้ทราบการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ตามมาตรา 29 พ.ร.บ. ป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เตรียมยื่นหนังสือขอให้อัยการตรวจสอบเรื่องการจับกุมควบคุมตัว กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนักเรียนอายุ 13 ปี โดยอาจไม่มีหมายศาลขณะจับกุม รวมถึงกรณีเสี่ยงถูกบังคับผลักดันกลับ
จากรายงานข่าวที่ระบุว่า เยาวชนอายุ 13 ปี ในจังหวัดสุรินทร์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เนื่องจากมีผู้แจ้งความว่าเยาวชนดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว โดยข้อมูลเบื้องต้นปรากฏว่า มารดาของเยาวชนผู้นี้เป็นชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ตั้งแต่เยาวชนดังกล่าวยังเป็นทารก
กรณีการจับกุมดังกล่าวอาจถือเป็นการจับกุมที่ผิดกฎหมายและขัดต่อหลักนิติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และตามมาตรา 22 พ.ร.บ. ป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ที่กำหนดให้ทุกการจับกุมจะต้องมีการบันทึกภาพและเสียงตลอดการจับกุม จนกระทั่งส่งตัวผู้ถูกจับกุมให้พนักงานสอบสวน และต้องแจ้งการจับกุมไปยังอัยการและฝ่ายปกครอง
นอกจากนี้ การส่งกลับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไปยังประเทศต้นทางโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก (Best Interests of the Child) การผลักดันเด็กกลับไปสู่สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ไม่มีการรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานในประเทศต้นทาง ไม่มีความปลอดภัยหรือการศึกษาที่เพียงพอ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับหลักดังกล่าว ทำให้อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ตามมาตรา 6 พ.ร.บ. ป้องกันการทรมานฯ
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child - CRC) ทำให้ไทยมีพันธกรณีที่ต้องคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใด ด้วยเหตุนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจึงขอเชิญชวนประชาชนที่่สนใจร่วมติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีมนุษยธรรมและเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ได้กับเด็กทุกคนไม่ว่าบุคคลนั้นจะสัญชาติใด
ข่าวเวิร์คพอยท์23