ทหารกัมพูชา เข้าใจผิดรุกล้ำเขตแดน หลังโต้เถียงกับทหารไทย | ข่าวภาคค่ำ
5 ดูข่าวภาคค่ำ - โฆษกกองทัพบก แจงคลิปทหารไทยและทหารกัมพูชาโต้เถียงกัน ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ชี้ทหารกัมพูชาเข้าใจผิด ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทหารกัมพูชา เข้าใจผิดรุกล้ำเขตแดน นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ทหารไทยและทหารกัมพูชาโต้เถียงกันระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยมีรายงานว่า ทหารกัมพูชา รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย พยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของทหารไทย ทำให้เกิดการปะทะคารมอย่างดุเดือด โดยทหารกัมพูชาได้ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่ และยั่วยุทหารไทยตลอดเวลา เรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 09.00 น. ของเช้าวันนี้ โดยกำลังพล 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติ จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม จึงเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนทั้งสองฝ่ายจะปรับความเข้าใจกันว่าไม่มีการรุกล้ำเขตแดน สถานการณ์จึงคลี่คลาย กมธ.การปกครอง ถกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่วันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการปกครอง เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยืนยันทางการไทยยังจ่ายไฟฟ้าตามปกติ แต่ทางกัมพูชาหยุดการใช้ไฟฟ้าทุกจุดเอง ตั้งแต่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางการไทยทำหนังสือสอบถามไปแล้ว ขณะนี้รอการตอบกลับ หากกัมพูชาตอบกลับว่าจะไม่ใช้ไฟฟ้าก็จะเข้าสู่กระบวนการยกเลิกสัญญา แต่หากไม่ตอบกลับ จะเรียกเก็บค่าใช้ไฟฟ้าขั้นต่ำ ตามสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 70 สถิติอาชญากรรมข้ามชาติ ลดลง ด้าน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยืนยัน ทางการกัมพูชาเป็นฝ่ายตัดไฟฟ้าก่อน จากข้อมูลพบว่าเมื่อไม่ได้ใช้ไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ทำให้สถิติการก่ออาชญากรรมข้ามชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการส่งเอกสารเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯ ฮุน เซน วันนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม บอกเพียงว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงวัฒนธรรม ส่วนความคืบหน้าหลังการประชุมหารือติดตามเส้นทางการเงินเครือข่าย ก๊ก อาน ผู้บัญชาการ สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ปปง.ระบุว่า นอกจากทรัพย์สินจำนวนมาก ที่ยึดได้จากการเข้าตรวจค้นทั้ง 19 เป้าหมาย ยังพบการทำธุรกรรมทางดิจิทัลรวมมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินอีกจำนวนมากที่ต้องดำเนินการสืบทรัพย์ โดยเฉพาะทรัพย์ที่เป็นเงินสกุลดิจิทัล และทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ เพื่อนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนกรณีนางสาวจุรี หรือ เชอร์รี่ ลูกสาวของ นายก๊ก อาน ที่พบหลักฐานการใช้บัตรประชาชนปลอม เนื่องจากข้อมูลที่พบยังขัดแย้งกัน จึงต้องประสานกับ กรมการปกครอง สืบค้นต่อว่า บุคคลที่มีชื่อในบัตรมีตัวตนอยู่หรือไม่ หรือเป็นการปลอมแปลงเอกสารขึ้นมา กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://news.ch7.com #ข่าวภาคค่ำ #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ