“กรุงคาบูล” น้ำใกล้หมดแล้ว ประชาชนกว่า 3 ล้านเสี่ยงไร้น้ำดื่ม!
“กรุงคาบูล” เมืองหลวงของอัฟกานิสถานที่มีประชากรกว่า 6 ล้านคน กำลังเผชิญกับวิกฤตน้ำครั้งใหญ่ หลังระดับน้ำใต้ดินลดลงอย่างรวดเร็วจากการสูบน้ำมากเกินไปและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หากไม่แก้ไขสถานการณ์ ภายในปี 2030 เมืองนี้อาจขาดน้ำใช้จนกลายเป็นมหานครยุคใหม่แห่งแรกที่แห้งแล้ง
รายงานของ Mercy Corps ระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำใต้ดินของคาบูลลดลงกว่า 25-30 เมตร และในแต่ละปีมีการสูบน้ำเกินกว่าที่ธรรมชาติจะเติมกลับถึง 44 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำบาดาลที่ใช้เป็นหลักมีมากกว่า 40% ที่แห้งขอดแล้ว ขณะที่น้ำใต้ดินที่เหลือส่วนใหญ่ปนเปื้อนสารพิษ เช่น สารหนูและของเสียจากท่อระบายน้ำ วิกฤตนี้ซับซ้อนมากขึ้นจากประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนรวยสามารถขุดบ่อน้ำลึกได้ ขณะที่คนจนต้องต่อคิวน้ำจากก๊อกสาธารณะหรือเด็กต้องออกตามหาน้ำทั้งวัน
นอกจากนี้ โรงงานน้ำดื่มและฟาร์มเรือนกระจกในเมืองก็ใช้น้ำใต้ดินอย่างหนัก ปริมาณการใช้น้ำมหาศาลนี้ยิ่งเร่งให้ปัญหาลุกลาม ขณะที่ภัยแล้งและการลดลงของปริมาณหิมะบนเทือกเขาฮินดูคุชซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญ ก็ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
หลังกลุ่มตาลีบันกลับมาปกครองในปี 2021 โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำหลายแห่งถูกระงับ ขาดทุนทรัพย์และมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศทำให้รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการแก้ไขวิกฤต
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากไม่มีการลงทุนและการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานน้ำอย่างเร่งด่วน คาบูลจะเข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงในไม่ช้า และประชาชนหลายล้านคนอาจต้องพลัดถิ่นฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทาจิกิสถาน” เสี่ยงอดตาย ไร้ทุน ไร้น้ำ ไร้อนาคต
- ร้อนจนตาย! คลื่นความร้อนยุโรปรุนแรง คร่าชีวิต 2,300 คนใน 10 วัน
- มหันตภัยระดับโลก ภูเขาไฟนับร้อยทำไมเสี่ยงระเบิดจากวิกฤตโลกเดือด?
- ฟีนิกซ์เดือดทะลุปรอท! เมืองร้อนที่สุดในสหรัฐฯ กับวิกฤตโลกร้อนที่ไม่อาจมองข้าม
- โลกกำลังจมน้ำ นักวิทย์ฯชี้ “มหาอุทกภัย” กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติ