แอน มิตรชัย ป่วยโรค SLE ใช้ชีวิตธรรมะเยียวยาจิตใจ บนไว้ถ้ารอดไปได้จะอุทิศชีวิตให้พระธรรม
ไนน์เอ็นเตอร์เทน
อัพเดต 29 มิถุนายน 2568 เวลา 20.58 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • NineEntertain ข่าวบันเทิงอันดับ 1 ของไทยนักแสดง-นักร้องระดับ บอลลีวูดแอน มิตรชัย ออกมาเปิดใจผ่านรายการ เจาะใจ ทางช่อง 9 กด 30 เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 68) เผยเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาเจอมรสุมชีวิตป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง ทำให้ชีวิตการโกอินเตอร์ใน บอลลีวูด ของ เธอ ต้องหยุดชะงักลง เพราะต้องเข้ารับการรักษาตัว แพทย์ สั่งงดใช้เสียง 1 ปี สุดท้าย สาวแอน หันพึ่งธรรมะเยียวยาจิตใจ ถึงขั้นบนบานศาลกล่าวว่า ถ้ารอดชีวิตจากโรคนี้ จะอุทิศตนเพื่อธรรมะ
เริ่มมีการ SLE (โรคพุ่มพวง) ก่อนโควิดประมาณ 1 ปี ตอนนั้นเปิดอัลบัมที่มุมไบ นักข่าวมากันเต็มเลย ตอนนั้นมีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง รวมทั้งต้องใช้ สเตียรอยด์ มันจะช่วยทำให้เรามีเสียงทั้งกิน ทั้งฉีดในช่วงนั้นเพราะมันมีงานอะไรหลายอย่าง แล้วผู้จัดการส่วนตัวเขาก็จะเห็นอาการของ แอน ที่มือบวม รองเท้าส้นสูงใส่ไม่ได้ เพราะว่าเท้ามันบวมมาก แล้วก็จะมีอาการหายใจไม่ออก ตาแห้ง บางทีคอนแทคเลนส์หลุด เป็นอาการสะสมที่เราสะสมมาอยู่ตลอด แต่วันนั้นร่างกายมันกำลังส่งสัญญาณบอกเราตลอดว่าพักบ้างนะ แต่เราก็ไม่ได้พัก แถมเรายังไปกระตุ้นมันด้วย สเตียรอยด์ ให้มันทำงานอีก มันก็เลยถึงจุดที่ระเบิดก็คือว่า แอน ค่อนข้างจะโคม่า ผู้จัดการเห็นสภาพคิดว่าเราทำงานไม่ได้ คุณกลับไปก่อนไหม รักษาตัวก่อน
การใช้ สเตียรอยด์ บ่อย ๆ มันมีเอฟเฟกต์ หลังจากนั้นร่างกาย แอน ไม่เหมือนเดิม ผิวหนังมันหย่อนคล้อย แล้วภูมิมันก็ต่ำลง เริ่มรู้ว่าเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง มันเรื้อรังมานานแล้ว ซึ่งหมอก็พยายามบอกเรา แต่ว่า แอน ก็คิดว่าทำไปก่อนเพราะว่าตอนนั้นโอกาสจริง ๆ ที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตเราได้ เพราะว่าอัลบัมก็เพิ่งจะเปิด งานคอนเสิร์ตก็ล็อกไว้แล้ว จะต้องไปงานให้เขา 10 งาน คือมันถูกบุ๊กทุกอย่างไว้หมดแล้ว มันเหมือนฟ้าถล่มลงมาต่อหน้าเราถูกแคนเซิลหมดเลย มันกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่ว่าร่างกายมันไม่ไปกับเราแล้ว ถึงใจเราจะสู้แต่ว่าร่างกายมันไม่สู้ด้วย มันพยายามบอกเราหลายครั้ง สุดฟืนร่างกายจนมันทำให้เราไม่ได้เล่นลิเกเลิกตี 4 ตื่นเช้าไปโรงเรียน เราไม่รู้สึกเป็นทุกข์ เรารักในอาชีพของเรา ทำงานหนักตั้งแต่ 5 ขวบ มันเลยเป็นทั้งรัก และทำลาย มีกำลังเท่าไหร่ใส่เท่านั้น
กลับมารักษาตัวที่ไทย คุณหมอ สั่งเลยว่าต้องหยุดใช้เสียง 1 ปี เขาให้ดูกล้องเลยเส้นเสียงมันใช้ไม่ได้ ถ้า แอน ไม่หยุดจะต้องผ่ากล้องเสียง ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถกลับมาใช้เสียงแบบเดิมได้อีกเลย ก็ต้องยอมเพราะว่าทำอะไรไม่ได้ในตอนนั้น วันดีคืนดี แอน จะเป็นผื่นขึ้นนอนไม่ได้ หายใจไม่ออก กรดไหลย้อนอีก มันจะเกิดขึ้นทุกเวลาที่เราเครียด แล้วกรดไหลย้อนขึ้นมากัดกล่องเสียง ไมเกรน ก็กำเริบ พอ หมอ บอกให้พักก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกพังทลายต่อหน้าเรา ฉันก็คงไม่ได้ทำงานแล้วก็คงต้องพักจริง ๆ มันมาแย่ตอนพักนี่แหละค่ะ มันแย่ตรงที่สภาพจิตใจเราทำงานไม่ได้ เราทำใจไม่ได้ มันเสียดาย มันเสียใจตลอดเวลา มันเลยรู้สึกว่าไร้ค่า มันทำให้ยิ่งแย่ลงไปอีก ทีนี่น้ำหนักก็ขึ้นแตะ 80 กิโล
(ใช้ธรรมะเยียวยาทุกอย่าง) เราเคยอยู่กับธรรมะมา อยู่กับพระมาศึกษาพระธรรมตลอด พอมานึกพิจารณาแล้ว ทำไมเราพักไม่ได้ พิจารณาแล้วสิ่งที่ผ่านไม่ได้คือจิตใจ พอเข้าปีที่ 3 ทำยังไงน้ำหนักก็ไม่ลง รักษาตัวอยู่เกือบ 4 ปี แอน ไปพักอยู่เยอรมันช่วงหนึ่งเพื่ออากาศ ช่วงที่น้ำหนักขึ้น แอน ไม่ให้ใครเห็น แอน เลย ไม่อยากเห็นตัวเองในกระจกด้วย ไม่อยากเจอคุณแม่เพราะไม่อยากให้ท่านกังวลใจ โชคดีที่ แอน รู้จักกัลยาณมิตรที่ดี มีเพื่อนที่ดี ก็ปรึกษาธรรมะ ทำบุญและเรื่องสุขภาพ จากนั้นเราเปลี่ยนทุกอย่างเลยทั้งการทานอาหารไม่ทานหวาน กาแฟก็ทานบ้างเป็นบางวัน น้ำตาลลดทั้งหมด เพราะว่า น้ำตาล มันทำให้ร่างกายเราอักเสบ เริ่มเข้าสู่การดูแลสุขภาพอย่างเต็มสูบ ใช้ธรรมชาติบำบัดอะไรหลาย ๆ อย่าง แอน ก็มาทำ Water Fasting อดอาหารทานแต่น้ำ แอน ทำเดือนละ 3 วัน มีแต่น้ำเลยค่ะ มันเป็นสูตรเดียวกับคนที่รักษามะเร็ง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เพราะว่าอันนี้เหมาะสมกับตัว แอน เรามีโรคอะไรก็ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน ก่อนเข้าเราต้องทำ IF มาก่อน ออกแล้วก็ต้องทานอาหารอย่างไร ต้องปรึกษาผู้รู้ ทีนี่มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไปจุดธูปบอกครูบาอาจารย์บนบานศาลกล่าว ถ้าหนูรอดไปได้ หนูก็อุทิศชีวิตให้กับพระธรรม ทำงานถวายชีวิตให้กับพระพุทธเจ้า
หนู ไม่ทำเบื้องหน้าแหละ หนู ไปทำเบื้องหลังแทน เดี๋ยวทำไปหนังทำอะไรก็คิดแบบนี้ พอปล่อยวางไม่เอาอะไรแล้ว น้ำหนักมันลง ก็ทำให้เรามีกำลังใจ ถ้าทำงานแล้วชีวิตต้องหาไม่อาจจะต้องหยุด เพราะว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ได้มาพร้อมกัน ตราบใดที่เรายังมีชีวิต เราทำสิ่งที่มีประโยชน์ก็ยังได้ หลักข้อหนึ่งของ แอน ก็คือเรียนรู้การใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท มันประมาทไม่ได้เลยเพราะว่าโรคนี้มันไม่ได้หายขาด 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่มันคุมให้สงบไว้ได้โดยการดูแลตัวเอง แอน จะใช้หลักการภาวนา คือเจริญภาวนา พุทโธ พุทโธ เพราะว่าเราคิด Negative เผลอแป๊บหนึ่งมันจะคิด ต้องกลับมาที่ พุทโธ ให้ได้ เมื่อทำตรงนี้ได้มันจะผ่องใส วางอัตตา วางหัวโขน วางตัวตน วางทุกอย่างให้ได้ เพราะถ้าวางได้ชีวิตใหม่ก็จะเกิดผิวพรรณทุกอย่างดีขึ้นหมด
สิ่งหนึ่งที่กลับมาแล้วทำทันที งานธรรมะ ผู้ใหญ่โทรมาจะให้ทำลิเกเดอะมิวสิคัล ซึ่งก็เป็นลิเกธรรมะ ทำอยู่ 2 ซีซัน เพื่อเล่นถวายให้กับ ในหลวง ร.9 ก็ประสบความสำเร็จเยาวชนให้ความสนใจ จนได้รางวัลเกียรติยศ WFF World Oscar Award ในฐานะศิลปินผู้ใช้ศิลปะสร้างสันติภาพ และได้รับ Certificate จากรัฐบาลอินเดีย ให้เข้าออกประเทศในฐานะผู้เชื่อมสัมพันธไมตรี ซึ่งเป็นรางวัลที่หาได้ยากสำหรับคนต่างชาติ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน