“สนธิ” ลั่นไม่ได้เชิญทหารมารัฐประหาร แต่ถ้าทำอย่าเอาพลเอกมาบริหาร
(28 มิ.ย. 68) ช่วงค่ำวันนี้ ที่เวทีปราศรัยคณะรวมพลังแผ่น บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นเวทีปราศรัยดุเดือด กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ว่าตนรับรู้เรื่องเหล่านี้มานานแล้ว พร้อมทั้งโต้แย้งข้อกล่าวอ้างของสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่ระบุว่ากัมพูชาไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณประเทศไทย โดยนายสนธิย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ. 2518 ที่สมเด็จฯ ฮุน เซน สู้รบกับเขมรแดง ทำให้พรรคพวกหลายคนต้องอพยพหนีภัยเข้ามาในประเทศไทย และตั้งคำถามว่า ใครให้ข้าวกิน ถ้าไม่ใช่คนไทยที่เลี้ยงดู
นายสนธิ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า หากตนมีอำนาจ จะไม่คบค้าสมาคมกับกัมพูชาอย่างแน่นอน และตั้งคำถามกลับไปว่า ในเมื่อฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับมติศาลโลก แล้วเหตุใดจึงจะส่งเรื่องของไทยไปยังศาลโลกอีก
นายสนธิ ยังเปิดเผยว่า นี่เป็นการปราศรัยครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ตนขึ้นเวที โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน โดยระบุว่า แม้รัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร จะเผชิญปัญหาอย่างหนัก แต่ควรพิจารณาให้ลึกซึ้งว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศคือ "ระบบการเมืองไทย" นอกจากนี้ เขายังประณามบุคคลที่ "ทรยศ" ซึ่งเป็นสาเหตุให้ประเทศไทยต้องเสียเขาพระวิหารให้กับกัมพูชา
นายสนธิได้กล่าวในช่วงหนึ่งของการปราศรัยว่า “มีสื่อมวลชนหลายคนถามว่า คุณสนธิ คุณกำลังยุให้ทหารเข้ามารัฐประหารใช่ไหม ไม่ใช่ ทหารจะปฏิวัติไม่เคยบอกผม จะทำเมื่อไหร่ก็ทำไป ถ้าเห็นว่าวิกฤตมันเกิดขึ้น แล้วการเมืองมันแก้ไม่ได้ ซึ่งการเมืองมันแก้ไม่ได้ เขาจะปุบปับ ปุบปับ ก็เรื่องของเขา
แต่ขอเรื่องเดียว ไหนๆ จะทำแบบนั้น ถ้าจะทำกัน สาธุ ขออย่าเอาพลอ่ง พลเอก มาบริหารชาติบ้านเมืองอีก ให้ประชาชน พวกเราเนี่ย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ทำความเข้าใจก่อนนะฮะ ผมไม่ได้ยุทหารให้ปฏิวัติ
นายสนธิบอกด้วยว่าถามว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ นายสนธิ ตอบว่า หากมีความจำเป็นในอนาคตที่ต้องออกมาชุมนุมเพื่อเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมือง ก็พร้อมที่จะทำ โดยได้สอบถามกลุ่มผู้ชุมนุมว่า จะเอากับตนหรือไม่ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชุมนุมที่ตะโกนพร้อมกันว่า “เอา”