"วราวุธ" ผลักดัน พอช. ร่วมเครือข่ายพัฒนาผู้นำชุมชน หนุนช่วยกลุ่มเปราะบางในภัยพิบัติ
“วราวุธ” ผลักดัน พอช. จับมือ เครือข่าย พัฒนาศักยภาพ ผู้นำขบวนองค์กรชุมชน หนุนงาน ศบปภ. ช่วยกลุ่มเปราะบางได้ทันท่วงที หากเกิดภัยพิบัติ
วันที่ 30 มิ.ย.68 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาศักยภาพผู้นำขบวนองค์กรชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติ (ภาคประชาชน)" พร้อมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "สถานการณ์ภัยพิบัติโลกที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนกลุ่มเปราะบาง และทิศทางการบริหารจัดการ" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้นำขบวนองค์กรชุมชน รวมถึงภาคีเครือข่ายจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีความเข้าใจถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และสามารถออกแบบแผนงานในการเตรียมตัวเพื่อรองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ด้วยการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาครัฐ และภาคีเครือข่ายการพัฒนา เพื่อช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยนางสาววิภาศศิ ช้างทอง ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลในระดับชาติ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน , นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวต้อนรับ และ นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชม กล่าวรายงาน ซึ่งมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้นำขบวนองค์กรชุมชนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 76 จังหวัด และหน่วยงานภาคีอาสาสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง เข้าร่วม ที่โรงแรมสองพันบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
นายวราวุธ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่นับวันจะส่งผลทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจากรายงานของสำนักงานลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNDRR) ระบุว่า ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงปานกลางถึงสูงเป็นอันดับที่ 75 จาก 191 ประเทศ ตามดัชนีชี้วัดความเสี่ยงของ INFORM Risk Index ปี 2022 โดยอุทกภัยถือเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสี่ยงสูงที่สุดของไทย (อันดับ 9 ของโลก) และปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมถึงผู้ด้อยโอกาส ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ช่วยเหลือตนเองอย่างยากลำบาก เช่น ผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนการช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วนจากทุกภาคส่วน
กระทรวง พม. ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปรับตัวของกลุ่มเปราะบางต่อผลกระทบต่างๆ จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น และเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา กระทรวง พม. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ 7 กระทรวง ด้วยความร่วมมือในการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกระทรวง พม. รับผิดชอบด้านความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับแผนปฏิบัติการระดับชาติ โดยมีการพัฒนาข้อเสนอทางนโยบายการคุ้มครองทางสังคมที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Reponsive : CRSP) และมีการจัดทำแผนภัยพิบัติ 5 ด้าน อีกทั้งมีการจัดตั้งกลไกในการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ “ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ” (ศบปภ.) หรือ DCCV เพื่อเป็นกลไกในการทำงานเชิงรุกสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเตรียมความพร้อมในด้านการป้องกันภัย การปรับตัว และการให้ความช่วยเหลือเยียวยา
นายวราวุธ กล่าวว่า พื้นที่ชุมชน ถือเป็นด่านหน้าที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ชุมชนจึงเป็นหน่วยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการปรับตัวสำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ โดยขบวนการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ของ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. คือ ขบวนองค์กรชุมชน เป็นกลไกที่เชื่อมโยงระหว่างชุมชน หน่วยงาน และภาคีเครือข่ายในการทำงานแก้ไขปัญหาและจัดทำแผนปฏิบัติการในระดับพื้นที่ร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นหน่วยจัดการที่อยู่ในระดับพื้นที่ ที่มีข้อมูลชุมชน มีความเข้าใจในบริบทพื้นที่ และมีความคล่องตัวในการป้องกันและช่วยเหลืออย่างทันท่วงที การพัฒนาศักยภาพขบวนองค์กรชุมชนและผู้นำขบวนองค์กรชุมชน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ และเป็นหน่วยเชื่อมโยง ประสานการทำงานในระดับพื้นที่กับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติเป็นปัญหาใหญ่ที่เพียงองค์กรชุมชนย่อมไม่สามารถที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ตามลำพัง จำเป็นต้องมีความเข้าใจทิศทางของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในระดับนโยบาย , การประสานการทำงานในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการตามเหตุการณ์ และ กลไกของกระทรวง พม. ในระดับจังหวัดอย่างทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัด สำหรับกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกัน และใช้โอกาสและจุดแข็งของแต่ละหน่วยงาน องค์กร เติมเต็มให้กันและกัน เพื่อที่จะทำให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้รับการช่วยเหลือดูแลอย่างทันท่วงที ไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก และบรรเทาความลำบาก ความเดือดร้อนได้
ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ นายวราวุธได้นำคณะลงพื้นที่ติดตามกลการดำเนินการดูแลกลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้ป่วยภาวะพึ่งพิง จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 4 ครอบครัว ภายใต้กิจกรรมองค์การตลาดชวนเพิ่มบุญ พร้อมมอบอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ผู้ป่วย ในพื้นที่ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี