‘ปรับครม.’อลเวง! รวมไทยสร้างเรื่อง

โผ ครม.อลเวง! หึ่ง "พีระพันธุ์" ยัวะมีชื่อ "สุชาติ" นั่ง รมช.มหาดไทย โดยที่พรรคไม่รู้เรื่อง โฆษกรวมไทยสร้างชาติปฏิเสธไม่รู้ข่าวมาจากไหน เผยทูลเกล้าฯ ถวายแล้วทุกฝ่ายต้องนิ่ง ด้าน “นายกฯ อิ๊งค์” แนะนำตัว “ลูกพ่อทักษิณ” ให้กำลังใจชาวเชียงราย

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรายงานล่าสุดว่า พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งขู่ถอนตัวจากพรรคร่วมฯ เนื่องจากไม่พอใจโผรายชื่อรัฐมนตรีบางตำแหน่งในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ โดยมีรายงานข่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไม่เห็นด้วยที่มีการโยกนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. ไปนั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย โดยไม่ได้มีการแจ้งให้หัวหน้าพรรคทราบก่อน และไม่นำชื่อเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อมีมติ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า แกนนำรัฐบาลจะไปพูดคุยทำความเข้าใจถึงกรณีดังกล่าวกับนายพีระพันธุ์ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่ากลุ่ม 18 ได้ขอโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่งในสัดส่วนของกลุ่มด้วย

ขณะที่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวจากบุคลากรและ สส.ของพรรคในเรื่องดังกล่าวแน่นอน ทราบจากข่าวว่าโผคณะรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายไปแล้ว ซึ่งตามหลักการ ทุกฝ่ายต้องนิ่งและไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากที่ไหน แต่ในส่วนพรรค รทสช. ไม่มีการเคลื่อนไหวแน่นอน

เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรค รทสช.ยังคงสนับสนุนรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต่อไปใช่หรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์สื่อสารไปก่อนหน้านี้ ยังคงเป็นจุดยืนเดิม

สำหรับความเคลื่อนไหวตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ว่างลง หลังนายภราดร ปริศนานันทกุล ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทางกลุ่ม สส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย จับกลุ่มคุยกันว่าตำแหน่งดังกล่าวควรเป็นตำแหน่งของ สส.ภาคอีสาน เนื่องจากการปรับ ครม.รอบนี้ไม่มี สส.ภาคอีสานเข้าไปทำหน้าที่รัฐมนตรีเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในพรรค

นอกจากนี้ รองประธานสภาฯ ก็มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพานอยู่ ซึ่งถือเป็นโควตา สส.ภาคเหนือ จึงมองว่า สส.ภาคอีสานก็ควรจะมีตำแหน่งนี้ด้วยเช่นกัน หากมีการประชุม สส.ขึ้นมา กลุ่ม สส.ภาคอีสานก็จะแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม เพราะการพูดคุยที่ผ่านมา บางครั้งมีการพูดคุยในกลุ่มไลน์ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอยู่ในกลุ่มด้วย แต่ก็ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไรต่อเรื่องนี้ สส.ภาคอีสานจึงเห็นว่าควรเสนอต่อที่ประชุมพรรคอย่างเป็นทางการ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังจากนายภราดร ปริศนานันทกุล ได้ลาออกว่า เรื่องนี้ต้องรอการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าพรรคไหนร่วมรัฐบาลบ้าง จากนั้นจะหารือร่วมกับวิปสองฝ่าย เพื่อกำหนดวันเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ตนคิดว่าเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ คาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งจะรีบคุยกับวิปทั้งสองฝ่ายว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ เพราะจะต้องไปหาคนที่จะมาเป็นรองประธานฯ คนที่ 2

เมื่อถามว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จะต้องเป็นโควตาของทางฝั่งรัฐบาลหรือเป็นของพรรคแกนนำ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า แล้วแต่เขาจะตกลงกัน ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และเป็นเรื่องวิปของรัฐบาลที่จะต้องคุยกัน

ที่บ้านสบเปา ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย วันเดียวกันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่บริเวณบ้านสบเปา โดยมีนายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รอต้อนรับและรายงานสถานการณ์

จากนั้นนายกฯ ได้พบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย พร้อมสอบถามถึงความเดือดร้อน ก่อนที่ชาวบ้านจะให้กำลังใจนายกฯ "ขอให้นายกรัฐมนตรีสู้ๆ ออกข่าวทางทีวี บ่ม่วนใจ โดนด่าโดนว่า"

ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "เป็นนายกฯ ก็ต้องโดนแบบนี้เจ้า มาแล้วทุกคนให้กำลังใจก็โอเค" ก่อนที่จะเดินไปเยี่ยมชาวบ้านผู้ประสบภัยอีกหลังหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านได้สอบถามว่านายกฯ ตัวจริงหรือไม่ นายกฯ จึงบอกว่า "นายกฯ เจ้า ลูกของคุณพ่อทักษิณเจ้า"

จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางมาที่วัดสันติคีรี อ.พญาเม็งราย เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย โดย น.ส.แพทองธารกล่าวกับประชาชนว่า ขอมาให้กำลังใจให้ทุกคน และหวังเป็นอย่างยิ่งวันนี้ได้พบปะกันจะมีกำลังใจกันมากขึ้น และหวังว่าวิกฤตนี้จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลเห็นความสำคัญของประชาชนเสมอ วันนี้มาให้กำลังใจ มาพูดคุย ขอให้ทุกคนทำตัวสบายๆ ถ่ายรูปเจอกันได้ อย่างน้อยๆ ให้เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตนมาที่นี่ก็ได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชนเช่นกัน ตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว รู้สึกอบอุ่นใจมากๆ ขอมาเป็นกำลังใจและขอรับกำลังใจจากประชาชนด้วย

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทักทายพูดคุยและสอบถามปัญหา โดยชาวบ้านบางส่วนระบุว่าน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมายังไม่ได้รับเงินเยียวยา นายกฯ จึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งไปดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว นอกจากนั้นยังขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เช่น ศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกับประชาชนเพื่อให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ที่มีรายชื่อคาดว่าจะได้รับแต่งตั้งให้เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมลงพื้นที่ด้วย

ที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางฝ่าฝนที่ตกหนักระหว่างทาง เพื่อพบกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย และมอบบัตรประชาชนให้กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ 21 คน

โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มีการช่วยในเรื่องการขอสิทธิและขั้นตอน ให้เหลือเพียงแค่ 5 วัน ทำให้ทุกคนรู้สึกใจชื้น ทำให้ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเรื่องนี้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ทำให้พี่น้องชาวชาติพันธุ์ได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐ และรู้สึกปลอดภัยว่ามีสวัสดิการของรัฐรองรับอยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากให้ได้รับกัน

“คำมั่นสัญญาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐาจะเป็นจริงในวันที่ 30 มิ.ย. เหลืออีกไม่กี่วันต่อจากนี้จะเป็นคนไทยทุกคนอย่างเสมอภาค สมศักดิ์ศรี และสามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างเต็มที่ ทุกคนได้เจอกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และทุกปีก็มาให้การต้อนรับดีมาก และปีที่แล้วที่ได้มาเจอได้รับมอบเสื้อตามภาพต้อนรับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่รอคอย วันของพวกท่านได้มาถึง ขอแสดงความยินดีด้วย" นายกฯ กล่าว.