ศึกใหม่สายอนุรักษ์ฯ 5 ล้านเสียง “ลุงตู่” จะเทไปไหน!?
5 ล้านเสียง “ลุงตู่” จะไหลไปทางไหน? เมื่อพลังอนุรักษ์นิยมไร้ผู้นำในสนามเลือกตั้งใหม่
ในสนามเลือกตั้งไทยทุกครั้ง “กลุ่มฐานเสียงอนุรักษ์นิยม” นอกจากไม่เคยเป็นเพียงแค่คลื่นพลังเงียบแล้ว ยังเคยทำให้หลายคน “ตะลึง” โดยเฉพาะในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “ลุงตู่” ยังยืนหนึ่งในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ความนิยมระดับ 5 ล้านเสียง จากการเลือกตั้งปี 2562 และต่อเนื่องในปี 2566 คือสิ่งที่บ่งบอกถึงพลังฝั่งอนุรักษ์นิยมที่ยังเหนียวแน่นในสังคมไทย
แม้หลังวางมือการเมือง และขึ้นดำรงตำแหน่งองคมนตรี “ลุงตู่” ได้ถอนตัวออกจากสนามไปโดยสมบูรณ์ ทว่า เสียงของเขายังคงก้องอยู่ในความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ศรัทธาในความมั่นคง มั่นใจ และกล้าตัดสินใจของผู้นำทหารที่ก้าวสู่สนามการเมือง
คำถามสำคัญที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองไทยคือ “5 ล้านเสียง” ที่เคยสนับสนุนลุงตู่จะเคลื่อนไปทางใดในการเลือกตั้งครั้งหน้า? ใครจะสามารถเป็น “ตัวแทน” หรือ “ทายาททางการเมือง” ที่กลุ่มนี้จะไว้วางใจให้ถือธงนำในสมรภูมิใหม่ได้?
พลัง 5 ล้านเสียง : จุดยืนและความรู้สึก
ฐานเสียงของลุงตู่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยกลุ่มอนุรักษ์นิยม กลุ่มชาวบ้านในภาคกลางและภาคใต้ที่ยึดมั่นในเสถียรภาพของรัฐ, คนทำงานวัยกลางคนขึ้นไป, ข้าราชการเกษียณ และกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พวกเขาไม่ต้องการประชาธิปไตยสุดโต่ง ไม่เชื่อในแนวทางปฏิรูปสถาบัน และมองว่า “ผู้นำต้องเด็ดขาด” มากกว่าพูดเก่ง
นี่คือกลุ่มที่ให้คะแนนกับลุงตู่ เพราะ “ไว้วางใจ” มากกว่า “ชื่นชอบ” และพวกเขายังมองหาผู้นำคนใหม่ในแบบที่ใกล้เคียงกับลุงตู่ หรือไม่ก็ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการรับรองจากลุงตู่โดยตรง ซึ่งในเวลานี้…ยังไม่มีใครตอบโจทย์ได้ชัดเจน
พรรคไหนได้เปรียบ? ใครเสียเปรียบ?
หลังลุงตู่ถอนตัว พรรครวมไทยสร้างชาติที่เคยเป็นพรรคหลักของลุงตู่ ดูจะอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด จากกรณีเกิดความแตกแยกภายใน กลายเป็นปัญหาต่อการสืบทอดมวลชนที่รักในตัวลุงตู่
พลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เผชิญปัญหาคล้ายกัน แม้จะเป็นผู้ได้รับการเคารพนับถือจากลุงตู่ แต่ภาพลักษณ์ความอ่อนแอของพรรคพลังประชารัฐในสภา และการไม่มีบทบาทเด่นชัด ทำให้ฐานเสียงอนุรักษ์นิยมไม่ได้มองว่าเป็นคำตอบ
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แม้จะกวาดคะแนนเสียงจำนวนมากในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่จากท่าทีที่ไม่ชัดเจนต่อพรรคประชาชนที่กำลังมีข่าวอาจร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว ทำให้กลุ่มสายอนุรักษ์นิยมแท้ยังลังเล ไม่กล้าทุ่มเทใจให้
ในขณะที่พรรคประชาชน หรือพรรคสีส้ม ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามในเชิงอุดมการณ์ ยิ่งไม่มีทางเป็นปลายทางของกลุ่มนี้ เพราะแนวทางปฏิรูปสถาบันและมุมมองเสรีนิยมสุดโต่งเป็นสิ่งที่สายอนุรักษ์นิยมปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
หรือ “บิ๊กแก้ว” จะเป็นคำตอบใหม่?
ชื่อของ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ หรือ “บิ๊กแก้ว” กำลังถูกพูดถึงในฐานะ “ทายาททางการเมือง” ที่ไม่เป็นทางการของลุงตู่ บิ๊กแก้วมีทั้งบุคลิกผู้นำ เติบโตจากสายทหารรบ มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนลุงตู่อย่างแข็งขัน
หากบิ๊กแก้วได้ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในเร็ววัน และแสดงบทบาทเด่นด้านความมั่นคงในยามที่สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด สายอนุรักษ์นิยมอาจมองเห็น “เงาของลุงตู่” อีกครั้ง และหากมีการจัดตั้งพรรคใหม่ หรือใช้พรรคเดิมที่มีอยู่ เป็นฐานให้บิ๊กแก้วเปิดตัว เขาอาจกลายเป็นศูนย์รวมคะแนนเสียงกลุ่มนี้ในอนาคต
บทสรุป: พลังที่ยังไม่หายไป
5 ล้านเสียงของลุงตู่ไม่ใช่แค่ตัวเลขเก่าในประวัติศาสตร์เลือกตั้ง แต่คือ “พลังที่ยังรอผู้นำใหม่” คนที่กลุ่มนี้ไว้วางใจ ไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่ต้องเด็ดขาด มั่นคง ซื่อสัตย์ และพร้อมปกป้องสถาบันหลักของชาติ
สนามเลือกตั้งครั้งหน้า…ใครก็ตามที่อ่านเกมสายอนุรักษ์นิยมออก และวางตัวเป็นผู้นำที่กลุ่มนี้ยอมรับได้ มีโอกาสจะคว้าพลังเงียบนี้ไปครอง และเปลี่ยนเกมการเมืองให้พลิกได้อีกครั้ง
#ลุงตู่ #ประยุทธ์ #5ล้านเสียง #คะแนนนิยมลุงตู่ #พรรคอนุรักษ์นิยม #เลือกตั้งใหม่ #การเมืองไทย #สายอนุรักษ์ #ภูมิใจไทย #รวมไทยสร้างชาติ #พลังประชารัฐ #บิ๊กแก้ว #ผู้นำใหม่ #วิเคราะห์การเมือง