ส่องไทม์ไลน์ระเบิดกลศึกเขมร Vs แผนปั่นแม่ทัพภาค 2 รบช่องบก
จากกรณีที่ทำให้ เลือดของคนไทยรักชาติเดือดหล่านอีกครั้ง นับตั้งแต่ครั้ง แฮทแท็กจากกองทัพ ให้คนไทยส่งกำลังใจให้ทหารกล้า ว่า “ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” จากเหตุการณ์ “ปืนลั่นที่ช่องบก” (28พ.ค.68) การยิงปะทะระหว่างทหารไทยกับเขมรที่รุกล้ำเข้ามาฝั่งไทยและมีการขุดสนามเพลาะ ล้ำแดน จนมีทหารเขมร เสียชีวิต 1 ราย ที่ถูก “รัฐบาล2พ่อลูกตระกูลฮุน” นำไปปั่นต่อกับเกม “พาไทยไปศาลโลก”
กระทั่งไทยต้องดำเนินการมาตรการปิดด่าน พร้อมเดินเกม “ทุบหม้อข้าวถุงเงินฮุนเซน” โดยมาครั้งนี้ เลือดคนไทยพลุ่งพล่านอีกครั้งเมื่อเกิดเหตุกับ 3 ทหารไทยที่ต้องบาดเจ็บ จาก “กับระเบิดสังหาร” ของเขมร(16ก.ค.) ที่นำมาสู่ คลิปเมื่อวาน (19ก.ค.) ที่แม่ทัพภาคที่2 “บิ๊กกุ้ง-พลโทบุญสิน พาดกลาง” นำแม่ทัพนายกองของกองทัพภาค2 ประกาศชวนคนไทย 77 ล้านคน ร่วม ร้องเพลงเพลงชาติพร้อมกัน หลังการแถลงข่าว
โดยระบุ กองทัพภาค2 เตรียมตอบโต้ทางยุทธวิธีกับ ฝ่ายเขมร ที่ “แทรกซึมอธิปไตยไทย” วาง กับระเบิดสังหาร ที่บริเวณ ช่องบก ที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็น “ระเบิดใหม่” ที่ถูกนำมาวางในช่วง1เดือน โดยคาดยังมีอีกกว่า100 ลูก ที่ต้องเร่งเก็บกู้ โดยไม่คาดคิดคู่กรณีจะเล่นสกปรก แถมมีการปั่นข่าวใส่ร้ายแม่ทัพภาค2 โดย 2 กรณีต้องดำเนินการคือรายงาน ไปถึงศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และกองทัพบกจะนำเสนอรัฐบาลให้กระทรวงต่างประเทศยื่นเรื่องไปที่ ยูเอ็น เรื่อง อนุสัญญาออตตาวา
ยืนยันว่าคู่กรณี เป็นคนวางชัดเจน ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่ของ กองทัพภาคที่2 จะดำเนินการต่อไปและเป็นเรื่องการทางทหาร โดยย้ำว่าไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ถือเป็นยุทธวิธี กองทัพภาคที่2ดำเนินการตอบโต้ได้เลย
ทำให้น่าสนใจไปส่องไทม์ไลน์ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เฉพาะในส่วนหน้างาน ที่ไม่เกี่ยวกับ “หน่วยเหนือ” รัฐบาล ที่วันนี้(20ก.ค.)มีการประชุมของ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์
บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เพื่อกำหนด แนวทางการดำเนินการ แม้เมื่อวาน “เขมร” จะแถลงการณ์ปฏิเสธ แต่ไทยจะนำข้อมูลและหลักฐานฟ้องยูเอ็นกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งกำลังพลไปเก็บกู้ระเบิด
โดยในกรณีหน้างาน ของทหาร 2 ฝ่าย เขมร-ไทย นับตั้งแต่หลังเหตุการณ์ปะทะกันที่ ช่องบก (28พ.ค.) ไม่นับรวมถึงการปฏิบัติการ ตามมาตรการ “ปิดด่านการค้าการข้ามแดน”7จังหวัดที่เชื่อมต่อ นอกจากที่เป็นข่าวการส่ง “ทหาร”แต่งเป็นพลเรือนมาป่วนทหารไทยแต่ละปราสาทสำคัญแล้ว บริเวณ “ช่องบก” ที่เคยเกิกเหตุปะทะ (28พ.ค.) ที่เหมือนเงียบ ๆ ไม่มีอะไร กลับพบว่ามีการไปวางกับระเบิดไว้จำนวนมากตั้งแต่ 1มิ.ย.68 ก่อนหน้า8มิ.ย.68 ที่มีการเจรจาให้ “ทหารเขมร” ถอนกำลัง และกลบ “สนามเพลาะ”ที่ล้ำดินแดนไทย โดยช่วงนั้นมีรายงานจาก “หน่วยข่าวความมั่นคง” ออกมาเตือนให้ระวังการ “วางทุ่นระเบิด”ของทหารเขมรเพื่อตอบโต้
โดยจากไทม์ไลน์ในเดือน มิ.ย.มีการพบว่า “ทหารเขมร”มีการ “ปล่อยของ”ไว้ไม่น้อยในพื้นที่ เป็นปัญหา ที่ยังต้องมีการลาดตะเวนของทหาร ทั้ง2ฝ่ายที่ฝั่งทหารไทยพบ ไล่เรียงตั้งแต่ 10มิ.ย.-กระสุน ค.60 มม. - ทุ่นระเบิดสังคารบุคคล POMZ 12มิ.ย.-พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล M14 , 19 มิ.ย.พบ กระสุน ค.60มม.กรุสุน ค.60มม.-ระเบิดสังหารบุคคล M16,20มิ.ย.-กระสุน RPG,
25 มิ.ย.- พบ ลูกระเบิด M203 ,8ก.ค. - แป้นระเบิดรถถัง TM57-แป้นจุดชนวน TM57, -กระสุน ค.60มม.
ไม่เท่านั้น ยังมีรายงาน จากการตรวจสอบพบว่าช่วงวันที่ 1-3 ก.ค. ทหารกัมพูชาได้ติดตั้งสนามทุ่นระเบิด จำนวน 335 ลูก ไล่ตั้งแต่ 8 ก.ค. ทหารกัมพูชาได้รับทุ่นระเบิดจำนวน 106 ลูก, 10 ก.ค. ทหารกัมพูชาติดตั้งทุ่นระเบิดที่บริเวณเนินโนเนม 120 ลูก 15 ก.ค. ทหารชุด ช. ร้อย.ร. 6021 ตรวจพบทุ่นระเบิด PMN2 จำนวน 4 ลูกใกล้ช่องบก ก่อนที่จะมาถึงวันที่ 16 ก.ค. 68 ทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด PMM ซึ่งเป็น จุดตรวจพบทุ่นระเบิดใหม่ PMN จากข้อมูล 15 ก.ค.
ที่ทั้งหมดนำมาสู่สถานการณ์ “คุกรุ่น”ที่ชายแดนล่าสุดที่กองทัพภาคที่ 2 โดย “แม่ทัพกุ้ง-พล.ท.บุญสิน” ประกาศว่าเรื่อง “กับระเบิดสังหาร” ที่รุกล้ำอธิปไตยไทยและทำให้ลูกน้องนายทหาร 3 นาย ต้องมา บาดเจ็บต้องตัดขาและเท้า จะต้องจบที่สมัยของตนเองเป็น “แม่ทัพภาค2” แม้จะเหลือเวลาเกษียญอายุราชการ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยเตรียมตอบโต้ทางยุทธวิธีของทหาร แบบไม่ต้องรอ “รัฐบาลอิ๊งค์2” สั่งการ แม้คู่ขนาน “หน่วยเหนือ” โดย “ศบ.ทก.” และ รัฐบาล กำลังดำเนินการตามขั้นตอน ปม การละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา หรืออนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ค.ศ. 1997 และละเมิด MoU 2543
โดย สถานการณ์เหล่านี้ ถูกจับตา “รัฐบาลไทย” จะใช้จังหวะจะโคน อย่างไร ไม่ให้เข้าทาง “เขมร” ที่ต้องการให้เกิดการปะทะและนำไปสู่แผน “พาไทยไปศาลโลก” ที่ “2พ่อลูกฮุน” พยายามทำมาตลอดช่วงเหลายเดือนที่ผ่านมา.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews