เตือนรับมือพายุ “วิภา” ถล่มไทย 20-24 ก.ค. ฝนถล่ม-คลื่นสูง-น้ำท่วมฉับพลัน
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (20 ก.ค.68) เมื่อเวลา 04:00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “วิภา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 2 (188/2568) ระบุ เนื่องจากพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของจ้านเจียง ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 21-22 ก.ค. 68 จะเคลื่อนตัวลงสู่ อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนต่อไป ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง
ทั้งนี้ จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 20-24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนจังหวัดที่คาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดหนองคาย, บึงกาฬ, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, ยโสธร, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และนครปฐม
ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต และกระบี่
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์ และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่จังหวัดเลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม และมุกดาหาร
ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, ระนอง และพังงา
วันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, พิจิตร, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่จังหวัดเลย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา และอุบลราชธานี
ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา
ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
สำหรับทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะมองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุดุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง