ยืนยัน ข่าว ไทยใช้อาวุธเคมี เป็นข่าวปลอม | เช้านี้ที่หมอชิต
8 ดูเช้านี้ที่หมอชิต - ยังคงเกาะติดปัญหา ข่าวปลอม ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ไทยและกัมพูชา ปะทะกันบริเวณแนวชายแดน ซึ่งตลอดทั้งวันเมื่อวาน 28 ก.ค. ปรากฏว่าทางการไทยได้เดินหน้าปฏิเสธข่าวปลอมหลายครั้ง ไล่เรียงตั้งแต่การกล่าวหาว่ากองทัพไทยใช้ อาวุธเคมี โดยเป็นภาพเครื่องบิน บินโปรยสารเคมีสีแดง ซึ่งคำชี้แจงของกองทัพไทย ยืนยันว่าเป็นภาพตัดต่อ ซึ่งภาพนี้เป็นภาพเครื่องบินดับไฟป่าในต่างประเทศ แต่ถูกนำมาบิดเบือนซ้ำอีกครั้ง ด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ยังสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ รวมถึงสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี และที่ผ่านมาไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีมาตั้งแต่ปี 2546 และยึดมั่นต่อพันธกรณีการลดอาวุธ หรือการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง นอกจากนี้เมื่อวาน 28 ก.ค. พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา แถลงข่าวอ้างว่า เพจ Facebook และเว็บไซต์สื่อฯ ของไทย ได้ปิดกั้นชาวกัมพูชาเข้าถึงข่าวสารที่เป็นข้อมูลข่าวปลอม มีเนื้อหาใส่ร้ายกัมพูชา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยต้องการปกปิดสิ่งที่กำลังทำอยู่ ทั้งที่รู้ว่าฝ่ายไทยเป็นผู้ทำผิด จึงขอเรียกร้องให้ไทยหยุดการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ซึ่งถือเป็นการปกปิดการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านเพจ Facebook กองบัญชาการกองทัพไทย ได้โพสต์ Facebook ถึงพลโทหญิงมาลี ด้วยว่า มายาคำพูด เหมือนอยู่คนละโลก โดยกองทัพไทย ตอบโต้ถ้อยแถลงซึ่งไร้หลักฐานของกัมพูชา โดยเฉพาะถ้อยแถลงที่ขาดความน่าเชื่อถือจากพลโทหญิงมาลี พร้อมตั้งคำถามกลับต่อพฤติกรรมสร้างข่าวเท็จซ้ำซาก กองทัพไทย ขอเชิญชวนประชาคมโลก ร่วมกันตรวจสอบและพิสูจน์คำกล่าวอ้างของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งปราศจากหลักฐานรองรับ และขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในพื้นที่อย่างชัดเจน ข้อเท็จจริงคือ การปฏิบัติของกองทัพไทย มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงต่อกำลังทหารของฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น ไม่เคยมุ่งเป้าไปยังพลเรือน หรือโบราณสถานใด ๆ และแนวทิศทางของอาวุธไทย ก็ไม่ได้มุ่งไปยังพื้นที่ของปราสาทพระวิหารแต่อย่างใด แต่กัมพูชากลับบิดเบือนว่า ไทยยิงถล่มปราสาท ทั้งที่ฝ่ายกัมพูชา 1. ไม่เคยแสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้ 2. ไม่เคยเปิดเผยภาพความเสียหายที่เป็นข้อพิสูจน์จริง 3. มีประวัติซ้ำซากในการเผยแพร่ข่าวสารบิดเบือน โดยก่อนหน้านี้กองทัพได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการปล่อยข่าวเท็จหลายประเด็นอย่างต่อเนื่อง คำถามที่ประชาคมโลกควรถามกลับ คือ หากโบราณสถานสำคัญเสียหายจริง ทำไมไม่เร่งบูรณะด้วยตนเอง ? หรือเพียงใช้เป็น เครื่องมือทางการเมือง เพื่อกลบความจริงในสมรภูมิ ? ทำไมจึงเลือกให้ความสำคัญ มากกว่าชีวิตประชาชนของตนเองที่ได้รับผลกระทบ จากการยกระดับความขัดแย้งโดยรัฐบาลของตน ความผิดนี้ ใครก่อ ? ใครกันแน่ที่สร้างข่าวเท็จ สร้างมายาวาทกรรม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอบคุณภาพจาก : Facebook กองบัญชาการกองทัพไทย กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #เช้านี้ที่หมอชิต #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ