BANPU วิ่งต่อ 2% รับแผนรุกธุรกิจ BESS โฟกัสลงทุนญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ณ เวลา 11:58 น. อยู่ที่ระดับ 4.72 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.16% สูงสุดที่ระดับ 4.72 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85.26 ล้านบาท
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU เปิดเผยว่า บ้านปูขับเคลื่อนกลยุทธ์ Energy Symphonics เดินหน้าธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน หรือ BESS (Battery Energy Storage System) ในพอร์ต Renewables+ เพื่อส่งต่อพลังงานเสถียรและสะอาด ที่สร้างกระแสเงินสด รองรับความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงจากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำให้จำนวนศูนย์ข้อมูล (Data Center) ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บ้านปูเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 โดยเฉพาะระบบ BESS ซึ่งกำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญ ที่หลายประเทศนำมาใช้รองรับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้า ต่อยอดด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาบริหารจัดการพลังงาน ทั้งการกักเก็บและจ่ายไฟให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บ้านปูจึงขยายการลงทุนในแบตเตอรี่ฟาร์มในประเทศยุทธศาสตร์ เช่น ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ที่มีทั้งนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดที่ชัดเจนและมีตลาดไฟฟ้าเสรีที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ บ้านปูเชื่อมั่นว่าคือโอกาสสำคัญในการสร้างการเติบโต และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
โดยในไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจ BESS จาก 2 ประเทศยุทธศาสตร์ของบ้านปู มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงาน Kamigumi-Tokyo BESS ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Banpu Japan K.K. กับ Kamigumi Co., Ltd. บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์สัญชาติญี่ปุ่น การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการ Tono BESS กำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ชั่วโมง ในจังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แห่งแรกของบ้านปู เน็กซ์ และการลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงานวูรีน (Wooreen Energy Storage System: WESS) ในออสเตรเลีย โดยบริษัทย่อยของบ้านปู Banpu Energy Australia Pty Limited (BEN) กับ EnergyAustralia ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกไฟฟ้าชั้นนำในออสเตรเลีย
สำหรับ BESS คือระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เป็นธุรกิจที่อยู่ในตลาดที่มีกลไกซื้อขายไฟฟ้าเสรีสำหรับผู้ผลิตภาคเอกชน แบตเตอรี่นี้จะทำหน้าที่กักเก็บพลังงานที่มาจากแหล่งพลังงานที่หลากหลายในช่วงที่ผลิตได้มาก แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง สามารถสร้างเสถียรภาพและความต่อเนื่องให้กับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมได้