ไทยคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย จากเหตุปะทะที่ซำแต กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ
การปฏิบัติด้านมนุษยธรรม – กองทัพภาคที่ 2 ควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ยอมจำนน หลังเหตุปะทะที่ซำแต (29 ก.ค. 68) จากการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาที่ยิงอาวุธเข้าพื้นที่ไทย หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจสามารถควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้ 18 นาย พร้อมอาวุธ โดยไม่มีการคุกคาม และพบผู้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ส่งรักษาที่โรงพยาบาล
ขณะนี้ ทหารฝ่ายกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของไทยในพื้นที่ปลอดภัย โดยได้รับอาหาร สิ่งของจำเป็น และการรักษาตามหลักมนุษยธรรมสากล โดยฝ่ายไทยจะส่งคืนศพทหารที่เสียชีวิตตามหลักปฏิบัติในภาวะสงคราม และยืนยันยึดมั่นอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยยืนยันการดูแลเชลยศึกทั้งหมดตามหลักมนุษยธรรมและอนุสัญญาเจนีวา รวมถึงเตรียมดำเนินการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิต 2 นาย กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา
จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด ในจำนวนนี้ประกอบด้วย ชั้นยศร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท 2 นาย และสิบตรี 1 นาย และมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย คือ สิบเอก มอม ริดที ซึ่งถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวาและแขนซ้าย ซึ่งภายหลังฝ่ายไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 นาย
ขณะนี้ ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ณ พื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้งเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาลตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากลตามอนุสัญญาเจนีวา จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของผู้เสียชีวิต ฝ่ายไทยจะดำเนินการส่งคืนร่างของผู้เสียชีวิต ตามหลักปฏิบัติสากลในการปฏิบัติต่อศพในภาวะสงคราม อย่างสมเกียรติต่อไป
ด้านภัยคุกคามจากการปล่อยข่าวเท็จ – ตรวจพบการปล่อยข่าวอันเป็นเท็จ สร้างความเข้าใจผิดให้กับนานาประเทศในหลายรูปแบบ โดยขณะนี้สื่ออย่างเป็นทางการของหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยทุกภาคส่วนได้นำเสนอเหตุการณ์จริง พร้อมคำแปลภาษา เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ได้รับทราบ โดยเช้าวานนี้ กองทัพไทยปฏิเสธคำแถลงโฆษกกลาโหมกัมพูชา กรณีฝ่ายกัมพูชาหยุดยิงทุกพื้นที่ กองทัพไทยยืนยันข้อเท็จจริงตรงข้ามกับคำแถลงของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่อ้างว่าไม่มีเสียงปืน และหยุดยิงสมบูรณ์ตั้งแต่เที่ยงคืน 28 ก.ค. 68 โดยฝ่ายกัมพูชายังยิงอาวุธเข้าไทยหลังข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งไทยมีหลักฐานชัดเจน กองทัพไทยประณามการบิดเบือนความจริงของโฆษกฯ ว่าเป็นการสร้างเหตุการณ์เท็จ บ่อนทำลายความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันไทยไม่เคยเริ่มความรุนแรง แต่มีสิทธิปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามหลักกฎหมายสากล