ทักษิณ เผย โทรคุย "ครอบครัวทรัมป์" มั่นใจทีมเจรจาได้ข้อเสนอที่ตกลงกันได้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษในงาน "ปลดล็อคอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก" (Unlocking Thailand's Future) เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค.68 ที่จัดโดยบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี นายวีระ ธีรภัทร และ น.ส.ชุติมา พึ่งความสุข ผู้ดำเนินรายการ "ฟังหูไว้หู" ของสำนักข่าวไทย เป็นผู้สัมภาษณ์
นายทักษิณ กล่าวถึงเรื่องภาษีการค้าของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าได้คุยกับครอบครัวของทรัมป์แล้ว "วันก่อนก็ได้คุยกันกับครอบครัวเขา ก็รู้จักกัน จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรดีกว่าการไปเจอหน้าเจอตากัน”
เมื่อนายวีระาามว่า ฉะนั้น ศาลควรอนุญาตให้ท่านเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “เดี๋ยววันที่ 22 สิงหาคมนี้ คดีมาตรา 112 ก็จบแล้ว”
และกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากคดีจบแล้วตนจะเดินทางไปเจอกับเพื่อนคนหนึ่งที่เคยขออนุญาตศาลไปเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต โดยเพื่อนคนนี้เป็นนักลงทุนใหญ่ที่มีการลงทุนมากทั่วโลกเฉพาะในสหรัฐคนนี้ลงทุนไป 1.2 พันล้านดอลลาร์ เขาอยากจะเข้ามาลงทุนในฝั่งตะวันออกบ้าง และสนใจในการลงทุนในประเทศไทย
ดังนั้น จะเดินทางไปเพื่อพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะหลายเรื่องที่เมื่อเรามีโครงการขนาดใหญ่แล้วนำเงินต่างประเทศมาลงทุน แล้วไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนผู้ใช้บริการในโอกาสต่อไปมากนัก ตนคิดว่าเม็ดเงินเหล่านี้จะมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นกำลังซื้อคนไทยก็จะดีขึ้น
นายทักษิณยังพูดถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐที่ทีมไทยแลนด์กำลังเจรจากับสหรัฐในขณะนี้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร นั่งกำกับไม่ให้เราเสียเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร หรือสินค้าอื่นๆ ทั้งนี้สินค้าในการเจรจากับสหรัฐจะมีทั้งในเรื่องสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยแล้วส่งไปสหรัฐ และสินค้าที่เป็นสินค้าสหรัฐที่มาตั้งในประเทศไทยมีการใช้เทคโนโลยีแล้วส่งกลับไปที่สหรัฐ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่มีปัญหาแต่ที่มีปัญหาเช่น สินค้าเกษตร เอสเอ็มอี และอัญมณี เรากระทบบ้าง สำหรับการเจรจานั้นก็มองว่าการนำสินค้าจากประเทศอื่นๆแล้วให้มาแข่งกันเองในประเทศไทยไม่เป็นไร เช่น เนื้อจากออสเตรเลีย มาแข่งกับสหรัฐ หรือที่สหรัฐอยากจะนำรถมอเตอร์ไซด์ฮาเล่เดวิสันเข้ามาขายก็ไม่เป็นอะไร ทั้งหมดน่าจะเป็นข้อเสนอที่ตกลงใจกันได้
“คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ ประเทศเขาใช้คำว่า Economy เป็นเรื่องเศรษฐกิจ ที่ต้องมีการเจรจากันต่อไปเราหยุดไม่ได้ตรงนี้”นายทักษิณ กล่าว