เก็บตกเวทีรวมพลคน AI จากทั่วโลกนักขับเคลื่อนความยั่งยืนต้องเชื่อมนัก AI ด่วน!!
Agentic AI คือผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่ไม่ใช่แค่ปฏิบัติงานตามคำสั่ง แต่สามารถคิด เรียนรู้ ประมวลข้อมูลต่าง ๆ และตัดสินใจได้ด้วยตนเอง สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ เพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพตรงเวลา
นับเป็นยุคที่มีพร้อมทั้ง Generative AI ที่เป็นเพื่อนคู่คิดด้านการสร้างสรรค์ หาโซลูชันที่เราต้องการ และยังมี Agentic AI ที่เหมือนเพื่อนร่วมงานที่ตัดสินใจเองได้ ควบคุม ผลักดันงานให้ได้ผลงานตามเป้าหมาย
ตอนนี้องค์กรชั้นนำล้วนใช้AI ในงานด้านความยั่งยืน AI ช่วยจัดเก็บข้อมูล ESG ของบริษัท นำมาประมวลผลได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ทำให้รายงานความยั่งยืน SD Report มีคุณภาพสูงขึ้น และเช่นกันนักลงทุนก็ใช้ AI ในการช่วยอ่านและวิเคราะห์ SD Report เพื่อที่จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืนสูง ได้ผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนั้นAI ยังช่วยคิด และติดตามงานได้ทั้งมิติE สิ่งแวดล้อมS สังคม และG ธรรมาภิบาล และเพื่อให้มนุษย์บรรลุเป้าหมาย SDG เหล่า AI ในยุคนี้มีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายด้าน
1.ด้านงานสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้เหล่า AI ได้ช่วย WHO World Health Organization พัฒนาแนวทาง และความร่วมมือที่กว้างขวางในวงการสาธารณสุข ทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ช่วยงานภัยพิบัติ อุบัติเหตุ และช่วยผู้คนยากจนที่เข้าไม่ถึงระบบประกันสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีผู้พัฒนา AI รุ่นใหม่ช่วยงานจิตแพทย์ เป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิต ลดความเครียด โดยเฉพาะช่วยเด็ก ๆ ในโรงเรียนให้มีสุขภาพจิตที่ดีแข็งแรงเป็นพื้นฐาน และที่โดดเด่นคือ AI พยาบาลที่กำลังขาดแคลน และ AI หมอพื้นฐานที่สามารถวิเคราะห์โรคและจ่ายยาให้โรคทั่วไปที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งต่อไปน่าจะขยายผลไปในโรคที่ซับซ้อนมากขึ้น SDG 3 สุขภาวะที่ดีจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
2.ด้านการเกษตร ในยุคที่มนุษย์มีทรัพยากรจำกัดทั้งเรื่องน้ำ พื้นที่ดิน แรงงาน แถมยังเผชิญความแปรปรวนของภาวะโลกเดือด AI จึงมาช่วยพัฒนาระบบเกษตรแม่นยำ เกษตรมูลค่าสูง สามารถควบคุมทรัพยากรที่มีจำกัดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด สามารถช่วยปรับระดับน้ำ ปุ๋ย แสง และวันเวลาเก็บเกี่ยวได้แม่นยำ AI ที่ใช้มีทั้งระบบโดรนรวบรวมข้อมูลและควบคุมการทำงาน และ AI บางตัวยังสามารถทำงานในพื้นที่สวนไร่นาแทนมนุษย์ได้ทั้งวันทั้งคืน SDG 1 ความยากจน และ SDG 2 อาหารและความหิวโหยจะหมดไป
3.ด้านการศึกษา ปีนี้มีครู AI มาเพิ่มหลายรูปแบบ ทั้งเป็นครูผู้ช่วย ครูธุรการ ครูแนะแนว เป็นครูติวเตอร์ และเป็นครูตามเวลาที่นักเรียนต้องการ พร้อมสอน 24 ชั่วโมง ในอนาคตโรงเรียนจะเปลี่ยนไปเมื่อครู AI เข้ามาเต็มรูปแบบ SDG 4 คุณภาพการศึกษาจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
4.ด้านสิ่งแวดล้อม มี AI ใหม่ ๆ ที่ช่วยเราคำนวณ ติดตาม ลด และชดเชยคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเชื่อมโยงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยแก้ไขภาวะโลกเดือด จากนี้ไป SDG 13/14/15 ที่เกี่ยวกับธรรมชาติจะฟื้นฟูได้
5.ด้านธรรมาภิบาล AI จะช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง จัดการขบวนการติดตามงาน และตรวจสอบที่โปร่งใส ทำให้เรามั่นใจเรื่องความปลอดภัย และการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มความโปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ และรายงานผลอย่างเที่ยงธรรม ดังนั้นมั่นใจได้ใน SDG 16 ธรรมาภิบาล ความยุติธรรม และ สันติภาพ
6.ด้านการสร้างพันธมิตร AI เชื่อมโยงฐานข้อมูลของระบบนิเวศในงานต่าง ๆ ทำให้การทำงานของหน่วยงานต่างเครือข่ายเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมช่องว่าง ลดความซ้ำซ้อน เป็นผลดีของ SDG 17 ความร่วมมือ
ทั้งหมดนี้เพื่อน ๆ ในกลุ่ม AI for Good บอกว่านักขับเคลื่อนความยั่งยืน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ควรจะรีบเชื่อมต่อกับนัก AI โดยด่วน ตอนนี้นัก AI ได้เชื่อมโยงการทำงานกับ UN กว่า 40 หน่วยงานแล้ว ถ้าผู้นำไทยมีวิสัยทัศน์ชู “ยุทธศาสตร์AI เพื่อความยั่งยืน” เพิ่มคุณภาพ ESG ของหน่วยงานรัฐ น่าจะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศชาติได้.