โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไต่สวนคดี ‘ทักษิณ’ ชั้น 14 พบข้อมูลสำคัญ ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

เดลินิวส์

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ข้อมูลจากแพทยสภา ช่วงหนึ่งระบุว่า จากการอ่านเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวนายทักษิณ โดยมาด้วยอาการเฝ้าระวังอาการโรคหัวใจ แต่พอมาถึงโรงพยาบาลตำรวจกลับได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อีกอาการหนึ่งที่ไม่ร้ายแรง และให้ความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

ถือเป็นสถานการณ์รุมเร้ารัฐบาล นอกจากต้องรับมือกับสถานการณ์การสู้รบระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องยืดเยื้อไปอีกกี่วัน ซึ่งมีก็มีเสียงวิจารณ์ว่าส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาความขัดแย้งระหว่าง "สมเด็จฮุน เซน-นายทักษิณ" สองผู้มากบารมีของสองประเทศ รวมทั้งสืบเนื่องจากคลิปเสียงของ "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" ที่สนทนากับประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ "นายจตุพร พรหมพันธุ์" วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาสื่อสารว่า คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ประชุมประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา มีมติชุมนุมแสดงพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยและไล่รัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

"ภารกิจนี้เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่รักชาติบ้านเมือง หลายประเทศเมื่อเกิดสงคราม ประชาชนก็รวมตัวกันแสดงพลังนับแสนคน ดังนั้น การแสดงพลังแผ่นดินของคนไทยจึงไม่น่าเมินเฉย เพราะมีประชาชนตายจากสงครามครั้งนี้แล้ว"

ก่อนหน้านั้น กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ได้ทำกิจกรรมชุมนุมขับไล่ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. โดยกล่าวหาว่า นายกฯ ขายชาติ พร้อมเรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลให้ถอนตัวจากการร่วมเป็นฝ่ายบริหารทันที โดยชนวนเหตุที่นำมาสู่การนัดชุมนุมประท้วง เกิดจากคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. โดยเนื้อหาของบทสนทนาหลายส่วน ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมไทยอย่างกว้างขวาง จากคำพูดของนายกฯ แพทองธาร ซึ่งมีประชาชนร่วมกิจกรรมนับหมื่นคน ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นคงต้องรอดูว่า จะมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกับคณะรวมพลังฯ มากเท่าเดิมหรือไม่ ซึ่งก็ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันไปถึงฝ่ายบริหาร

อย่างไรก็ตาม ต่อมา "นายจตุพร" พร้อมด้วยคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ได้เข้าพบตำรวจจาก บก.น.1 โดยขอเลื่อนการชุมนุมจากวันที่ 27 ก.ค. เป็นวันที่ 2 ส.ค. โดยจากการหารือในการชุมนุม สืบเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบเกิดขึ้นอย่างรุนแรง คณะรวมพลังแผ่นดินฯ เห็นควรขยายเวลาการชุมนุม 2 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เพื่อให้คนไทยต้องการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการรวบรวมสิ่งของส่งให้ทหาร ประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจนกระทั่งเกิดการสูญเสียจากแนวหลังสู่แนวหน้า

จากนี้ต้องรอดูว่า การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ จะขยายตัวหรือไม่ ซึ่งถือเป็นแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ฝ่ายบริหาร และคงต้องรอดูสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาจะยืดเยื้อยาวนานมากแค่ไหน ซึ่งหากการสู้รบยุติลง เชื่อว่าแรงกดดันจะถาโถมใส่รัฐบาลแน่ๆ

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข นัดแรกเพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ ใน กมธ. โดยมี นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และนายวรวิทย์ บารู สส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ (ปช.) เป็นประธานการประชุมชั่วคราว จากนั้นที่ประชุมมีมติเลือกนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯ ในฐานะ กมธ.สัดส่วนของพรรค พท. เป็นประธาน กมธ. ขณะที่รองประธาน กมธ. จำนวน 5 คน ได้แก่ นพ.เชิดชัย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช.

ที่น่าสนใจคือ ในการประชุม กมธ. เพื่อพิจารณารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะมีใครเสนอให้ร่วมการล้างผิดมาตรา 112 ไว้ด้วยหรือไม่ เพราะร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เปิดกว้างไว้ด้วย อีกทั้ง นายณัฐวุฒิ ในฐานะประธาน กมธ. คงส่งสัญญาณสนับสนุนให้ล้างผิดในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบัน ซึ่งคงต้องรอดูในส่วน กมธ.จากพรรค พท. และพรรค ปชน.จับมือผลักดันฝ่าปมร้อนหรือไม่

ขณะที่ก่อนหน้านั้น "นายชูศักดิ์ ศิรินิล" รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภาลงมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข 3 ฉบับ โดยจะยึดร่าง พ.ร.บ.ฉบับพรรค รทสช. เป็นหลักเลยหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้กฎหมายน่าจะผ่านได้ใช่หรือไม่ เพราะทำกันมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่า ข้อจำกัดเรื่องมาตรา 112 ไม่มี น่าจะผ่านได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็อาจจะพอไปได้ ดูคณะ กมธ.วิสามัญ เขาว่ากันไป

ส่วน "นายรังสิมันต์ โรม" สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวถึงจุดยืนของพรรค ปชน. ในชั้น กมธ. เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยร่างหลักของพรรค รทสช. ก็ไม่ได้เขียนไว้ในหลักการว่า ไม่ให้รวมถึงการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ก็คงต้องไปพูดคุยกัน ถ้าพรรครัฐบาลยังแข็งเหมือนเดิมในชั้น กมธ. ไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการผลักดัน แต่เราก็ต้องทำให้เต็มที่

“อย่างน้อยการพิจารณาเรื่องนี้ต้องโปร่งใส ประชาชนทุกคนรวมถึงครอบครัวของผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำ และตัวแทนต่างๆ ที่นั่งอยู่ในกรรมาธิการ ทั้ง สส. และไม่ใช่ สส. ก็ตาม คิดอะไร พูดอะไร เพราะกฎหมายฉบับนี้มีส่วนได้เสียต่อโชคชะตาและชีวิตของคนหลายคน ซึ่งเขามีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ดังนั้นหากไม่ได้มีทิศทางที่ดีต่อครอบครัวหรือประชาชน เขาก็ควรมีสิทธิรู้และตัดสินใจ”

ต้องรอดูว่า กระบวนการการพิจารณาในชั้น กมธ. จะมีการผลักดันให้ล้างผิดมาตรา 112 หรือไม่ โดยเฉพาะท่าที “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ตัวแทนของพรรค พท. ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธาน กมธ. เคยให้ความเห็นว่า ควรนิรโทษกรรมคนที่กระทำความผิดมาตรา 112

ส่วนความเคลื่อนไหวของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครั้งที่ 6 โดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยานในส่วนของแพทยสภา ในระหว่างการไต่สวนพยาน ในส่วนของแพทยสภาทั้งหมด 3 ปากเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของจำเลยซึ่งเป็นสาเหตุให้ส่งตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ

โดยพยานปากที่ 1 (ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา) เป็นอุปนายกแพทยสภา ได้ให้ความเห็นหลังจากอ่านเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวนายทักษิณ โดยมาด้วยอาการเฝ้าระวังอาการโรคหัวใจ แต่พอมาถึงโรงพยาบาลตำรวจกลับได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อีกอาการหนึ่งที่ไม่ร้ายแรง และให้ความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล โดยพยานปากนี้ได้ทำเอกสารชี้แจงรายละเอียดถึงคำศัพท์ทางการแพทย์ รวมทั้งความเห็นยื่นต่อศาลและศาลรับไว้ และให้ความเห็นเกี่ยวกับยารักษาโรคของนายทักษิณ รวมถึงใบเสร็จที่ต้องระบุถึงชื่อยา

ส่วนพยานปากที่ 2 เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์และไอซียู ได้ให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่าการรักษาจำเลยไม่จำเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามารถไปกลับได้

พยานปากที่ 3 (ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ออร์โธปิดิกส์) เบิกความว่าการรักษาไม่ใช่การรักษาแบบเร่งด่วน สามารถรอการผ่าตัดได้ โดยส่วนใหญ่แพทย์มักให้การรักษาเบื้องต้นด้วยการบำบัดและการทานยาก่อนการผ่าตัด โดยเป็นการผ่าตัดเล็กไม่เร่งด่วน สามารถรักษาตัวแบบไปกลับ ไม่จำเป็นต้องนอนที่โรงพยาบาล อีกทั้งการตรวจอาการแน่นหน้าอก ก็ไม่พบความเกี่ยวข้องกับโรคที่แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์กังวลและแพทย์โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่ได้ให้การรักษาอาการดังกล่าว และสามารถกลับไปอยู่ที่เรือนจำได้

โดยศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนพยานบุคคลต่อไปในวันที่ 30 ก.ค. เวลา 09.30 น. โดยจะเป็นการไต่สวน นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ซึ่งทางศาลฎีกาฯ ได้ไต่สวนพยานไปแล้ว 6 นัดรวม 30 ปาก

ที่น่าสนใจ คือ ข้อมูลจากแพทยสภา ที่ระบุว่า จากอ่านเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวนายทักษิณ โดยมาด้วยอาการเฝ้าระวังอาการโรคหัวใจ แต่พอมาถึงโรงพยาบาลตำรวจกลับได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อีกอาการหนึ่งที่ไม่ร้ายแรง และให้ความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

อีกทั้งการตรวจอาการแน่นหน้าอก ก็ไม่พบความเกี่ยวข้องกับโรคที่แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์กังวล และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่ได้ให้การรักษาอาการดังกล่าว และสามารถกลับไปอยู่ที่เรือนจำได้.

"ทีมข่าวการเมือง"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เตือน ‘บูลลี่’ ภัยร้ายทำเด็กป่วยจิต เสี่ยงคิดฆ่าตัวตาย

26 นาทีที่แล้ว

บุรีรัมย์สั่งย้ายผู้ป่วยรพ.ละหานทราย ด่วน! หลังลูกปืนใหญ่เขมรตกใกล้พื้นที่

26 นาทีที่แล้ว

นครนายก สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยชายแดนไทยกัมพูชา

30 นาทีที่แล้ว

‘พล.อ.ประวิตร’แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยกย่องหัวใจกล้าหาญของ ‘ทหารไทย’

42 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ฝนถล่ม! ทหารไทย-กัมพูชา พักรบชั่วคราว กระสุน BM-21 รวม 28 นัด จ.บุรีรัมย์

กรุงเทพธุรกิจ

สดุดี ‘พลทหารญาณพัฒน์ โคตรสาขา‘ พลีชีพปกป้องอธิปไตย

เดลินิวส์

โฆษกกลาโหมกัมพูชาโต้ ยันไม่จำเป็นต้องงัด PHL03 ยิงไทย

สยามนิวส์

ชาวชัยภูมิเร่งส่งมอบธารน้ำใจช่วยพี่น้องกว่า1.3แสนคนได้รับความเดือดร้อนเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา!

77kaoded

‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น ‘กัมพูชา’ ก่ออาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง เปิดฉากยิงก่อน ไทยต้องตอบโต้

The Bangkok Insight

ครั้งแรก "กริพเพน" ปฏิบัติภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริง

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘ทีมโฆษกกองทัพบก’ โพสต์อาลัย 6 ทหารกล้า เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจ พิทักษ์อธิปไตยของชาติ

เดลินิวส์

ด่วน! กองทัพเรือเปิดปฏิบัติการเเล้ว หลัง‘กัมพูชา’ เปิดฉากยิงทหารไทย บ้านชำราก จ.ตราด

เดลินิวส์

แซ่บสะท้านทะเล! ‘พิม พิมประภา’ อวดหุ่นสุดเป๊ะในชุดว่ายน้ำริมชายหาด ทำไอจีไฟลุก

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม