เปิดใจ 2 ครอบครัวเหยื่อระเบิดลงปั๊ม สูญเสียลูก 2 คนกับภรรยาในพริบตา
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ความคืบหน้าหลังเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่มายังฝั่งไทยทำให้กระสุนตกลงในร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 13 ราย และบ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ห้องนิติเวช โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย เข้าสู่กระบวนการผ่าพิสูจน์และตรวจเก็บดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวบุคคลอย่างเป็นทางการ หนึ่งในผู้สูญเสียคือ นายคมสันต์ ประชัน อายุ 40 ปี สามีของ น.ส.รุ่งรัศ ประชัน และพ่อของ น.ส.ทักษพร (น้องผักบุ้ง) อายุ 15 ปี กับ ด.ช.พงศภัค (น้องฟรีคิก) อายุ 9 ขวบ
นายคมสันต์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุตนและภรรยาเดินทางไปรับลูกกลับบ้านตามคำแนะนำของโรงเรียนที่ประกาศให้ผู้ปกครองมารับบุตรหลานก่อนกำหนด หลังเกิดสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน ขณะเติมน้ำมันภรรยาและลูกๆ เข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ส่วนตนไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับมารอที่หน้าร้านไม่นานก็เกิดระเบิดดังสนั่น
"ตอนระเบิดลงผมไม่กลัวอะไรเลยวิ่งสวนเข้าไปในร้านมองหาภรรยาและลูกก่อนจะอุ้มลูกสาวคนโตที่นอนอยู่ตรงตู้แช่ออกมา แล้วมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล ผมไม่รู้เลยว่าลูกหมดลมหายใจแล้ว คิดแค่ว่าต้องพาออกมาให้ได้” นายคมสันต์ กล่าวทั้งน้ำตา
นายคมสันต์ ยังเล่าอีกว่า วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาและลูกๆ ยังซื้อเค้กมาเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ตน ไม่มีลางร้ายใด ๆ “ผมอยากบอกภรรยา ให้จับมือลูก ๆ ไว้แน่น ๆ ดูแลกันไปเหมือนทุกวัน ไม่ต้องห่วงทางนี้”
ขณะที่ นางบุษบา คำวัง อายุ 41 ปี แม่ของ ด.ช.กิตติศักดิ์ (น้องซีเกมส์) อายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ออกไปทำงานต่างอำเภอ เมื่อทราบข่าวเหตุปะทะก็รีบติดต่อคนในบ้าน แต่ไม่มีใครตอบ กระทั่งทราบข่าวว่าร้านสะดวกซื้อถูกปืนใหญ่ยิงถล่ม จึงพยายามตามหาลูกชายผ่านโซเชียล โดยยังคาดหวังว่าจะมีใครพาลูกหนีออกมาได้
“จนเห็นภาพผู้หญิงที่เสียชีวิตกอดเด็กสองคน ตรงนั้นเองที่ใจหล่นวูบ ตนรู้เลยว่าคนนั้นคือลูก เพราะก่อนออกไปทำงาน เช้ายังโทรหากัน ลูกถามว่า ‘แม่จะกลับวันไหน’ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการพูดครั้งสุดท้าย”
นางบุษบา ยังบอกอีกว่า ได้เข้าไปยืนยันศพลูกชายแล้ว พบว่าเสื้อผ้านักเรียนยังอยู่ครบ แม้เสื้อจะไหม้ แต่กางเกงยังเหมือนเดิม “อยากบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า พ่อกับแม่รักลูกมาก แม่คิดถึงลูกที่สุดในโลก”
ตอนนี้จะเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษก่อนรอให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายจึงจะนำศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามประเพณี โดยวันนี้ได้นำเสื้อตัวโปรดและกางเกงของลูกมาให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนให้ แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนได้เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการผ่าพิสูจน์
ด้านนายสิทธิวัฒน์ ธนบูลย์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ เปิดเผยว่า น้องซีเกมส์ และน้องฟรีคิกเป็นนักเรียนของโรงเรียน ทั้งสองเป็นเด็กดี มีนิสัยน่ารัก ช่วยครูทำความสะอาดทุกเช้า ขณะนี้ทางโรงเรียนกำลังประสานเรื่องน้ำหลวงอาบศพและพวงหรีดพระราชทานจากสำนักพระราชวัง แต่เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย จึงต้องหารือกับครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป