ททท. ดึง AI ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วยข้อมูลพฤติกรรม
ในการเสวนาหัวข้อ “AI in Tourism” ที่จัดขึ้นในเวที Canvas Forum 2025 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นรินทร์ ทิจะยัง ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กล่าวถึงบทบาทของเทคโนโลยี AI ในภาคการท่องเที่ยวว่า
“สิ่งสำคัญที่ ททท. พัฒนา คือเรื่อง ‘การปฏิบัติการ’ ดูว่าเทคโนโลยีไหนเหมาะกับการท่องเที่ยว ตอนนี้เราเอา AI มาจับ 2 มิติหลัห มิติที่ 1 คือ Data Analysis หรือการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มิติที่ 2 คือการใช้ AI ให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งอันนี้เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว”
เขาย้ำว่า ททท. ไม่ได้ใช้ AI เป็นเพียงแฟชั่น แต่เน้นการนำมาใช้งานจริงเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยกล่าวว่า
“เรานำข้อมูลตรงนั้นมาทำเป็น ‘แบบจำลอง’ ให้ได้ นับเป็นงานที่ท้าทาย เพราะเราไม่ได้ทำ AI เป็นแฟชั่น แต่เราจะใช้ AI เพื่อช่วยผู้ประกอบการตัวเล็กตัวน้อยให้ได้ และเราเรามาถูกทาง”
นอกจากนี้ ททท. ยังมีแผนพัฒนา E-marketplace เพื่อเป็นพื้นที่กลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายพบกันโดยตรง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยวโดยตรงจากการใช้งานจริง
เขายังชี้ถึงจุดอ่อนในอดีตที่ไม่มีการจัดเก็บฐานข้อมูล และย้ำว่า ททท. ต้องการสร้างระบบที่ยั่งยืน วัดผลได้ และใช้ประโยชน์ได้จริง
“ที่ผ่านมา ททท. ทำโครงการท่องเที่ยวมาหลายปี ไม่มี Database เก็บไว้เลย ซึ่งเรายอมไม่ได้อีกต่อไป เราไม่อยากได้ผลลัพธ์แบบเดิม เราต้องการผลงานที่มันยั่งยืนมากขึ้น ที่วัดผลได้ และเป็นประโยชน์กับทุกคน งบประมาณที่ใช้จะได้คุ้มค่า”
ในปัจจุบัน ททท. มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกและแม่นยำ สามารถระบุได้ถึงพฤติกรรมของผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่
“ตอนนี้เรามีระบบที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดมาก เราสามารถดูได้เลยว่าแต่ละคนใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ใช้ที่จังหวัดไหน ใช้สิทธิ์อะไร และใช้กับพฤติกรรมแบบไหนบ้าง”
“ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้สิทธิ์ใช้งานเที่ยวไทยคนละครึ่งที่เรามีอยู่ สามารถวิเคราะห์ได้ลึกถึงว่า 3 แสนสิทธิที่ลงทะเบียนไป มีการใช้จ่ายในเชิงลึกได้ระดับพฤติกรรมเลยว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใช้ในเวลาไหน สถานที่ใด หรือแม้แต่แยกได้ว่าคนกลุ่มไหนใช้กับร้านอาหาร กลุ่มไหนเน้นท่องเที่ยว”
“ทั้งหมดนี้กลายเป็นข้อมูลที่มีความแม่นยำและลึกลงไปมากจริง ๆ และในปัจจุบันนี้เอง มาสเตอร์การ์ดก็มาขอร่วมมือกับ ททท. ใช้ข้อมูลชุดนี้ในการวางแผนการตลาดและวิเคราะห์แนวโน้มผู้บริโภคในระดับประเทศเลย”
“ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ สร้างสิ่งที่เรียกว่า Customer Databases ซึ่งจะเป็นแหล่งเก็บข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเลย จะได้รู้ว่าเขาเดินทางไปไหน จังหวัดไหนใช้อะไร ซื้ออะไร มีแพทเทิร์นกี่วัน ซึ่งพลัง AI เหล่านี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้มาก”
และสุดท้าย นรินทร์ได้ฝากข้อคิดสำคัญไว้อย่างชัดเจนว่า
“สุดท้าย เทคโนโลยีมันก็แค่เครื่องมือเท่านั้น ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าคนที่ช่วยกันทำให้การท่องเที่ยวในน่าประทับใจ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง