โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘วิโรจน์’มองหากยกเลิก‘เอ็มโอยู 43-44’แล้วร่างใหม่ต้องทำให้รัดกุม

เดลินิวส์

อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 19.28 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘วิโรจน์’มองหากยกเลิก‘เอ็มโอยู 43-44’แล้วร่างใหม่ต้องทำให้รัดกุม สร้างความเชื่อมั่นประชาชนว่าไม่เสียเปรียบ ย้ำตอนนี้กำลังต่อสู้กับคนหัวหมอพร้อมวางเส้นเรื่องให้เราตกหลุม หวัง ‘กัมพูชา’ ให้เกียรติทหารตัวเอง

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่ากัมพูชาอาจจะละเมิดข้อตกลงได้ ว่า ตนมองว่าหากมีการบันทึกทุกอย่างเป็นรายลักษณ์อักษร และได้แถลงการณ์ต่อประชาคมโลกต่อภูมิภาคอาเซียน หวังว่ากัมพูชาจะเคารพในข้อตกลง แม้ว่าที่ผ่านมากัมพูชาจะละเมิดสัญญามาแล้ว 651 ครั้ง และมีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชาเป็นคนรักษาสัญญาว่าจะไม่รักษาสัญญาเสมอ ทั้งนี้ ตนมองว่าข้อตกลงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อมีการต่างชาติ มีทูตต่างประเทศหรือมีเพื่อนนานาชาติเป็นพยานร่วมสังเกตการถือเป็นผลดี

“หากข้อตกลงถูกละเมิด ผมมองว่าเป็นบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศต้องเข้ามีส่วนในสภาความมั่นคงแห่งชาติ และต้องดำเนินการแถลงการณ์ หรือประท้วงผ่านองค์กรนานาชาติ อาเซียน รวมถึงวงประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หรือเวทีด้านความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน ต้องยกมาประท้วง และแจ้งที่ประชุมทราบ หากละเมิดข้อตกลงอีก และผมมองว่าวันนี้ สิ่งที่ต้องทำคือ ไทยต้องรอบคอบทุกย่างก้าวต้องทำให้รัดกุมรักษากฎหมาย และสัจจะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเราปกป้องอธิปไตยและความสง่างามบนเวทีโลกได้” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่กัมพูชาทิ้งร่างทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถเดาใจ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และพล.ท.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ แต่เขาต้องให้เกียรติกับนักรบ ดังนั้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากัมพูชาจะให้เกียรติทหารของตัวเอง แม้ว่าการรับศพทหารกลับไปจะสร้างความหวาดหวั่นให้คนในชาติ แต่วินาทีนี้ต่างฝ่ายยืนบนฐานความจริงและเอาความจริงคุยกัน ความจริงนั้นทำให้ประเทศไทยและทุกภาคส่วนในภูมิภาคบรรจุลงสัมฤทธิ์ ร่วมกัน

เมื่อถามว่า มองว่ากลไกของไทยที่เดินมานั้นถูกแล้วใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เข้ารูปเข้ารอยขึ้น แต่ทราบมาว่าเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น อาจจะมีการสื่อสารข้อความที่คาดเคลื่อนไปบ้าง เช่น เรื่องโดรนที่อาจจะมีการสื่อสารที่บิดเบือนอยู่บ้าง แต่ก็ได้รับการชี้แจงว่าคลิปและภาพที่ได้มานั้น ได้มาจากโฆษกของรัฐบาล ทีมกลาโหม ตนคิดว่าอย่าโทษกัน เพราะในช่วงที่มีการสื่อสารเช่นนี้อาจจะหลุดกันได้บ้าง แต่หลังจากนี้ตนคิดว่าต้องมีความรัดกุม เนื่องจากอาจจะทำให้ทางฝั่งกัมพูชาตีฟูและนำเรื่องนี้ไปฟ้องประชาคมโลกและกล่าวหาเราจากความบกพร่องผิดพลาดได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีในการเจรจาบนเวทีนานาชาติ โดยเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชานี้ ตนคิดว่าถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียบร้อยแล้ว

“ดังนั้น หากจะเปรียบเทียบเป็นภาษาง่ายๆ คือเรากำลังต่อสู้กับคนที่หัวหมอสุดๆ คนที่พร้อมจะวางเส้นเรื่องและจัดฉากรวมถึงยั่วยุสุดๆ เพื่อทำให้เราเดินเข้ามาตกหลุมและเดินเข้ามาตามเส้นเรื่องของเขา แล้วเขาจะหยิบยกเอาหลักฐานต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามเส้นเรื่องที่เขาวางไว้มาใช้ในการโจมตีกล่าวหาเราเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเรื่องอธิปไตยและความชอบธรรมในเวทีโลก ซึ่งที่ผมบอกว่าผมไม่กลัวที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่กังวลที่จะถูกทัวร์ลง เพราะคิดว่าอะไรที่กัมพูชาจะหยิบยกมากล่าวหาเรา หรือสร้างความได้เปรียบในการเจรจาบนเวทีนานาชาติ เราต้องทักท้วงเอาไว้ ผมอาจจะถูกตำหนิจากคนในประเทศ ยังดีกว่าหากเรานึกว่าในอนาคตกัมพูชาจะหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีเราจริงๆ รัฐบาลไทยในขณะนั้นจะได้หยิบยกคำท้วงติงจากฝ่ายนิติบัญญัติ มาเป็นข้อต่อสู้ได้ว่าเราไม่ได้เห็นชอบด้วย และระบบรัฐสภาทางฝ่ายนิติบัญญัติก็คอยตรวจสอบถ่วงดุลเพื่อให้ประเทศไทยเดินไปตามครรลองของกฎหมายระหว่างประเทศ เป้าหมายสุดท้ายแม้ว่าผมจะถูกตำหนิอย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติ แต่ย้ำว่าเป้าหมายสุดท้ายเรามองตรงกันคือการปกป้องอธิปไตยและความสวยงามของประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมเสนอญัตติให้สภาฯ หารือเรื่องการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และเอ็มโอยู 44 นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าแต่ละพรรคคงจะมีกลไกในการดำเนินการ ตนคิดว่าการจะยกเลิกเอ็มโอยูทั้งสองนั้น มันไม่ยาก แต่การร่างใหม่เราต้องคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ที่ผ่านมาเรายืนยันตลอดว่าเราไม่เคยละเมิดเอ็มโอยูที่เราได้ตกลงกันไว้ไม่ว่าจะเป็นเอ็มโอยู 43 หรือเอ็มโอยู 44 ก็ตาม กัมพูชาต่างหากที่ละเมิดข้อตกลงในเอ็มโอยู 43 ถึง 600 กว่าครั้ง และการจะยกเลิกเอ็มโอยูแล้วร่างใหม่นั้น เราต้องทำให้ประชาชนมั่นใจว่าเราไม่ได้มีความเสียเปรียบอะไร รวมถึงมีการแก้ไขให้รัดกุมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องหารือกันก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียด หากเราไม่ได้ทำอย่างรัดกุม ไม่มีการสื่อสาร และไม่ได้ดึงภาคประชาชนหรือนักวิชาการเข้ามาเกี่ยวข้อง หากเราทำดีแค่ไหนแล้วถูกบิดเบือนจากฝั่งกัมพูชาหรือผู้ไม่ประสงค์ดีว่า เอ็มโอยูฉบับใหม่เราเสียเปรียบ เราขายชาติ ทั้งที่เราตั้งใจ แต่เมื่อถูกโจมตีบิดเบือนก็อาจจะปัญหาลุกลามปั่นป่วน และเป็นปัญหากับประเทศเองได้ ฉะนั้น ตนคิดว่าควรที่จะเปิดให้มีการมีส่วนร่วมของสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าเอ็มโอยูฉบับใหม่จะมีความรัดกุมและดีกว่าเดิม.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

“ภุชงค์” สอบผ่านหลักสูตรสูงสุดของ UCI “สองล้อ” ได้โค้ชระดับมือโปร

12 นาทีที่แล้ว

‘ตร.ปากเกร็ด’ ตามจับ 4 โจรชาวจีน บุกกวาดทรัพย์ตู้เซฟครึ่งล้าน

14 นาทีที่แล้ว

วันเดียว 3 หมื่นตัว! ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ โกยเงิน 25.2 ล้านบาท ตั้งแต่ยังไม่เริ่มฤดูกาล

14 นาทีที่แล้ว

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียยืนยัน “ไทย-กัมพูชา” เดินหน้าหารือเชิงบวก

15 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

สงบแต่ยังเฝ้าระวัง! "กองทัพภาค 2" รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมดูแลผู้อพยพกว่า 6 หมื่นคน

สยามรัฐ

“หัวหน้าเท้ง“ ไม่สนทัวร์ลง หลังวิจารณ์รพ. ยึดหลักมนุษยธรรมฯ ขอปชช.ใช้สติเสพข่าว หวั่นซ้ำเติมสถานการณ์

สยามรัฐ

ด่วน! บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ โยกจากปลัดแรงงาน เป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกฯ

News In Thailand

ครม.เคาะเงินเยียวยา ทหารเสียชีวิตชายแดน 10 ล้าน พลเรือน 8 ล้านต่อราย

PostToday

ครม.ไฟเขียวเพิ่มเงินเยียวยาเหตุปะทะชายแดน เสียชีวิตรายละ 8 - 10 ล้านบาท

TNN ช่อง16

"เท้ง" เห็นด้วยให้รัฐใช้ทุกกลไก ยื่นฟ้องต่อ "ผู้นำกัมพูชา" ยัน "ปชน."ไม่ขัดซื้อกริพเพนเพิ่ม ไม่เคยขวางงบอาวุธที่จำเป็น

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม