คนทั้งเมืองติด "โคล่า" เด็กเล็กดื่มแทนนม วิกฤตผู้ป่วยเบาหวาน รู้เหตุผลแล้วสะเทือนใจ
เมืองที่คนทั้งเมืองติด "โคล่า" ผู้ใหญ่กินแทนน้ำ เด็กเล็กดื่มแทนนม ผู้ป่วยเบาหวานพุ่ง เปิดเหตุผลสุดสะเทือนใจ
เพราะความยากจนและการขาดแคลนน้ำสะอาด ทำให้ชาวเมืองแห่งหนึ่งในเม็กซิโกบริโภคโคล่าเฉลี่ยคนละกว่า 800 ลิตรต่อปี แม้จะตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคอ้วนและเบาหวาน เด็กบางคนกลับต้องดื่มโคล่าแทนนมแม่หรือนมผง
เมือง San Cristobal de las Casas ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูงของรัฐ Chiapas ทางตอนใต้ของเม็กซิโก (ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของประเทศ) กลายเป็นพื้นที่ที่โคล่าไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต พบได้ทั่วไปตั้งแต่ร้านขายของชำ แผงลอย ไปจนถึงวัดวาอาราม
ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Chiapas and Southern Border ระบุว่า หลายคนดื่มโคล่าถึงวันละ 2 ลิตร รวมแล้วมากกว่า 800 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกกว่าความชอบรสชาติ
เมื่อโคล่าแทนน้ำดื่ม
ปัญหาน้ำสะอาด คือรากฐานของ “วัฒนธรรมโคล่า” ที่แพร่หลายในภูมิภาคนี้ ในหลายชุมชนของ Chiapas น้ำประปามีให้ใช้อย่างจำกัดในแต่ละสัปดาห์ แถมยังไม่มีระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของน้ำดื่ม
ผลสำรวจระดับชาติในปี 2023 พบว่า มีเพียง 7% ของครัวเรือนใน Chiapas ที่เชื่อว่าน้ำประปาสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย ผู้คนจำนวนมากจึงหันไปพึ่งน้ำดื่มบรรจุขวด และโคล่ากลับกลายเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าในบางพื้นที่
มีรายงานว่าหลายครอบครัวถึงขั้นเทโคล่าใส่ขวดนมให้ลูกดื่มแทนนม ภาพที่น่าตกใจนี้ สะท้อนถึงโศกนาฏกรรมของความยากจน ความไม่เท่าเทียม และการขาดแคลนทรัพยากรขั้นพื้นฐาน
โคล่ากับพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
ในเมือง San Andres ซึ่งอยู่ห่างจาก San Cristobal ราวหนึ่งชั่วโมง ชาวพื้นเมืองบางกลุ่มใช้โคล่าในพิธีกรรมทางศาสนา หมอผีและพ่อมดพื้นบ้านใช้โคล่าระหว่างสวดมนต์ เพราะเชื่อว่าฟองก๊าซที่ทำให้เรอมีพลังในการ “ขับไล่วิญญาณร้ายและรักษาโรค”
บางวัดถึงกับมีตู้แช่โคล่าตั้งอยู่ด้านนอกให้ผู้ศรัทธาซื้อไปถวาย เปรียบเสมือน “ทองคำเหลว” ที่บางครั้งมีค่ามากกว่าน้ำสะอาด
เบื้องหลังอิทธิพลโคล่า
บริษัทซึ่งเป็นพันธมิตรในการผลิตและจัดจำหน่ายโคล่าในละตินอเมริกา ได้รับสิทธิในการสูบน้ำจากพื้นที่ Chiapas ถึงวันละ 1.3 ล้านลิตร ขณะที่ชาวบ้านหลายครัวเรือนกลับไม่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
นักเคลื่อนไหวหลายคนมองว่าโคล่ากำลังสร้าง “ระบบการเสพติด” โดยผูกขาดตลาดน้ำดื่มและอาหารสุขภาพในพื้นที่ ดร. Marcos Arana นักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพกล่าวว่า
“พวกเขาใช้กลยุทธ์ที่แนบเนียน ทำให้โคล่ากลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต ตั้งแต่ร้านค้าขนาดเล็ก ไปจนถึงพิธีกรรมทางศาสนา”
จุดเริ่มต้นของปัญหานี้ส่วนหนึ่งมาจากปี 1994 เมื่อเม็กซิโกลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี NAFTA ทำให้สินค้าอย่างโคล่าเข้าสู่ตลาดเม็กซิโกในราคาถูกและเข้าถึงได้ง่าย
วิกฤตสุขภาพจากโคล่า
การบริโภคโคล่าปริมาณมากต่อเนื่องนานหลายปี ส่งผลให้รัฐ Chiapas เผชิญวิกฤตสุขภาพอย่างรุนแรง อัตราโรคอ้วนและเบาหวานในพื้นที่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ
ข้อมูลจาก UNICEF ระบุว่า เด็กในเม็กซิโกบริโภคอาหารขยะมากที่สุดในละตินอเมริกา โดย 40% ของพลังงานที่เด็กได้รับในแต่ละวัน มาจากเครื่องดื่มหวานและอาหารแปรรูป ส่งผลให้ 1 ใน 3 ของเด็กมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
ใน Chiapas โรคเบาหวานเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก 39% ของประชากรมีน้ำหนักเกิน 36% เป็นโรคอ้วน และ 10% เป็นเบาหวานในบางรูปแบบ
รายงานของ OECD ในปี 2020 คาดการณ์ว่า เม็กซิโกอาจสูญเสียอายุขัยเฉลี่ยถึง 4 ปีจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน และสูญเสีย GDP ไปมากกว่า 5% จากต้นทุนด้านการรักษาพยาบาลและประสิทธิภาพแรงงานที่ลดลง
โคล่ายังขายดี เพราะ “ไม่มีทางเลือกอื่น”
แม้จะรู้ว่าการบริโภคโคล่าในปริมาณมากเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่โคล่ายังคงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมใน Chiapas ไม่ใช่เพียงเพราะรสชาติหรือการโฆษณาเท่านั้น แต่เพราะมันเป็น “ทางเลือกที่เข้าถึงง่ายที่สุด” และหลายครั้งอาจเป็น “ทางเลือกเดียว” ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด