BH บล.กรุงศรี แนะนำ "ซื้อ" เป้า 200 บาท ชี้กำไร Q3/68 มีโอกาสทำ New High

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

BH บล.กรุงศรี แนะนำ "ซื้อ" เป้า 200 บาท ชี้กำไร Q3/68 มีโอกาสทำ New High

สรุปประเด็นหลัก (Key Takeaways)

#ทันหุ้น #BH #กรุงศรี **คงคำแนะนำ "ซื้อ" เป้า 200 บาท : หลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" (Buy) สำหรับหุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) โดยให้ราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 ที่ 200.00 บาท ซึ่งมี Upside จากราคาปิดล่าสุดประมาณ 12%

**กำไร Q2/68 ดีกว่าคาด : BH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1,858 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้ 11% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 9%

**คุมต้นทุนได้อย่างยอดเยี่ยม : ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรดีกว่าคาดคือ การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่ 52.3% และอัตรากำไร EBITDA (EBITDA Margin) ที่ 40.6%

**คาดกำไร Q3/68 มีโอกาสทำ New High : ผู้บริหารให้แนวโน้มรายได้ไตรมาส 3/68 เติบโต 3-5% (YoY) ซึ่ง KSS ประเมินว่าจะส่งผลให้กำไรสุทธิมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high) ที่ประมาณ 2,030 ล้านบาท

**มี Upside ต่อประมาณการทั้งปี : จากแนวโน้มรายได้ครึ่งปีหลังที่ดีกว่าคาด KSS ประเมินว่าประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 อาจมี Upside เพิ่มขึ้นราว 5% จากประมาณการเดิม

เจาะลึกประเด็นสำคัญ

1. กำไร Q2 ดีกว่าคาด จากการบริหารต้นทุนที่ยอดเยี่ยม

บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ด้วยกำไรสุทธิ 1,858 ล้านบาท (-4% YoY, +7% QoQ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ

หลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) ระบุในบทวิเคราะห์ "Company Quick Comment" ว่า แม้รายได้ค่ารักษาพยาบาลจะลดลง 4% (YoY) ตามที่คาดการณ์ไว้จากการลดลงของความเข้มข้นในการรักษา (Intensity) และปริมาณการใช้บริการ (Volume) แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้กำไรออกมาดีเกินคาดคือ

ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยบริษัทสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ถึง 52.3% และอัตรากำไร EBITDA ที่ 40.6% ซึ่งดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า

2. แนวโน้มครึ่งปีหลังสดใส คาด Q3 จ่อทำ New High

KSS มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Positive) ต่อแนวโน้มของ BH มากขึ้นหลังการประชุมกับผู้บริหาร โดยผู้บริหารได้ให้เป้าหมายการเติบโตของรายได้ในไตรมาส 3/68 ไว้ที่ 3-5% (YoY) ซึ่งดีกว่าที่ KSS เคยประเมินไว้ว่าจะทรงตัว

ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากแนวโน้มการใช้บริการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะ ตะวันออกกลางที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับการที่ไม่มีผลกระทบจากการปรับฐานรายได้ของผู้ป่วยคูเวตเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก

จากแนวโน้มดังกล่าว KSS ประเมินว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3/68 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ประมาณ 2,030 ล้านบาท (+4% YoY, +9% QoQ)

3. คงคำแนะนำ "ซื้อ" เป้า 200 บาท ชี้เป็น "Value Play"

KSS ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับหุ้น BH โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 200 บาท และมองว่า BH มีความน่าสนใจจากการเป็นหุ้นในธีม "Value Play" เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2568 ประมาณ 20 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับ Forward P/E ที่ระดับ -1.0 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) หลังจากที่ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 20% ในไตรมาสนี้ (QTD)

นอกจากนี้ KSS ยังชี้ถึงจุดแข็งของ BH ในด้านศักยภาพการรักษาโรคซับซ้อนด้วยนวัตกรรมขั้นสูง ทำให้มีตลาดเฉพาะกลุ่มและไม่ได้รับผลกระทบจากราคามากนัก รวมถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนที่ทำให้มีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาล

บทสรุป

บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ที่แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม ประกอบกับการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

และแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังที่ผู้บริหารและนักวิเคราะห์คาดว่าจะฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทำให้หลักทรัพย์กรุงศรียังคงมุมมองเชิงบวกและแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปสู่ราคาเป้าหมายที่ 200 บาทได้

**ที่มา:**

*บทวิเคราะห์หุ้น BH โดย บล.กรุงศรี (KSS) วันที่ 5 สิงหาคม 2568