"มากุโระ" ชี้ อาหารญี่ปุ่น ยังอยู่ในใจคนไทย-จ่อเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ดันยอดขายโต 30%
"มากุโระ"เผยอาหารญี่ปุ่นยังเป็นท็อปออฟมายด์ของคนไทย มั่นใจตลาดยังเติบโต แม้ไตรมาส 2 เจอเหตุ แผ่นดินไหวตึกถล่ม ช็อคความรู้สึกผู้บริโภค ลุ้นไตรมาส 3 ไร้เหตุรุนแรง ไตรมาส 4 ต่างชาติไหลเที่ยวไทย ล่าสุดเตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ "บินโช" อาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ประเดิม 9 ก.ค.นี้ ที่ เมกา บางนา และส.ค.นำเข้าแบรนด์จากญี่ปุ่น มั่นใจผลประกอบการปีนี้โตตามเป้า 30%
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจร้านอาหารช่วงครึ่งปีแรก 2568 มุมมองธุรกิจร้านอาหารช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ข็อคผู้บริโภค จากเหตุเแผ่นดินไหวและเกิดตึกถล่ม ทำให้ผู้บริโภคหยุดการจับจ่ายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย
อย่างไรก็ดีหากไตรมาส 3 ปีนี้ไม่เหตุการณ์ใดที่ช็อคผู้บริโภคแรงๆ อีก บริษัทก็มีมุมมองว่าน่าจะดีกว่าไตรมาส 2 ส่วนในไตรมาส 4 ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา ซึ่งคงต้องจับตาดู แต่ทั้งนี้บริษัทยังมีมุมมองเชิงบวก เพราะปัจจัยการเมือง และเศรษฐกิจโลก จากสงครามการค้า เริ่มมีทิศทางดีขึ้น
ขณะที่ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ โดยยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 30% ส่วนหนึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากสาขาที่เปิดไปเมื่อปี 2567 เต็มปี รวมถึงการขยายสาขาใหม่ในปีนี้อีก 15 สาขา โดยนอกจากในช่วงเดิอนส.ค.ปีนี้ ที่บริษัทเตรียมนำเข้าแบรนด์ร้านอาหารจากญี่ปุ่นเข้ามา ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ล่าสุดบริษัทยังได้เปิดตัวร้านอาหารใหม่ภายใต้แบรนด์ บินโช เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นอาหารเฉพาะทางมากขึ้น มีความแตกต่างจากอาหารญี่ปุ่นที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป และถือเป็นร้านอาหารแบรนด์ที่ 6 ของบริษัท โดยจะเปิดสาขาแรกที่ เมกา บางนา วันที่ 9 ก.ค.นี้ พร้อมกับมีแผนจะขยายสาขาที่ 2 ต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2569 และเป้าหมายระยะ 2-3 ปีจากนี้จะขยายให้ได้ 10-20 สาขา
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดอีก 8 สาขา ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ประกอบด้วย บินโช 1 สาขา (9 ก.ค.) มากุโระ 2 สาขา, ฮิโตริ ชาบู ร้านชาบูและสุกียากี้พรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติต้นตำรับและวิธีการทานแบบดั้งเดิมจากคันไซ อีก 2 สาขา ทงคัตสึ AOKI ตำนานหมูทอดจิ้มเกลือเจ้าแรกในญี่ปุ่นอีก 2 สาขา และแบรนด์ใหม่ที่จะเปิดอีก 1 สาขา
"แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ใกล้เคียงไตรมาส 1 เพราะช่วงไตรมาส 2 มีเหตุการณ์ช็อคผู้บริโภคหลายเหตุการณ์ ทำให้ผู้บริโภคหยุดออกมาจับจ่ายใช้สอยช่วงระยะหนึ่ง ซึ่งไตรมาส 3 ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร มองว่าน่าจะดีกว่าไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 4 เป็นฤดูท่องเที่ยว ต่างชาติจะไหลกลับเข้ามา จึงมีมุมมองเชิงบวก เพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า เป็นทิศทางที่คาดว่าจะหาข้อสรุปได้ไม่นาน"
นายจักรกฤติ กล่าวและว่า ภาพรวมธุรกิจอาหารในขณะนี้เผชิญความท้าทายสูง โดยมีทั้งผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา และผู้เล่นหรือผู้ประกอบการบางรายออกจากตลาดไป นับตั้งแต่หลังเกิดโควิด ส่งผลให้ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีหลายร้านทยอยปิดตัวไป ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นยังรักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่องได้จากมูลค่าตลาดรวมที่ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นอยู่กับคนไทยมาหลายสิบปีแล้ว ประกอบกับไม่ได้เป็นอาหารแฟชั่น อีกทั้งยังเป็นประเภทอาหารในอันดับต้นๆ ที่คนไทยนึกถึง บริษัทจึงมีความมั่นใจว่าตลาดนี้ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "มากุโระ" ชี้ อาหารญี่ปุ่น ยังอยู่ในใจคนไทย-จ่อเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ดันยอดขายโต 30%
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th