งานแต่งเกือบพัง! สาวพึ่งสิ่งนี้หาฤกษ์ดี มารู้ทีหลังเป็นฤกษ์อัปมงคล ชาวเน็ตยังถล่มซ้ำ
สาวไต้หวันให้ ChatGPT เลือกวันมงคลให้ แต่ต้องช็อกเมื่อพบว่า "เป็นวันต้องห้ามแต่งงาน" งานแต่งเกือบพัง ชาวเน็ตไม่เห็นใจ แถมถล่มซ้ำ
โปรแกรมแชต AI อย่าง ChatGPT มีฟังก์ชันหลากหลายและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บางคนถึงขั้นนำมาใช้ดูดวงหรือเลือกวันมงคล
ล่าสุด มีสาวชาวไต้หวันรายหนึ่งโพสต์เล่าว่า เธอเคยใช้ ChatGPT ช่วยคำนวณหา “ฤกษ์แต่งงาน” เพื่อเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่ม พร้อมทั้งจองสถานที่และเตรียมการต่าง ๆ ตามวันที่ได้รับคำแนะนำมา
แต่สุดท้ายกลับพบว่าตามปฏิทินจีนวันดังกล่าวเป็น “วันต้องห้ามแต่งงาน” ทำให้เธอต้องเลื่อนงานทั้งหมดออกไป เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
สาวไต้หวันรายนี้ได้โพสต์ระบายในแพลตฟอร์ม Threads ว่า “ChatGPT เกือบทำลายงานแต่งของฉัน”
โดยเล่าว่า เธอได้นำวันเดือนปีเกิดของตนเองและแฟนหนุ่ม รวมถึงปีนักษัตรของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ให้ ChatGPT ช่วยคำนวณหา “ฤกษ์แต่งงานที่ดีที่สุด”
โดยระบุว่าต้องเป็นวันมงคลที่ไม่ชงกับปีนักษัตรของใครเลย ซึ่ง AI ก็แนะนำวันที่ 6 มิถุนายน 2026 ว่าเป็นวันมงคลที่สุด เหมาะสำหรับการแต่งงานโดยเฉพาะ
เธอเล่าว่า ได้สอบถาม ChatGPT ซ้ำหลายครั้งเพื่อความมั่นใจ และได้รับคำยืนยันว่าวันที่แนะนำคือวันที่ดีที่สุดสำหรับจัดพิธีวิวาห์ จึงตัดสินใจจองสถานที่จัดงาน ช่างแต่งหน้า และช่างภาพเรียบร้อย
แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแม่ของเจ้าบ่าวเปิดปฏิทินจีนในมือถือดู กลับพบว่าวันที่ ChatGPT แนะนำนั้นเป็น “วันห้ามแต่งงาน” ตามหลักปฏิทินจีน
เธอระบายความไม่พอใจว่า “ChatGPT ทำให้ทุกอย่างต้องเลื่อนหมด” และบอกว่าถึงขั้น “ทะเลาะกับมันอย่างหนัก” โชคดีที่สามารถเปลี่ยนวันจัดงานได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นงานแต่งของเธอคงพังเพราะ ChatGPT แล้ว
เธอยังรู้สึกผิดที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน และฝากความหวังกับ AI มากเกินไป จึงโพสต์เตือนชาวเน็ตว่า “อย่าปล่อยให้เรื่องสำคัญในชีวิตตัดสินโดย AI”
โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์ หลายคนแสดงความเห็นในเชิงขำขันว่า “ฮามาก! เรื่องใหญ่อย่างงานแต่ง กล้าไปถาม GPT ก็ใจถึงแล้ว”, “ไม่คิดเองจนเกือบพังงานแต่ง” บ้างก็ว่า “โง่เกินทน”
ขณะที่บางคนก็ออกมาให้มุมมองต่างว่า “บางทีวันนั้นอาจเหมาะกับคุณจริง ๆ ก็ได้ แถมปฏิทินจีนก็เป็นแค่คำแนะนำ” และ “โทษมันไม่ได้หรอก เพราะแต่ละวัดก็ใช้ปฏิทินไม่เหมือนกัน”
แต่ก็มีบางคนเตือนว่า AI ก็มีโอกาสผิดพลาด และเห็นว่าควรใช้ให้เหมาะสมตามความถนัด เช่น “AI เอาไว้ดูเล่น ๆ ก็พอ” พร้อมแนะนำว่า “ถ้าเรื่องสำคัญแบบนี้ ควรปรึกษาหมอดูมืออาชีพจะดีกว่า”