เร่งตามจับกลุ่มปล้นเงินซื้อขายคริปโต 3.4 ล้านในห้างย่านลาดพร้าว
ช่วงเย็นวันที่ 30 มิ.ย.2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุ 5 คนร่วมกันปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท บนลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว หลังผู้เสียหายนัดหมายตัวแทนคนกลางเพื่อซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยตำรวจเชิญผู้เสียหาย 3 คนไปให้ปากคำที่ สน.พหลโยธิน
หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ติดต่อเอเยนต์คนหนึ่งเพื่อนำเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท มาขอแลกเปลี่ยนสกุลเงินสกุลดิจิทัล UHDT เป็นจำนวน 100,000 UHTD โดยนัดหมายที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า ก่อนที่เอเยนต์คนดังกล่าวจะพาไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อ้างเป็นผู้รับแลกเงิน บริเวณลานจอดรถชั้น 2 โดยมีเพื่อนผู้เสียหาย 2 คนเข้าไปพูดคุยก่อน
จากนั้นมีหญิงในกลุ่มผู้ก่อเหตุเดินมาบอกกับตัวเองซึ่งถือเงินสดอยู่ ให้นำเงินไปที่ลานจอดรถ เพื่อแลกเปลี่ยนเงินตามข้อตกลง แต่กลับถูกข่มขู่และบังคับนำเงินไป
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อประชุมความคืบหน้าทางคดี พร้อมติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ
ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า ข้อมูลการสืบสวนขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วและอยู่ระหว่างติดตามเส้นทางหลบหนี ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ รถยนต์คันที่นำเงินสด 3.4 ล้านบาทไป และรถยนต์คันที่บังคับให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปข่มขู่
อีกส่วนคือเอเยนต์ที่หนีไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมในขบวนการนี้ ซึ่งต้องติดตามตัวมาสอบปากคำ รวมผู้เกี่ยวข้องที่ต้องติดตามตัวในขณะนี้ 6 คน โดยเตรียมออกหมายจับแล้วบางส่วน
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ซ้าย) และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ขวา)
ส่วนเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบว่ายังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ป้องกันผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสหลบหนีออกนอกประเทศ ทั้งทางท่าอากาศยานและตามแนวชายแดน
สำหรับกลุ่มผู้เสียหาย เป็นกลุ่มเกมส์เมอร์ที่อยู่ในแวดวงผู้ซื้อขายและสะสมสกุลเงินดิจิทัล จากข้อมูลการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกับเอเยนต์คนดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง เป็นเงินหลักแสนบาท แต่ครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นหลักล้านบาท เพื่อหวังนำไปเกร็งกำไร เช่น หากซื้อขาย 1 ล้านบาทจะได้กำไร 20,000 บาท
การซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในลักษณะนี้เป็นการซื้อขายกันนอกระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม หากเปรียบเทียบการซื้อขายจากช่องทางที่ผ่านการรับรองจากตลาดหลักทรัพย์ แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงที่อาจเจอกับเหตุอาชญากรรมได้หลายรูปแบบ
อ่านข่าว
1 ก.ค. ลุ้น ศาลรัฐธรรมนูญ รับ-ไม่รับคำร้องถอดถอนนายกฯ ปมคลิปเสียงคุย "ฮุนเซน"
จับยกครัว 10 คนตั้งบริษัทส่งออก-นำเข้าสินค้า ทุจริตเงินคืนภาษี 1,000 ล้าน