โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

“AI”กับการวางแผนรับมือ! ลดผลกระทบภัยธรรมชาติ

เดลินิวส์

อัพเดต 28 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
จากปัญหาภาวะโลกร้อน ทำให้สภาวะอุณภูมิและอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง จนส่งผลต่อ“ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ที่รุนแรงและเกิดบ่อยครั้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลัน

จากปัญหาภาวะโลกร้อน ทำให้สภาวะอุณภูมิและอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง จนส่งผลต่อ“ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ที่รุนแรงและเกิดบ่อยครั้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลัน และพายุที่รุนแรงขึ้นในทุกๆปี

“ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ที่เกิดขึ้นในทั่วโลก ได้สร้างความเสียหายต่อ “ชีวิต” คนจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่ามหาศาลในปีๆหนึ่ง

ความคาดหวังของมวลมนุษย์ชาติ คือ จะมีอะไรที่จะเป็นเครื่องมือในการช่วยลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแต่ละปีได้บ้าง?

วันนี้ คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีรายงาน การศึกษาในเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่น่าสนใจของ ศูนย์ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของดีลอยท์ ที่ได้ทำการศึกษาเรื่อง “AI เพื่อความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐาน” ที่แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ในการพลิกโฉมการวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน การรับมือ และการฟื้นฟูจากภัยพิบัติ เพื่อช่วยให้เกิดแนวทางเชิงกลยุทธ์เพื่อลดต้นทุนความเสียหายจากภัยธรรมชาติในอนาคต

“เจนนิเฟอร์ สไตน์แมนน์” ลีดเดอร์ด้านธุรกิจความยั่งยืน ดีลอยท์ โกลบอล บอกว่า โครงสร้างพื้นฐานที่มีการใช้ AI สามารถช่วยผู้นำในการปกป้องชุมชนของตัวเองจากความเสี่ยงจากสภาพอากาศรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การ นำ AI ไปใช้อย่างมีกลยุทธ์จะช่วยให้ผู้นำสามารถระบุความเสี่ยงได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และเพิ่มคามเร็วในการตอบสนองและฟื้นฟูในขณะที่เกิดภัยธรรมชาติ โดยการลงทุนในโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งแบบป้องกันและแบบตอบสนองยังช่วยป้องกันมูลค่าทางเศรษฐกิจ

โดยข้อมูลจากรายงานการศึกษาระบุว่า ผลกระทบทางการเงินที่คาดการณ์ไม่ได้และมีนัยสำคัญ ภายในปี 2593 ความสูญเสียเฉลี่ยต่อปีจากภัยธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยพายุและอุทกภัยจะก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุด

ขณะที่ผลผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน มาจาก โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายจนเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงานของบริการที่จำเป็น เช่น การประปา พลังงาน และการขนส่ง ยกตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าดับส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร หรือการขาดแคลนน้ำประปาส่งผลต่อการผลิตพลังงาน

นอกจากนี้ความเสี่ยงของโครงสร้างพื้นฐาน คือ โครงสร้างพื้นฐานที่เก่าและเสื่อมสภาพมีความเปราะบางต่อภัยธรรมชาติ แต่ความเสี่ยงเหล่านี้ยังคงพบได้ในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ โดบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคาดการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษข้างหน้า

ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตั้งแต่การวางแผนโครงสร้างพื้นฐานจนถึงการดำเนินงาน ทำให้ให้มีแนวทางในการป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนอง เพื่อช่วยจัดการกับภัยธรรมชาติได้ ทำให้ผู้นำภาคเอกชนและภาครัฐมีทางเลือกในการดำเนินการเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้

รายงานของดีลอยท์ โกลบอลพบว่า ภายในปี 2593 AI จะสามารถช่วยป้องกันความเสียหายจากพายุเพียงอย่างเดียวทั่วโลก ได้เฉลี่ย 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ขณะเดียวกัน AI ยังสามารถช่วยผู้นำองค์กรจัดการความเสี่ยงเชิงรุกในด้านต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น 1.การวางแผน โดย โซลูชันต่าง ๆ เช่น ดิจิทัลทวิน (Digital Twins) โซลูชันวางแผนเมืองโดยใช้ AI และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ สามารถช่วยให้กรสามารถออกแบบและจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจัดการและดูแลพืชพรรณเพื่อรักษาสายไฟและลดความเสี่ยงจากไฟป่า ซึ่งเป็นการป้องกันความเสียหายเชิงรุก

2.การรับมือ การใช้ ระบบตรวจจับและปฏิกิริยาที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ระบบเตือนภัยล่วงหน้า สามารถลดความเสี่ยงจากไฟป่าและอุทกภัย เช่น การตรวจจับไฟป่าล่วงหน้าได้แต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยลดความสูญเสียระหว่าง 100 -300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในออสเตรเลีย

3.การฟื้นฟู เทคโนโลยี AI สามารถประเมินความเสียหายหลังจากการเกิดภัยธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถริเริ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญและฟื้นฟูชุมชนได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็สามารถลดปริมาณการสูญเสียวัสดุ

อย่างไรก็ตาม AI นับเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ผู้นำต่าง ๆ จึงควรทำงานร่วมกันเพื่อกำจัดอุปสรรคต่อการนำ AI ไปใช้ ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานเดิม ช่องว่างด้านกฎระเบียบ และข้อจำกัดทางการเงิน ความร่วมมือระดับโลกระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการนำศักยภาพของ AI ไปปรับใช้

โดย ผู้นำองค์กรภาครัฐสามารถพิจารณามาตรฐานสากลในการนำ AI มาใช้ ซึ่งมีความยืดหยุ่นและอิงตามหลักการ ซึ่งช่วยส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย ระว่างภาคส่วน และข้ามพรมแดน

ขณะที่ ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเจ้าของและผู้ดำเนินงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรลงทุนในเทคโนโลยีในโครงสร้างพื้นฐานทั้งวงจร อัพเกรดระบบเดิมเพื่อรองรับความเข้ากันได้ และเปิดเผยข้อมูลเพื่อปรับปรุงแบบจำลอง AI

ส่วนภาคการเงินและประกันภัยควรบูรณาการ AI เข้ากับแบบจำลองการกำหนดราคาและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมถึงสถาบันการเงินสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะ ด้านบริษัทเทคโนโลยีควรสานต่อการพัฒนานวัตกรรมโซลูชันแบบบูรณาการและคาร์บอนต่ำ เพื่อนำไปสู่การสร้างกระบวนการที่ยั่งยืน และมีความยืดหยุ่นด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ด้าน คอสติ เปอร์ริคอส ลีดเดอร์ ธุรกิจ GenAI ดีลอยท์ โกลบอล บอกว่า การประสานงานระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับโลกเพื่อพัฒนาโซลูชัน AI เป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างนวัตกรรม รวมถึงต่อยอดไปสู่การสร้างอนาคตที่ทุกคนมีความสามารถในการฟื้นตัวในการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น การนำ AI ไปใช้ในวงกว้างและความสามารถ AI ที่ปรับปรุงแล้วนั้น ภายในปี 2593 คาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายปีด้านภัยพิบัติโดยตรง อาจสูงถึง 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอาจลดความสูญเสียที่ด้านภัยพิบัติได้เกือบหนึ่งในสาม

ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีความร่วมมือกันทุกฝ่าย การนำ AI มาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ที่ชัดเจน ไม่เว้นแม้แต่การรับมือ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” เพื่อให้ความเสียหายลดน้อยลงที่สุด!!

Cyber Daily

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘กันจอมพลัง’ เร่งช่วยเจ้าหน้าที่ชายแดน ส่งถังน้ำ-ซ่อมถนน จุดที่รถแทบเข้าไม่ถึง

28 นาทีที่แล้ว

55 ปีสัมพันธ์จีน-อิตาลี เปิดตัวสารคดีย้ำบทบาท “สี จิ้นผิง” อนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมจีน

30 นาทีที่แล้ว

ทีมสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พหุภาษา) แชมป์ขี่ม้า กีฬาระหว่างโรงเรียน กรมพลศึกษา

43 นาทีที่แล้ว

ฝรั่งเศสแบนสูบบุหรี่ในที่สาธารณะหลายแห่ง โทษปรับกว่า 5,000 บาท

51 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

LG เปิดไลน์อัปตู้เย็น Multi-door ใหม่ล่าสุด โชว์ดีไซน์พิเศษเอาใจชาวเอเชีย!

Insight Daily

เรียนฟรี มีใบเซอร์ ปูพื้นฐานใช้งาน Excel สร้างกราฟแสดงผลข้อมูล

Techhub

มัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ Android Godfather โคลนแอปธนาคารบนมือถือ

Techhub

นักวิทย์ค้นพบเทคโนโลยี โซลาร์เซลล์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้ 1,000 เท่า

Techhub

หลุดเต็มๆ Galaxy Buds Core หูฟัง TWS ราคาประหยัดสุด มาพร้อม ANC และแบตฯ อึดสุด

sanook.com

“ดีอี” เตือนข่าวปลอม “ประกันสังคม จ่ายเงินบำนาญชราภาพ 7,500 บาทต่อเดือน” สร้างความสับสนให้ ปชช.

เดลินิวส์

Midea ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าจำหน่ายในแม็คโคร-โลตัส พร้อมยึดพื้นที่จอบนยอดตึกใบหยก และสื่อ Out of Home ทั่วประเทศ

Insight Daily

มลรัฐในเยอรมนี ประกาศเลิกใช้งาน Microsoft หันไปใช้งานซอฟต์แวร์แบบ Open-Source แทน

Thaiware

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...