มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ฉบับคนโตแล้วมันเป็นยังไง ?
ความรับในแบบผู้ใหญ่หรอ มันเป็นแบบไหนกันนะ เพื่อน ๆ เคยตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเองกันบ้างหรือไม่ รู้มั้ยว่า เมื่อเราเติบโตขึ้น ความรักก็มักเปลี่ยนไปจากเดิม จากครั้งหนึ่งที่เคยฝันหวานเหมือนในนิยาย ก็เริ่มกลายเป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ การยอมรับ และการเติบโตไปด้วยกัน มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องของความตื่นเต้นชั่วคราว แต่คือการอยู่เคียงข้างกันในวันที่ทั้งสุข และทุกข์ต่างหาก วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูมุมมองความรักฉบับคนโตแล้ว เขารักกันยังไง มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
แบบไหนที่เรียกว่า “ ความรักแบบผู้ใหญ่ ”
เชื่อว่า มีเพื่อน ๆ หลายคนแน่นอน ที่ก็กำลังตั้งคำถามนี้กับตัวเอง และคนรอบ ๆ ข้างอยู่ มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ มันเป็นแบบไหนนะ ? ความรักแบบผู้ใหญ่ ไม่ใช่รักที่หวือหวาเหมือนในละคร แต่เป็นรักที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และการยอมรับ มันคือ การรับรู้ว่า ทุกคนมีข้อดี ข้อเสีย มีวันที่สดใส และวันที่เหนื่อยล้า เป็นความสัมพันธ์ที่ยอมรับซึ่งกันและกัน เข้าใจกัน และเลือกที่จะอยู่เคียงข้างกันในทุก ๆ ช่วงเวลา ความรักแบบนี้คือ การรับฟังกันจริง ๆ รู้จักประนีประนอม และมองความสัมพันธ์ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราว เป็นรักที่มั่นคง แม้จะไม่หลงเหลือความตื่นเต้นในความสัมพันธ์แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นอะไรที่อบอุ่น และปลอดภัยเสมอ เพราะต่างฝ่ายต่างรับรู้ถึงกันได้ว่า ทั้งสองต่างเป็น Safe Zone ของกันและกัน
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
มัดรวม มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์แบบคนโตแล้วเป็นยังไง ?
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 1 ทะเลาะกันเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหาจริง ๆ
ถ้าให้เทียบกันแล้ว ระหว่างความรักแบบเด็ก ๆ กับคนที่เขาโตแล้ว มันเห็นได้ชัดมาก ฉบับคนที่โตแล้ว ส่วนใหญ่ปัญหาที่หยิบมาทะเลาะกัน มักจะเป็นเรื่องอะไรที่จริงจังค่ะ ปัญหาเล็ก ๆ จุกจิก ๆ เขามักจะมองข้ามกันไป ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะ ก็ให้ความสำคัญแหละ แต่ไม่หยิบมาเป็นปัญหาชีวิตคู่เท่านั้นเอง อีกอย่างการทะเลาะกันของคนโต ๆ เขาจะไม่ได้ทะเลาะเพื่อแตกหัก แต่จะถกเพื่อหาทางแก้ เพื่อให้ความสัมพันธ์ไปต่อได้ มันเลยแตกต่างกับความรักแบบเด็ก ๆ สังเกตได้ไม่ยากหรอก
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 2 เหตุผลมาก่อนอารมณ์เสมอ
ความรักฉบับคนโตแล้วส่วนใหญ่ ยึดเหตุผลเป็นหลัก อารมณ์เป็นรอง เน้นแก้ไขปัญหาที่มีร่วมกัน เพราะสำหรับคนที่โต ๆ กันแล้ว เขาจะรู้ว่า การลงอารมณ์มากเกินไป มันไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายจะมีแต่เสียกับเสีย ฉะนั้นการคุยกันด้วยเหตุผลนั้นดีที่สุด แต่เราก็ไม่ได้ว่านะ ว่ามีแค่ความรักฉบับคนโตเท่านั้น ที่เน้นใช้เหตุผล เพราะเด็ก ๆ วัยรุ่นหลายคน ก็ใช้หลักการนี้เหมือนกัน บางคนแม้อายุจะน้อย แต่มีความคิดที่โตแล้วก็มี เพราะงั้นใครที่กำลังมีความรัก เราว่า การคุยกันด้วยเหตุผลมันดีกว่าค่ะ อาจจะมีเถียงกันบ้าง แต่สุดท้ายผลลัพธ์มันเวิร์กกว่าการใช้อารมณ์เป็นหลักแน่นอน
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 3 ไม่กลัวที่จะพูดถึงเรื่องอนาคต
ปกติถ้าเป็นความรักแบบใส ๆ วัยรุ่น ๆ เขาจะไม่ค่อยพูดกันถึงเรื่องของอนาคตเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมองกันแต่วันนี้กับวันพรุ่งนี้เท่านั้น เป็นความรักที่แบบไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องวางแผนชีวิตอะไรมาก แต่ฉบับคนที่โตแล้ว อนาคตคือ สิ่งสำคัญ เมื่อเราคบกับใครมาถึงจุดนึง เราก็จำเป็นที่จะต้องมองไปข้างหน้า มองไปถึงอนาคตของเราสองคน เพราะงั้นสำหรับความรักของคนที่โต ๆ กันแล้ว การพูดคุยเรื่องอนาคต และการวางแผนชีวิตคู่ เป็นเรื่องปกติมาก ๆ มันจะช่วยทำให้เราตัดสินใจได้ว่า เราควรจะไปต่อกับคนคนนี้ไหม เพราะสำหรับผู้ใหญ่แล้ว ความรักไม่ใช่แค่รักและจบ แต่มันรวมไปถึงแผนอนาคตในวันข้างหน้าด้วย ถ้ามันเวิร์กก็ไปต่อได้ แต่ถ้าคบไปแล้วมองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน โอกาสจะสานต่อก็จะยากขึ้น
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 4 รู้หน้าที่ของตัวเอง และเป็นตัวเองได้เต็มที่
ตอนเด็ก ๆ เวลาเราจะคบกับใคร เราจะสร้างภาพจำให้เป็นที่น่าประทับใจ เพื่อให้เขาตกหลุมรักเรา ซึ่งบางทีมันเหนื่อยนะ ดังนั้นพอเราโตขึ้น ถ้าเราจะมีความรักสักที เราก็อยากได้ใครสักคนที่ยอมรับในตัวตนของเราจริง ๆ คนที่พร้อมจะภูมิใจในตัวตนของเรา ไม่ใช่ภาพฝันที่เราสร้าง เพื่อเอาใจเขา เป็นความรักที่ทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นตัวเองได้ ควบคู่ไปกับการให้เกียรติซึ่งกันและกัน รู้ว่า การเป็นแฟนที่ดีควรซัพพอร์ตกันอย่างไร พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราโตแล้ว เราก็รู้จักไตร่ตรองมากขึ้น อะไรดีก็ทำ อะไรไม่ดีก็ไม่ทำ จริงใจ และซื่อสัตย์ต่อกัน เพื่อให้เราใช้ชีวิตด้วยกันไปได้อย่างยาวนาน
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 5 เลือกที่จะรับฟังกันและกัน และไม่ตัดสินอะไรเองไปก่อน
หลักการของข้อนี้ก็คือการมีเหตุผลนั่นแหละ เมื่อเราโต ๆ กันแล้ว การใช้เหตุ และผลสำคัญมากนะ นอกเหนือจากนี้ การเป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี ก็สำคัญเช่นกัน สมัยเด็ก ๆ เวลาเราทะเลาะกับแฟน เราอาจจะพูดอยู่คนเดียว แฟนก็ฟัง ๆ ไป สุดท้ายก็จบไม่สวย แต่สำหรับความรักที่โตแล้ว การรับฟังซึ่งกันและกันเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ไม่ว่าจะรับรู้อะไรมาก็ตาม สิ่งที่คนโต ๆ เขาทำกันคือ รับฟังก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่า จะเอายังไง จะไม่โมเมคิดไปเอง หรือหลงเชื่อคนอื่นมากเกินไป จนทำให้ชีวิตคู่มีปัญหาตามมา
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 6 อีโก้ไม่สูง รู้จักยอมรับความผิดพลาด
สมัยเป็นเด็ก ๆ เวลาเราทะเลาะกับแฟน เราจะเฉไฉไม่ยอมรับความจริง โยนทุกความผิดไปให้แฟนตัวเอง หรือไม่ก็คนอื่น ใจคิดแต่เอาชนะ อีโก้นี่สูงลิ่ว แต่พอเราโตขึ้น ความคิด ความอ่านเปลี่ยนไป ความรักฉบับคนโต ๆ กันแล้ว ถ้าทำผิดก็ยอมรับผิด รู้ว่า ผิดก็ขอโทษ และปรับความเข้าใจกัน คนโต ๆ กันแล้ว จะไม่ยืดเยื้อให้ความบาดหมางมันเลยเถิด เคลียร์กันได้ก็เคลียร์ เอาให้มันจบ ๆ กันไป เพราะถ้าเราปล่อยมันไปเรื่อย ๆ ปัญหามันจะยิ่งบานปลาย และสุดท้ายมันจะกลายเป็นรอยร้าวของชีวิตคู่
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 7 ไม่หวือหวา แต่มั่นคง
ความรักฉบับคนโตแล้ว จะไม่ได้หวือหวานหวานแหววเหมือนกับรักของวัยรุ่นวัยใส เพราะคนโต ๆ เขาจะเน้นสร้างอนาคต รักแบบจริง ๆ จัง ๆ กันซะมากกว่า มีมุมหวานแต่อาจบ่อย หรือไม่บ่อย ก็แล้วแต่คู่ ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแฟนเรา เน้นถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ห่วงใยกันและกัน และถึงแม้ความรักจะไม่ได้หวือหวา แต่มั่นคง เราจะเห็นกันบ่อย ๆ ว่าส่วนใหญ่แล้ว ความรักที่ไม่หวือหวาแบบคนที่โตแล้ว สุดท้ายก็ไปได้สวยทุกคู่ เพราะงั้นเราว่า แม้ความรักจะไม่เวอร์ ไม่เอิกเกริก หรือไม่หวาน มันไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่า เรารักกันมากขนาดไหน การใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน มันมีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ ฉะนั้นไม่ว่าความรักจะหวาน หวือหวาหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ ขอแค่รักกัน หมั่นใส่ใจกันก็พอแล้ว
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 8 รักคือ การเลือกอยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ใช่แค่ตอนอินเลิฟ
เราจะเห็นคู่รักหลาย ๆ คู่ ที่ช่วงอินเลิฟคือ ตัวติดกันมาก ไปไหนมาไหน ต้องเกี่ยวก้อยกันไปทุกที แต่พอมาถึงจุดนึง ก็ต่างฝ่ายต่างไป เพื่อน ๆ รู้มั้ยว่า มัมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึกตื่นเต้นในช่วงแรก แต่คือ การตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างกันทั้งในวันที่สุข และวันที่ทุกข์นะ เป็นการเลือกซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะจับมือกันเดินต่อ แม้บางวันจะไม่มีดอกไม้ หรือคำหวาน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความอยากอยู่เคียงข้างกันลดลง ความรักที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกตื่นเต้นในตอนแรก แต่คือการเลือกที่จะอยู่เคียงข้างกันในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าชีวิตจะราบรื่น หรือเจออุปสรรคใด ๆ คนที่โตแล้วเขามีมุมมองความรักแบบนี้แหละ
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 9 ไม่เปรียบเทียบกับใคร เพราะความรักของเรามีคุณค่าในแบบที่มันเป็น
การเปรียบเทียบคือ กับดักที่ทำให้รักจืดจาง ความรักแบบผู้ใหญ่คือ การเห็นคุณค่าในสิ่งเล็ก ๆ ที่มี ไม่ต้องเหมือนคู่ไหน หรือหวือหวาเหมือนในโซเชียล แต่เพียงแค่รักเรามีความหมาย และความสุขสำหรับคนสองคน นั่นก็มากพอแล้ว ทุกความสัมพันธ์มีเรื่องราว ความท้าทาย และบทเรียนที่เป็นเอกลักษณ์ของใครขอบมัน การเปรียบเทียบกับคู่รักคนอื่น ๆ ก็เหมือนกับการพยายามใส่เรื่องราวของเราลงในบทที่คนอื่นเขียนไว้แล้ว ซึ่งไม่มีทางลงตัวได้หรอก แทนที่จะมองหาว่า คู่รักคนอื่นทำอะไรให้กันบ้าง เราควรสร้างมาตรฐานของเราขึ้นมาเองดีกว่ามั้ย ว่าเราทั้งสองคนอยากจะดูแลกันและกันในแบบไหน และสร้างคุณค่าให้ความสัมพันธ์ของเราในแบบที่เราทั้งสองคนมีความสุขจริง ๆ ดีกว่า
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 10 การไว้ใจคือ รากฐาน ที่ทำให้รักเติบโตได้โดยไม่หวาดระแวง
ความรักที่สวยงามไม่ใช่รักที่ต้องจับผิด แต่คือ รักที่เชื่อใจโดยไม่ต้องพิสูจน์ตลอดเวลา เมื่อมีความเชื่อใจ ความสัมพันธ์จะเบาสบาย ไม่เหนื่อยกับการระแวง และเปิดโอกาสให้ทั้งคู่เติบโตอย่างอิสระ ตอนเราวัยรุ่น เราอาจจะรู้สึกระแวงแฟน กลัวว่าเขาจะนอกใจ หรือกลัวว่าใครจะมาทำให้เขาหวั่นไหว แต่มุมมองความรักของคนที่โตแล้ว ความไว้ใจเป็นเหมือนรากฐานที่สำคัญที่สุดของความสัมพันธ์ค่ะ เพราะเมื่อความไว้ใจมั่นคง ความรักก็จะเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง โดยไม่ต้องมีความกังวลหรือหวาดระแวงเลย ความรักที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงจะทำให้เหนื่อย และอึดอัด แต่เมื่อมีความไว้ใจเข้ามาเป็นพื้นฐาน ความสัมพันธ์จะเต็มไปด้วยความสุข ความสงบ และความสบายใจอย่างแท้จริง
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 11 สนับสนุนความฝันของกันและกัน แม้เส้นทางจะไม่เหมือนกัน
คู่รักที่เติบโตไปด้วยกันคือ คนที่กลายเป็นแรงผลักดันให้กันและกัน แม้เป้าหมายชีวิตจะแตกต่างกัน แต่เรายังคงเชียร์อยู่ข้าง ๆ การเห็นอีกฝ่ายสำเร็จในสิ่งที่รัก คือความสุขที่เติมเต็มความสัมพันธ์ได้อย่างแท้จริง มุมมองความรักแบบนี้ หมายถึงเรายอมรับว่า เขาหรือเธอมีเป้าหมาย และเส้นทางชีวิตของตัวเอง การทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เขาได้เติบโตในแบบที่ต้องการ แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า เราเคารพ และเชื่อมั่นในศักยภาพของเขาด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่เส้นทางจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ การมีใครสักคนคอยให้กำลังใจ และยืนเคียงข้างในวันที่ล้มเหลว หรือเหนื่อยล้า ถือเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ ที่ 12 เคารพพื้นที่ส่วนตัว ไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มั่นใจว่ารักยังอยู่
ในมุมมองความรักของผู้ใหญ่ สิ่งที่ต่างจากความรักแบบเด็ก ๆ คือ ความรักไม่จำเป็นต้องผูกติดกัน 24 ชั่วโมง แต่คือ การรู้จักให้พื้นที่ส่วนตัว ให้อีกฝ่ายได้ทำในสิ่งที่รัก โดยไม่รู้สึกว่า ความรักถูกสั่นคลอน ความมั่นใจ และความไว้ใจต่างหาก ที่ทำให้รักยังคงมั่นคงแม้ห่างกันบ้าง แถมการเคารพพื้นที่ส่วนตัว และให้เวลาเป็นของตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ความรักยืนยาวด้วย เพราะความรักที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่คือความมั่นใจว่า ความรักนั้นยังคงอยู่เสมอ
มุมมองความรักแบบผู้ใหญ่ คือ การมองความสัมพันธ์อย่างมีสติ เข้าใจว่า ความรักไม่ใช่เพียงความรู้สึกหวานชื่น แต่คือ การเรียนรู้ที่จะจัดการความแตกต่าง และความไม่สมบูรณ์ของกันและกัน เป็นการรับฟังอย่างตั้งใจ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา และเคารพพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่าย ถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่ายกว่านี้ ก็อาจจะพูดได้ว่า ความรักฉบับคนโตแล้ว มักให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกันและกันในเส้นทางชีวิต ไม่ใช่เพียงในช่วงเวลาที่ดี แต่รวมถึงการจับมือกันฝ่าฟันปัญหาด้วย เป็นรักที่เติบโตจากประสบการณ์ และความเข้าใจ ไม่หวือหวา แต่มั่นคง อุ่นใจ และปลอดภัยนั่นเอง
สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก IG : @pimtha / @oabnithi / @mark_prin / @bow_maylada และข้อมูลจากเว็บไซต์ : ทัศนคติความรักแบบผู้ใหญ่ มุมมองความสัมพันธ์ที่เติบโตและยั่งยืน / แชร์ 10 มุมมองความรัก ในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ