เกาหลีใต้ บุกค้นโบสถ์แห่งความสามัคคี เซ่นคดีคอรัปชั่นระดับชาติ
19 กรกฎาคม 2568 ทีมอัยการพิเศษของเกาหลีใต้ บุกค้นโบสถ์แห่งความสามัคคี (Unification Church) ในเมืองคาพย็อง จังหวัดคย็องกี ในขณะที่การสืบสวนคดีคอร์รัปชั่นและการปั่นหุ้นของ "คิม ก็อน ฮี" อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งหัวหน้าสถาบันวิจัยศาสนาถึงกับบอกว่า "เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก" ที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะบุกค้นสำนักงานใหญ่ของโบสถ์
แต่นับเป็นความพ่ายแพ้อีกครั้งขององค์กรศาสนาแห่งนี้ ที่ตกเป็นประเด็นถกเถียง หลังการสอบสวนคดีลอบสังหารชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เมื่อปี 2566 พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีแรงจูงใจจากความเชื่อที่ว่า อาเบะสนับสนุนโบสถ์แห่งนี้ ที่ล่อลวงให้แม่ของเขาเอาเงินไปบริจาคจนครอบครัวหมดตัว และศาลแขวงกรุงโตเกียวได้สั่งยุบโบสถ์แห่งนี้ในเวลาต่อมา
โบสถ์แห่งความสามัคคี หรือ ชื่อทางการว่า "สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก" (Family Federation for World Peace and Unification) เป็นกลุ่มศาสนาที่ก่อตั้งโดย "ซุน มยอง มูน" ในปี 2497 ที่เกาหลีใต้ เป็นที่รู้จักในเรื่องพิธีกรรมแต่งงานหมู่ และคำสอนที่เน้นเรื่องครอบครัวและสันติภาพโลก ที่ถูกมองว่าเป็นลัทธิที่ปลูกฝังความเชื่อ และทรงอิทธิพลอย่างมาก นอกจากที่สำนักงานใหญ่แล้ว ที่สาขาในกรุงโซลก็ถูกตรวจค้นด้วย
ภาพที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ แสดงให้เห็นตำรวจปราบจลาจล พร้อมโล่ขนาบข้างเจ้าหน้าที่อัยการพิเศษ ขณะที่พวกเขาก้าวเข้าสู่เขตคาพย็องอันกว้างใหญ่ โดยมีสาวกของโบสถ์ราว 100 คน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ รวมตัวกันที่ประตูหลัก เพื่อทำตามข้อความเร่งด่วนจากโบสถ์ ที่เรียกร้องให้พวกเขา "ปกป้อง" ฮัน ฮัก-จา ผู้นำของโบสถ์
แต่นอกจากการตะโกนคำขวัญแล้ว กลุ่มผู้ปกป้องเหล่านี้แทบไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านใดๆ ตอนที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเดินเข้าไปในอาณาบริเวณโบสถ์
เจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสาร ไฟล์คอมพิวเตอร์ และหลักฐานอื่นๆ ที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ว่า โบสถ์ติดสินบน “คิม ก็อน ฮี” ไม่นานหลังจาก "ยุน ซอก-ยอล" สามีของเธอได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2565
แต่ “คิม ก็อน ฮี” กลับเผชิญเรื่องอื้อฉาวรุมเร้ามากขึ้น ตั้งแต่ปลอมแปลงข้อมูลประวัติส่วนตัว มีพฤติกรรมจุ้นจ้านถึงขั้นแทรกแซงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายการปกครองของสามี ใช้อิทธิพลบิดเบือนราคาหุ้น ครอบครองสินค้าฟุ่มเฟือยที่ละเว้นการชี้แจงทรัพย์สิน ใช้อิทธิพลแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ ของรัฐที่ส่อเค้าทุจริต และที่ดังที่สุดคือ การรับกระเป๋าหรูแบรนด์ "ดิออร์" (Dior)
ส่วนความสัมพันธ์กับโบสถ์แห่งความสามัคคี เจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสาร ไฟล์คอมพิวเตอร์ และหลักฐานอื่นๆ ที่น่าสงสัยตามข้อกล่าวหาว่า โบสถ์ได้ติดสินบน คิม ก็อน ฮี ด้วยของหรูหราราคาแพง รวมถึงกระเป๋าชาแนล (Chanel) และสร้อยคอเพชร ผ่านนายหน้าคนหนึ่ง ที่สัญญาว่าจะส่งมอบให้คิมระหว่างเดือนเมษายนถึงสิงหาคม 2565
แต่นายหน้าที่ถูกระบุว่า "พระกุนจิน" อ้างว่า ทำหายระหว่างการขนย้าย แต่เขาได้ชื่อว่าเป็นหมอดูคนโปรดของ คิม ก็อน ฮี ที่ต่อมาถูกตั้งข้อหาล่อลวงและชักจูง นักการเมืองกับนักธุรกิจ
การให้สินบน ก็เพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนของรัฐบาล ที่ทางโบสถ์จะไปทำโครงการพัฒนาในกัมพูชา แต่รัฐบาลไม่เล่นด้วย นำไปสู่การตัดสัมพันธ์กัน
ส่วนการสอบสวนได้ลามไปถึงกรณีที่ ฮัน ฮัค จา ภรรยาม่ายของผู้ก่อตั้ง คือ ซุน มยอง มูน และที่ปรึกษาของเธอ ละเมิดกฎหมายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยการผลาญเงินหลายล้านในบ่อนคาสิโนที่ลาสเวกัส ระหว่างปี 2551-2554 ที่ตอนนี้เธอถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศด้วย