'แก้วสรร' ชี้ 'ไทย' เผชิญวิกฤตกัมพูชา ไม่ไว้ใจ 'แพทองธาร' คลี่คลาย
นายแก้วสรร อติโพธิ แนวร่วมคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้เผยแพร่ความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้ง และข้อพิพาทดินแดนไทย-กัมพูชา และการตอบโต้ของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า เหตุผลที่สมเด็จฮุน เซน นำประเด็นเรื่องข้อพิพาทดินแดนไทย-กัมพูชา เป็นวาระร้อนในช่วงนี้ เพราะระบอบเผด็จการฮุนเซน ถูกประชาชนกัมพูชาคาดโทษ ว่าเป็นตัวการแห่งความทุกข์ยาก ดังนั้นสมเด็จฮุน เซนจึงใช้กลยุทธ์สร้างวิกฤตระหว่างประเทศ เพื่อย้ายความเดือดแค้นของคนกัมพูชามายังประเทศไทย
"วันนี้ฮุนเซนโยกตัวเองมาเป็น ผบ.สูงสุด แล้วให้ลูกจัดชุมนุมใหญ่สร้างข่าวไทยรุกล้ำ กัมพูชาต้องสามัคคี ยังเหลือแต่การสร้างสถานการณ์ให้เกิดการประทะชายแดน จนอาเซียนแล่นเข้ามาห้าม แล้วกัมพูชาวิ่งไปขอยูเอ็น เพื่อสร้างกระแสล้อมศาลโลกและวงการทูตว่าไทยชั่วร้ายรังแกเป็นขั้นสุดท้าย ส่วนกรณีที่ลงมือตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำมัน จากไทย คือเป็นกลยุทธ์โดยความว่าไทยกลั่นแกล้ง เพื่อปลุกความโกรธแค้น แล้วสำคัญว่าตระกูลฮุนคือผู้พิทักษ์กัมพูชาในที่สุด" นายแก้วสรร ระบุ
นายแก้วสรร ระบุต่อไปว่ากรณีที่กัมพูชาจะนำเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลต้องประท้วง ต้องแถลงข่าวทางการทูต เชิญทูตอาเซียนลงพื้นที่ แต่รัฐบาลไม่ทำจนเสียแต้ม ขณะที่เรื่องตรวจเข้มข้ามแดนที่ทหารเสนอมาแล้ว แต่นายกฯ ไม่นำเข้าประชุม สมช. จนทหารเขาต้องใช้กฎอัยการศึก คุมด่าน ตามอำนาจที่เขามีอยู่ในที่สุด
"งานนี้พลเรือนต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ไม่ใช่ทหาร ซึ่งกรณีนี้ผมชี้หน้าให้รัฐบาลรู้จักรักชาติ รู้จักรรับผิดชอบต่อหน้าที่เท่านั้น ส่วนกรณีที่นายกฯ โทรศัพท์ ไปวิงวอนขอสมเด็จฮุน เซนนั้น คือการไม่รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ สิ้นความไว้วางใจ และคนไทยไม่เชื่อถือให้น.ส.แพทองธารทำอะไรแทนคนไทยอีกต่อไป " นายแก้วสรร ระบุ
นายแก้วสรร ระบุถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน ด้วยว่าเหตุผลที่นายทักษิณนิ่งเงียบกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ น.ส.แพทองธาร ตนเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานที่ว่า น่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ได้ร่วมมือและรับปากกับผู้นำกัมพูชาว่าจะแบ่งผลประโยชน์ทางพลังงานในอ่าวไทยให้กับกัมพูชา ตามแผนในเอ็มโอยู 44 ส่วนกรณีที่นายกฯ พูดคุยกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้น เป็นเรื่องไม่สบายใจ และตนสงสัยว่าอาจเป็นเรื่องสัญญาสัมปทานน้ำมันกับบริษัทฝรั่งเศสที่ผู้นำกัมพูชาจับมือไว้ ที่มีมูลค่าเป็นแสนล้านบาท
"เป็นไปได้ว่า ถ้าฮุน เซนสร้างเหตุประทะให้เรื่องเข้ายูเอ็นจนเกิดการไกล่เกลี่ยเจรจาได้แล้ว เขาจะผลักดันให้เจรจากันทั้งบนบกและในน้ำต่อไปได้เลย โดยมีรัฐบาลฝรั่งเศสร่วมมือเป็นโต้โผใหญ่ ผลักดันจนสำเร็จ ดังนั้นอนาคตการต่อสู้เขตแดนกับฮุน เซน ต้องมีสมองมีปัญญาครบสมบูรณ์ มีอำนาจเต็มไม่ใช่นายกฯ ที่ไม่มีอำนาจ ต้องฟังพ่อ ฟังคน อ่านโพยตลอดเวลา" นายแก้วสรร ระบุ
นายแก้วสรร ระบุต่อไปว่ากรณีที่ น.ส.แพทองธาร ลาออกและให้คนในพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯแทน หากมาตามาระบบต้องยอมรับ ทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย รวมถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
"แต่เฉพาะนายกฯ จากเพื่อไทยนั้น จะต้องไม่อยู่ใต้คำสั่งของนายทักษิณไม่เช่นนั้นจะเหมือน นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ที่ทำงานเต็มตัวเต็มอำนาจไม่ได้ หรือต้องจำยอมร่วมมือกับกัมพูชาขายสัมปทานน้ำมันด้วย ดังนั้นเพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอดจากวิกฤตกัมพูชา สิ่งที่ต้องสิ้นความไว้วางใจในวันนี้ จึงเป็นตัวระบอบทักษิณทั้งระบอบ" นายแก้วสรร ระบุทิ้งท้าย