ชายคนหนึ่งถูกดูด "ของเหลวสีเหลือง" ออกจากหัวเข่า 5 กระบอก หลังดื่มสิ่งนี้ไปเพียง 3 แก้ว
ดูดออก 5 กระบอก “น้ำสีเหลืองเลมอน” จากหัวเข่าชายหนุ่ม หลังจากดื่มเบียร์กับเพื่อนไปเพียง 3 แก้ว ร้อนแดงและปวดจนไม่สามารถเดินได้!
ตามรายงานระบุว่า ผู้ป่วยอาศัยอยู่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม มีประวัติป่วยเป็นโรคเกาต์มาแล้ว 3 ปี โดยมักจะซื้อยากินเองเมื่อมีอาการปวดข้อ ล่าสุดหลังดื่มเบียร์กับเพื่อนไป 3 แก้ว เขาพบว่าหัวเข่าข้างหนึ่งบวมโต ร้อนแดง ปวดรุนแรงจนไม่สามารถเดินได้ จึงรีบเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
หลังจากตรวจร่างกายและซักประวัติ Dr.Trần Thị Kim Chuẩn แพทย์เฉพาะทางระบบกระดูกและข้อ กล่าวว่า: “ผู้ป่วยมีอาการข้อเข่าบวมน้ำจากโรคเกาต์เฉียบพลัน โดยชั้นน้ำในข้อหนาถึง 17.24 มม. ปริมาณน้ำในข้อมากจนไม่สามารถหายได้เองแม้จะกินยา”
ผู้ป่วยจึงได้รับการรักษาทันทีโดยใช้เทคนิค เจาะดูดน้ำในข้อเข่าภายใต้การแนะนำด้วยอัลตราซาวนด์ เพื่อให้เข็มเข้าสู่ตำแหน่งอย่างแม่นยำ ช่วยลดอาการปวดและนำของเหลวออกโดยไม่ทำลายโครงสร้างรอบข้าง ภายในเวลาเพียง 15 นาที แพทย์สามารถดูดของเหลวจากข้อเข่าออกมาได้ 5 กระบอกฉีดยา รวมปริมาณทั้งสิ้น 57 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นของเหลวสีเหลืองเลมอน อันเกิดจากการอักเสบที่รุนแรงในช่วงโรคเกาต์กำเริบ
หลังการดูดของเหลว แพทย์ได้ทำการ ฉีดยาลดการอักเสบเข้าไปในข้อเข่า เพื่อควบคุมอาการ และผู้ป่วยยังจะต้องรับการรักษาเพิ่มเติมด้วยการใช้ยาเพื่อลดระดับกรดยูริกในเลือด ป้องกันไม่ให้โรคเกาต์กำเริบซ้ำและเกิดภาวะน้ำในข้อเข่าซ้ำอีก ปัจจุบันข้อเข่าไม่มีอาการตึง ปวดลดลงอย่างเห็นได้ชัด งอเหยียดได้ตามปกติ และสามารถเดินเบาๆ ได้แล้ว
ความเห็นจากแพทย์อธิบายว่า: “โรคเกาต์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มข้ออักเสบและน้ำในข้อสะสม” ในกรณีนี้การดื่มแอลกอฮอล์และบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูงทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น จนเกิดการตกตะกอนของผลึกยูเรตในข้อ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการอักเสบอย่างเฉียบพลัน
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที น้ำในข้อจะทำลายกระดูกอ่อนในข้อ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อแข็ง ข้อติด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ และอาจถึงขั้นพิการได้ อาการปวดเรื้อรังยังส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยรวม
หลายคนเข้าใจผิดว่า การดูดน้ำในข้อจะทำให้ “ข้อแห้ง” แต่แพทย์ยืนยันว่าไม่จริง “การดูดของเหลวในข้อภายใต้การแนะนำด้วยอัลตราซาวนด์ จะไม่ไปทำลายของเหลวปกติในข้อ แต่จะช่วยลดความดันในข้อ บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ และฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกจากนี้ ไม่ได้มีแค่โรคเกาต์ที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำในข้อ แต่ยังรวมถึงโรคข้อเข่าเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือข้ออักเสบจากเชื้อโรคต่างๆ ด้วย หากพบว่ามีอาการ ข้อบวม ตึง แดง ร้อน หรือเจ็บจนเดินไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางระบบกระดูกและข้อโดยเร็ว การปล่อยไว้อาจทำให้เกิดข้อฝืด ข้อติด และส่งผลต่อชีวิตประจำวันในระยะยาว