ม็อบไล่อิ๊งค์ยํ้า ชุมนุมตามเดิม เมินรัฐประหาร
หลักฐานเยอะ! "หมอมิ้ง" เผยขอขยายส่งคำชี้แจงศาลคดีคลิปเสียงนายกฯ เหตุเสร็จไม่ทัน ขณะที่คดีรองเลขาฯ นายกฯ ร้องเอาผิด "ฮุน เซน" ยังไม่คืบ เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดีนอกราชอาณาจักร เเย้มอาจต้องเชิญนายกฯ ให้ปากคำ ส่วน "รวมพลังแผ่นดิน” แถลงจัดชุมนุมใหญ่ 2 ส.ค. ยันไม่เอารัฐประหาร
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จฮุน เซน หลังขยายกรอบเวลาครั้งที่ 2 ว่า ก็เป็นไปตามกำหนด
ส่วนเหตุผลที่ต้องขอขยายการยื่นเอกสารชี้แจงอีกรอบนั้น นพ.พรหมินทร์ระบุว่า ก็ไม่เสร็จ ก็ต้องขยาย
เมื่อถามต่อว่า มีข้อกฎหมายหรือข้อมูลอะไรเพิ่มเติม นพ.พรหมินทร์ไม่ได้ตอบคำถาม แล้วเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทันที
ส่วนความคืบหน้ากรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดสมเด็จฮุน เซน กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซนนั้น ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนบรมราชชนนี นัดประชุมหารือกับตำรวจไซเบอร์ โดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และรองโฆษก ตร. ร่วมหารือด้วย
นายวัชรินทร์กล่าวว่า ยังมีข้อกฎหมายที่สงสัยว่าเป็นความผิดในประเทศหรือความผิดนอกราชอาณาจักร ทางตำรวจจึงส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 เเละเมื่อเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ก็เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเเต่เพียงผู้เดียว ทางอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งตั้งคณะทำงาน มอบหมายให้ ผบก.สอท.1 เป็นผู้รับผิดชอบ และมีอัยการจากสำนักงานการสอบสวนมาร่วมสอบสวน โดยให้อัยการเข้าไปทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำ วันนี้ตนได้เชิญตำรวจ สอท.1 มาร่วมประชุมและให้ความเห็น เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดีต่อไป โดยการประชุมวันนี้เพื่อกำหนดทิศทางและแนวทางสอบสวนว่าจะเรียกพยานคนไหนเข้ามาสอบปากคำบ้าง รวมถึงการพิจารณาเรียกนายกรัฐมนตรีเข้ามาสอบด้วยเช่นกัน แต่การสอบปากคำสมเด็จฮุน เซน โอกาสที่จะเรียกมานั้นยาก
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์กล่าวว่า สำหรับสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. ร้องเรียนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวหาเรื่องคลิปเสียงอีกสำนวนหนึ่งนั้น วันนี้ก็จะได้มีการนำมาหารือกับทางอัยการสอบสวน แล้วก็จะส่งสำนวนการสอบสวนภายในสัปดาห์หน้าต่อไป
เขายังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงเกิดปัญหาการสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ผ่านมาว่า ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในเชิงลบต่อประเทศไทยเยอะมากทาง สอท.1 ได้ติดตามข่าวสารและรวบรวมหลักฐานข้อมูลที่เชิงลบต่อประเทศไทยโดยพร้อมกับประสานกับกระทรวงดีอีในการดำเนินการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร อย่างเช่นกรณีมีข่าวปลอมว่าเครื่องบินเอฟ 16 ถูกยิงตก สร้างความตื่นตัวแก่พี่น้องประชาชน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 ทางตำรวจได้มีการมอนิเตอร์อยู่ตลอด หากหน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้องและยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจไซเบอร์ได้ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามาจากประเทศกัมพูชาโดยมาก และมีการบิดเบือนข้อมูลทำให้เกิดความสับสนและเกิดความเกลียดชังด้วย Hate speech ก็ขอฝากพี่น้องประชาชนในการติดตามข้อมูลข่าวสาร ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เป็นทางการเป็นที่สามารถยืนยันและตรวจสอบได้
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยได้จัดแถลงข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการชุมนุมใหญ่ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินฯ เปิดเผยว่า วันที่ 2 ส.ค. จะยังคงจัดกิจกรรมการชุมนุมตามเดิมตามแนวทางสันติ ปราศจากอาวุธ รวมใจคนไทยเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเป้าหมายสำคัญคือ ยังคงยืนหยัดใน 3 ข้อเรียกร้องเดิมคือ 1.ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกทันที โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ 2.พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที และ 3.แสดงพลังจุดยืนของพี่น้องประชาชนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
นอกจากนี้ จะเป็นการชุมนุมเพื่อรวมพลังกันส่งกำลังใจให้แก่ทหาร ตำรวจ ทหารพราน อาสาสมัครชาวบ้าน ข้าราชการ แพทย์ และทุกภาคส่วนในแนวหน้าทุกคน รวมทั้งยังส่งพลังกำลังใจแก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยจากการสู้รบ ซึ่งกลุ่มมวลชนในฐานะประชาชนผู้อยู่แนวหลังและห่วงใยในสถานการณ์ ก็จะเปิดรับบริจาคสิ่งของส่งไปยังแนวหน้า ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนตามแนวชายแดน โดยสิ่งของสำคัญที่ต้องการนอกจากข้าวสารอาหารแห้งและสิ่งของจำเป็นแล้ว ยังต้องการตาข่ายที่เอาไว้สำหรับป้องกันระเบิดวิถีโค้ง ซึ่งเป็นสิ่งของที่จำเป็น ต้องการด่วนมาก เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมการชุมนุมแล้วก็จะมีรถส่งสิ่งของบริจาคไปให้แนวหน้าทันที
ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เน้นย้ำว่า การชุมนุมในวันพรุ่งนี้นั้น ‘ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร’ แต่เป็นการที่พี่น้องประชาชนมารวมพลังเพื่อต้องการหาทางออกตามวิถีประชาธิปไตย โดยนายกรัฐมนตรีต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน รวมทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าได้เข้ามาแทรกแซงและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของรัฐบาลทั้งหมด แม้กระทั่งการแทรกแซงการทำงานของทหารที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติด้วยการไปสมคบเจรจาเล่นละครว่าหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกที่เจรจาหยุดยิงโดยปราศจากเงื่อนไข
โดยตนไม่เชื่อว่ากัมพูชาจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะการต่อสู้ของฝั่งกัมพูชาในครั้งนี้ก็เพื่อความชอบธรรมและความอยู่รอดของตระกูลสมเด็จฮุน เซน ในการปกครองประเทศกัมพูชาที่กำลังเกิด ปัญหาหลายด้านจนเสี่ยงจะล่มสลาย ตอนนี้กำลังมีประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซงหนุนหลัง จึงเชื่อว่าจะมีการสู้รบที่หนักกว่านี้แน่นอน ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยกลับเพิกเฉยที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับบ้านได้อย่างสงบสุข ดังนั้น ทางออกของประเทศไทยตอนนี้คือ นายกรัฐมนตรีต้องลาออก และนายทักษิณต้องเลิกยุ่งทางการเมือง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินฯ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลไทยปล่อยให้ชาติที่ 3 เข้ามาแทรกแซง โดยเฉพาะการเจรจาที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนี้กัมพูชากำลังจับมือกับประเทศมหาอำนาจเพื่อมาเล่นงานประเทศไทย โดยสะท้อนได้จากการเจรจาของรัฐบาลในช่วงเวลาที่กองทัพไทยกำลังเสียเปรียบในยุทธภูมิ ซึ่งโดยหลักแล้วรัฐบาลไทยต้องทราบการข่าวดังกล่าว และต้องเลื่อนการเจรจาทันที ดังนั้น ตนจึงมองว่ารัฐบาลไทยชุดปัจจุบันกำลังทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนปราสาทตาควายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้จึงเป็นการแสดงพลังและสร้างความชอบธรรมในนามของประชาชนชาวไทยที่จะทวงคืนดินแดนที่เสียไปกลับคืนมา และเน้นย้ำว่า นี่ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องการรัฐประหาร รวมทั้งยังย้อนกลับไปยังคนที่กล่าวหาว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่า เราไม่ได้ไปชุมนุมที่ชายแดนให้เกิดความวุ่นวาย เราเพียงแต่รวมพลังกันเพื่อกดดันให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและส่งกำลังใจให้แนวหน้า.