“วราวุธ“ คุมทีม พม. ช่วยเหลือ-เยียวยา ผลกระทบ ”น้ำท่วมภาคเหนือ“
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวง พม. ได้รายงานกรณีการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก สุโขทัย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงราย และหนองคาย ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 22-29 กรกฎาคม 2568 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 348 ตำบล ใน 73 อำเภอ 2,209 หมู่บ้าน โดยมีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ 332,210 คน แบ่งเป็นเด็ก 53,474 คน ผู้สูงอายุมากที่สุดถึง 210,117 คน คนพิการ 53,034 คน ผู้ยากไร้ 15,585 คน โดยกระทรวง พม. ได้ดำเนินการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ต่างๆสำหรับผู้สูงอายุมากที่สุด 723 ราย คนพิการ 376 ราย เด็กเล็ก 189 ราย คนยากไร้ 264 ราย รวมทั้งสิ้น 1,552 ราย และการมอบถุงยังชีพ 22,417 ชุด
นอกจากนี้ได้ดำเนินการตามแผนการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น 1) ระยะสั้น ได้แก่ จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว , จัดตั้งโรงครัว พม. , จัดทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจ และมอบเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น , จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัด ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ร่วมกับอำเภอและหน่วยงานในพื้นที่ , ประสานองค์กร CSR สนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และ ประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เสี่ยง และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย 2) ระยะกลาง ได้แก่ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ , ปรับปรุงฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย และฟื้นฟูเยียวยาด้านอาชีพและรายได้ 3) ระยะยาว ได้แก่ มอบเงินทุนประกอบอาชีพคนพิการจากเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนคุณภาพชีวิตคนพิการและเงินทุนประกอบอาชีพผู้สูงอายุจากเงินกู้ยืมกองทุนผู้สูงอายุ
โดยทาง ศบปภ. พม.จังหวัดเชียงราย รายงานว่าสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม ในพื้นที่ 15 อำเภอ 79 ตำบล 451 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 12,961 ครัวเรือน และอยู่ระหว่างเฝ้าระวังฝนที่อาจตกซ้ำและปริมาณน้ำที่อาจไหลสมทบมาจากภูเขาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทีม พม.จังหวัดเชียงราย ได้ร่วมประชุมการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจังหวัดเชียงรายทุกวันอย่างต่อเนื่อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ และให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสิทธิสวัสดิการของกระทรวง พม. ได้รับแบบคำขอช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอเทิง และได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่หน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. 7 แห่ง รวมทั้งเตรียมบุคลากรและยานพาหนะให้พร้อมสนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว
ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน รายงานว่า ขณะนี้ สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายลง ระดับน้ำลดลง และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 68 แต่เกิดฝนตกหนักอีกครั้งระหว่างวันที่ 26-28 ก.ค. 68 โดยเฉพาะที่อำเภอท่าวังผา ทำให้เกิดน้ำท่วมอีกครั้งและไหลลงสู่ อ.เมืองน่าน และ อ.เวียงสา ส่งผลให้ อ.เวียงสา น้ำท่วม 12 ตำบล ปัจจุบัน มีศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ยังดำเนินการอยู่ 11 ศูนย์ มีผู้เข้าพัก 265 คน โดยเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวของกระทรวง พม. 2 แห่ง ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน และ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน ทางทีม พม.จังหวัดน่าน ได้ดำเนินการคัดกรองกลุ่มเปราะบางจากฐานข้อมูล MSO-Logbook เทียบกับพื้นที่ 12 อำเภอ โดยมีผู้ประสบภัยที่เป็นกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ 19,808 คน แยกเป็น เด็กมากที่สุด 8,582 คน ผู้ยากไร้ 6,874 คน ผู้สูงอายุ 3,212 คน และคนพิการ 1,140 คน จากนั้น จะดำเนินการลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวกลุ่มเปราะบาง พร้อมพิจารณาให้การช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉินต่อไป
ศบปภ. พม.จังหวัดแพร่ รายงานว่า เนื่องจากแม่น้ำยมได้เอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร โดยเบื้องต้นได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ มีกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ 5,699 คน แบ่งเป็น ผู้สูงอายุมากที่สุด 3,722 คน คนพิการ 1,192 คน เด็กเล็ก 574 คน และคนยากไร้ 211 คน สำหรับผู้ป่วยติดเตียงได้มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงเรียบร้อยแล้ว และเข้าพักพิงในศูนย์พักพิงขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ อีกทั้งมีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวของกระทรวง พม. 2 แห่ง ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่ ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ จังหวัดแพร่ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกำลังพลและเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยทีม พม.จังหวัดแพร่ได้จัดตั้งโรงครัว พม. ซึ่งได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์และวัตถุดิบปรุงอาหารจากเครือข่าย CSR , รับมอบสิ่งของบริจาค และจัดทีม พม. 9 คน ดูแลช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังจากนี้ ทีม พม.จังหวัดแพร่ จะร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดแพร่ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว แล้วส่งกลับที่พักอาศัย พร้อมช่วยประสานงานเรื่องการทำความสะอาดบ้านเรือนที่พักอาศัย ทำงานร่วมกับ อพม. ในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อาหารปรุงสุก น้ำดื่ม ไปให้กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ศบปภ. พม.จังหวัดสุโขทัย รายงานว่า สถานการณ์อุทกภัย เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 68 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุโขทัย ศรีสำโรง สวรรคโลก ศรีนคร ศรีสัชนาลัย ซึ่งมีกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น ผู้สูงอายุมากที่สุด 313 คน เด็ก 269 คน คนพิการ 133 คน แนวโน้มสถานการณ์ปริมาณแม่น้ำยมจากจังหวัดแพร่ไหลเข้าพื้นที่จังหวัดสุโขทัยจำนวนมาก ทำให้แม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและยังมีฝนตกอยู่ ซึ่งจังหวัดสุโขทัยได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ริมน้ำยม 60 แห่ง สามารถรองรับได้ 18,340 คน เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ทีม พม.จังหวัดสุโขทัย ร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ประสบอุทกภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวอำเภอศรีนคร และพุดคุยเยี่ยมให้กำลังใจ , จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศรส.จังหวัดสุโขทัย ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในกรณีฉุกเฉิน และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวของกระทรวง พม. 2 แห่ง ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุโขทัย