โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘สมศักดิ์-ชัยชนะ’ ลุย MOU บำบัดยาเสพติด นำร่อง 8 จังหวัด เตรียมขยายทั่วประเทศ

ไทยโพสต์

อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 1.29 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“สมศักดิ์-ชัยชนะ” ดึง ผู้ว่าฯ-ตำรวจ-ท้องถิ่น MOU บำบัดผู้ติดยาเสพติด นำร่อง 8 จังหวัด ก่อนขยายทั่วประเทศ เดินหน้าฟื้นฟูผู้หลงผิด ชี้ เป็นก้าวสำคัญ สร้างระบบบำบัดแบบบูรณาการ “แพทย์ดูแลการรักษา-ฝ่ายปกครองควบคุมดูแล-ท้องถิ่นสนับสนุนทรัพยากร” เผย ผลประเมินความเสียหาย รพ.พนมดงรัก 45 ล้านบาท พร้อมมอบ กรมอนามัย ดูปัญหาเรื่องกลิ่นผู้เสียชีวิตชายแดน

4 สิงหาคม 2568 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum Of Understanding : MOU) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายในพื้นที่นำร่อง โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้บังคับการตำรวจภูธร ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่อง เข้าร่วม ที่ห้องประชุมสัมพุทธเมตตาประชารักษ์ ชั้น 9 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการผลักดันการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน และชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของจังหวัด ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้ครบถ้วนทุกมิติ นับตั้งแต่การป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ การปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ตนจึงมีความยินดีที่ได้มาเป็นประธาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย ในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปทุมธานี ยะลา สุราษฎร์ธานี และหนองคาย ในวันนี้

“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้างระบบ การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดที่เข้มแข็ง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ ฟื้นฟูผู้ที่เคยหลงผิดให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และลดผลกระทบจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน ผมขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทั้ง 8 จังหวัด ที่แสดงเจตจำนงในการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง และขอให้พวกเรารวมพลัง ขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคม เพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนต่อไป” รมว.สาธารณสุข

ขณะที่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามสำคัญ ต่อความมั่นคงของประเทศ ส่งผลกระทบ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชน การบำบัดรักษา และป้องกันยาเสพติด จึงถือเป็นหัวใจของการสร้างสังคมที่ปลอดภัย และเข้มแข็ง เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ หยุดยั้งวงจรความรุนแรง และวางรากฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ยั่งยืน โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เป็นวาระแห่งชาติ ได้ปรับแนวทางการบำบัดรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ปลดล็อคข้อจำกัด และออกแบบระบบบำบัดที่เข้าถึงง่าย ภายใต้รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า“มินิธัญญารักษ์ นอกโรงพยาบาล” เป็นการเปิดสถานฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด 10 หน่วยงาน ถือเป็นก้าวสำคัญ ของการสร้างระบบบำบัดแบบบูรณาการ ที่มีแพทย์ดูแลการรักษา ฝ่ายปกครองเสริมการควบคุมดูแล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง โดยการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ของการขับเคลื่อนงานด้านการบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่สังคม ที่ปราศจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เรื่องยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ต้องดำเนินการเรื่องบำบัดฟื้นฟูตามกฎหมาย โดยในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด จะดำเนินการเรื่องบำบัดฟื้นฟู จะมีหมอเข้าไปรับผิดชอบส่วนนี้ ซึ่งการบำบัดฟื้นฟูกับจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก ถ้าไม่ตัดต้นตอตั้งแต่ต้น ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่วันนี้ รัฐบาล มีความพร้อมในการแก้ปัญหาทั้งหมด เพื่อให้ปลอดยาเสพติด และปลอดผู้ติดยาเสพติด โดยโครงการนำร่อง จะเป็นรูปแบบการขับเคลื่อนงาน ก่อนขยายทั่วประเทศ เพระในอดีตเรามีการขับเคลื่อนงานไม่พร้อมกัน ซึ่งถ้าทำขาใดขาหนึ่ง จะไม่จบ ดังนั้น การทำโครงการร่วมกัน ก็จะสามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้

เมื่อถามถึงการประเมินมูลค่าความเสียหายของโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ได้มีการประเมินมูลค่าความเสียหายแล้ว 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยค่าเสียหายประเมินล่าสุด ประมาณ 45 ล้านบาท ส่วนโรงพยาบาลอื่นๆ ก็อยู่ระหว่างการประเมิน

เมื่อถามถึงผลกระทบเรื่องกลิ่นผู้เสียชีวิตบริเวณชายแดน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ เป็นปัญหา ตนจึงมอบหมายให้กรมอนามัย เข้าไปช่วยดูว่า จะสามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง เพราะนอกจากเรื่องกลิ่นแล้ว ยังต้องป้องกันเรื่องโรคระบาดจากผู้เสียชีวิตอีกด้วย.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ผู้มีเอกสารสิทธิที่ดิน ‘เขากระโดง’ 995 ราย นัดแถลง 7 ส.ค. ‘เนวิน’ ส่งทนายร่วม

39 นาทีที่แล้ว

มทภ.2 รับมอบเงิน 4 ล้าน นำไปช่วยผู้ประสบภัยสู้รบชายแดน จังหวัดละ 1 ล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ศุภชัย’ ย้อนเกล็ด ‘เดชอิศม์’ เขากระโดงไม่มีใครบุกรุก แต่ที่รุกแน่ๆ ‘หัวเขาแดง’ ศาลสั่งคุกแล้ว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพเรือฟิลิปปินส์และอินเดียลาดตระเวนร่วมกันครั้งแรกในทะเลจีนใต้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

MK Restaurants ปล่อยกิมมิกการตลาดใหม่! ใช้ขวดน้ำจิ้มให้กลายเป็น ‘สื่อบอกรักแม่’

TODAY

เมื่อถึงเวลาจัดการบริหารโดรน เพราะภัยความมั่นคง - กสทช.

MATICHON ONLINE

เปิดภาพ "บ้านพระราชทาน" ของครอบครัว "ส.ต.ธีรยุทธ" ทหารกล้าปกป้องอธิปไตย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ตามหา 'โปเต้' สุนัขเพศผู้ หายจากรัชดาฯ ห้วยขวาง พบเจอมีรางวัลส่งคืน 10,000 บาท

สวพ.FM91

เสียงร้องไห้ระงมศาลาวัด ญาติรับศพ 9 เหยื่อเหตุโรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี หลังชันสูตรเสร็จ

Khaosod

‘ในหลวง’ ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ ‘จ.ส.อ.อภิรมย์’ ทหารกล้า

เดลินิวส์

ฮุนเซน ลั่นไม่ได้ละเมิด รธน.กัมพูชา ฟุ้งเป็นนายพล 5 ดาว รับมอบอำนาจกษัตริย์ มีสิทธิ์ตอบโต้โจร

Khaosod

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 29 จังหวัด พรุ่งนี้เจอฝนฟ้าคะนอง

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...