วิจารณ์หนัก! สวนสัตว์เดนมาร์กขอรับบริจาคสัตว์เลี้ยงให้เสือ-สิงโตกิน
วันนี้ (5 ส.ค.2568) CNN รายงาน สวนสัตว์ Aalborg ในภาคเหนือของเดนมาร์ก กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2568 หลังโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Aalborg Zoo ขอให้ประชาชนบริจาคสัตว์เลี้ยง เช่น กระต่าย ไก่ หนูตะเภา และแม้แต่ม้าขนาดเล็ก ใช้เป็นอาหารสำหรับสัตว์นักล่าในสวนสัตว์ เช่น สิงโตเอเชีย เสือสุมาตรา และแมวป่าลิงซ์ยุโรป แนวคิดนี้มีเป้าหมายเพื่อเลียนแบบห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติของสัตว์ป่า แต่กลับจุดชนวนการถกเถียงอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์
ที่มา : Aalborg Zoo
สวนสัตว์ Aalborg อธิบายว่า การให้อาหารสัตว์นักล่าด้วยสัตว์ทั้งตัว เช่น กระต่าย ไก่ หรือหนูตะเภา ช่วยให้สัตว์นักล่าได้รับสารอาหารและพฤติกรรมตามธรรมชาติเหมือนในป่า โดยสัตว์ที่ได้รับบริจาคจะถูก "การุณยฆาตอย่างนุ่มนวล" โดยพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดสูญเปล่า และสัตว์นักล่าจะได้รับอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพและพฤติกรรมตามธรรมชาติ สวนสัตว์ระบุว่า สัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในอาหารของสัตว์นักล่า โดยเฉพาะแมวป่าลิงซ์ยุโรปที่ต้องการเหยื่อทั้งตัวคล้ายที่พบในป่า
ทั้งนี้เว็บไซต์ของสวนสัตว์ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ วัน-เวลา จำนวนสัตว์ที่ต้องการ ชนิดสัตว์ รวมถึงผลประโยชน์ที่ผู้บริจาคอาจได้รับ เช่น ผู้บริจาคม้าสามารถขอรับการลดหย่อนภาษีตามมูลค่าน้ำหนักของม้าได้ อย่างไรก็ตาม สวนสัตว์ระบุว่า ความต้องการสัตว์อาจแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา
ที่มา : Aalborg Zoo
โพสต์ดังกล่าว ทำให้สวนสัตว์ Aalborg ได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลายในโลกออนไลน์ บางคนวิจารณ์ว่าแนวคิดนี้โหดร้ายและไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้สัตว์เลี้ยงที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมาเป็นอาหารสัตว์ป่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า การเอาสัตว์เลี้ยงมาเป็นอาหารสัตว์ป่าเป็น "สิ่งที่ยอมรับไม่ได้" ขณะที่อีกคนเรียกแนวคิดนี้ว่า "แนวโน้มที่น่าสยดสยองของความเฉยเมยต่อสัตว์ในเดนมาร์ก"
ในทางกลับกัน บางคนสนับสนุนแนวคิดนี้ ชาวเดนมาร์กคนหนึ่งที่เคยไปเที่ยวสวนสัตว์นี้มา 40 ปี เผยว่า เธอต้องการบริจาคม้าที่ป่วยหนักของเธอให้สวนสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร แต่เนื่องจากม้าของเธอหนักกว่า 2,000 ปอนด์ ซึ่งเกินขนาดที่สวนสัตว์รับได้ เธอจึงบริจาคให้องค์กรอื่นเพื่อใช้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพหรือปุ๋ยแทน
เพีย นีลเซน รองผู้อำนวยการสวนสัตว์ Aalborg กล่าวกับสื่อ The Guardian ว่า การให้อาหารสัตว์นักล่าด้วยสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น กระต่าย ไก่ หรือม้า เป็นแนวปฏิบัติที่สวนสัตว์ทำมานานหลายปี และเป็นเรื่องปกติในเดนมาร์ก และอธิบายว่า "เมื่อเลี้ยงสัตว์นักล่า ก็จำเป็นต้องให้อาหารที่มีขน กระดูก และส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ได้อาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด การให้สัตว์ที่ต้องถูกการุณยฆาตด้วยเหตุผลต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์เช่นนี้จึงสมเหตุสมผล" และย้ำว่า ผู้เยี่ยมชมและพันธมิตรหลายคนของสวนสัตว์ชื่นชมกับเหตุผลนี้ของสวนสัตว์
ที่มา : Aalborg Zoo
ที่ผ่านมา มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายของสวนสัตว์เดนมาร์กเรื่องการจัดการสัตว์ ในปี 2557 สวนสัตว์โคเปนเฮเกนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังการุณยฆาตยีราฟหนุ่มชื่อ "มาริอัส" ซึ่งมีสุขภาพดี แต่ถูกฆ่าเพื่อป้องกันการผสมพันธุ์เลือดชิดในฦุงยีราฟ ร่างของมาริอัสถูกใช้บางส่วนเพื่อการวิจัยและบางส่วนเป็นอาหารให้สิงโต เสือ และเสือดาวในสวนสัตว์
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สวนสัตว์แห่งนี้ถูกวิจารณ์อีกครั้งเมื่อการุณยฆาตสิงโต 4 ตัว เพื่อเปิดทางให้สิงโตตัวผู้ใหม่เข้าฝูง เพื่อหบักเลี่ยงการผสมพันธุ์แบบเลือดชิด
การกระทำเหล่านี้สะท้อนถึงแนวทางของสวนสัตว์ในยุโรปที่แตกต่างจากสหรัฐฯ โดยสวนสัตว์ยุโรปมักปล่อยให้สัตว์ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและการุณยฆาตสัตว์ส่วนเกิน แทนการใช้ยาคุมกำเนิดเหมือนในสหรัฐฯ
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ TV2 Nord ในปี 2568 สวนสัตว์ Aalborg ได้รับบริจาคสัตว์แล้ว 137 ตัว ได้แก่ กระต่าย 53 ตัว, ไก่ 18 ตัว, หนูตะเภา 12 ตัว, ปลาค็อด 22 ตัว และม้า 22 ตัว สวนสัตว์แห่งนี้ ซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 2478 และมีผู้เยี่ยมชมราว 500,000 คน/ปี เน้นย้ำว่าภารกิจหลักคือการอนุรักษ์ธรรมชาติ และการให้อาหารตามธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบนี้ ถึงแม้แนวคิดนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าไร้ความเห็นอกเห็นใจจากมุมมองของผู้ที่มองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวก็ตาม
อ่านข่าวอื่น :
ส.ก.เพื่อไทยแจ้งความ "ไอซ์ รักชนก" หมิ่นประมาทโจมตีไร้หลักฐาน