เสียงถนน คำตัดสินศาล คลิปต่างแดน: สามศรที่ปักกลางอำนาจรัฐบาลแพทองธาร
อำนาจทางการเมืองไม่ได้ยืนอยู่บนเสียงปรบมือหรือภาพสวยในโซเชียล แต่อยู่บน ศักดิ์ศรีของชาติ และศรัทธาที่ประชาชนยอมให้ผู้นำถือธงแทนพวกเขาได้
เวลานี้ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กำลังถูก สามศรปักกลางอำนาจ ที่ไม่ใช่เพียงแรงกดดันธรรมดา แต่คือ แรงบังคับให้ตอบสนองต่อบ้านเมือง ไม่เช่นนั้น อำนาจจะหลุดจากมือโดยไม่มีเงื่อนไข
ศรแรกคือ“เสียงถนน” ของมวลชน “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นี่ไม่ใช่ม็อบที่ออกมาเรียกร้องเล็กน้อย แต่คือ การยืนขึ้นกอบกู้ ศักดิ์ศรีของชาติ หลังถูกย่ำยีด้วยคำพูดในคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายกรัฐมนตรีไทยกับฮุน เซน
พวกเขาออกมาเพื่อบอกกับ นายกรัฐมนตรีโดยตรง ว่า อย่าคิดประนีประนอมบน ศักดิ์ศรีของประเทศ และ อย่าอ่อนข้อให้ใคร แม้จะเป็นฮุน เซนคนที่เคยสนิทแนบแน่นกับตระกูลก็ตาม
นี่คือสัญญาณเตือนว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่พร้อมยืนหยัดเพื่อ ผลประโยชน์ของชาติ ก็ “จงลงจากตำแหน่งเสีย”
เสียงบนถนนในวันนี้ หนักแน่นกว่าเสียงในสภา เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้หวังต่อรอง แต่พร้อมจะปฏิเสธผู้นำที่อ่อนข้อ แม้จะเป็นใครก็ตาม
ศรที่สองคือ “คลิปเสียงต่างแดน” ที่บาดลึกถึงใจคนไทย
คลิปเสียงการสนทนากับฮุน เซน ทำให้ประชาชนได้ยินกับหูว่า ในยามที่ความขัดแย้งชายแดนยังคุกรุ่น นายกรัฐมนตรีของไทยกลับใช้ท่าทีอ่อนเกินไป คำว่า“อยากได้อะไรบอกมา เดี๋ยวจัดให้”
อาจเป็นน้ำเสียงอ่อนโยนสำหรับนักการทูต แต่ในห้วงเวลาที่ชาติจำเป็นต้องยืนยันศักดิ์ศรี คำนี้ คือบาดแผลใหญ่ต่อความเชื่อมั่น เพราะนี่คือ การยอมถอยโดยไม่มีเงื่อนไขในฐานะผู้นำชาติ ไม่ใช่การคุยส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของอธิปไตยที่คนไทยทุกคนถือร่วมกัน
ศรที่สามคือ “คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ” ที่รอพิจารณา นี่คือการเคลื่อนไหวในกลไกรัฐธรรมนูญที่อาจ เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในพริบตา
หากศาลรับคำร้องและสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว แม้จะยังไม่ตัดสินผิดถูก แต่เพียงแค่นั้น รัฐบาลก็จะเสียศูนย์ทันที
อำนาจบริหารจะกลายเป็นเพียง “อำนาจชั่วคราว” ความเชื่อมั่นในตลาด การควบคุมเสียงในสภา และเสถียรภาพการเมืองภายในจะถูกทดสอบอย่างรุนแรง
แม้แต่หากศาลไม่รับคำร้อง ความคับข้องใจจะยังไม่จบ คลิปเสียงที่ประชาชนได้ยินแล้วจะยังวนอยู่ในความทรงจำ และจะกลับมาเป็นศรที่ปักลึกกว่าครั้งแรกในอนาคต
ในวันที่ เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น การลงทุนยังชะลอ ค่าเงินบาทอ่อน การค้าชายแดนไม่ชัด ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านร้าวราน ประเทศไทยไม่ต้องการผู้นำที่พยายาม “เอาตัวรอด” ในตำแหน่ง แต่ต้องการผู้นำที่ ยืนหยัดเพื่อชาติอย่างแท้จริง
รัฐบาลไม่อาจสยบสามศรนี้ด้วยการให้สัมภาษณ์ไม่กี่บรรทัด หรือการแถลงข่าวสั้น ๆ
สิ่งที่ประชาชนต้องการไม่ใช่เพียง “การอยู่รอดของรัฐบาล” แต่คือความมั่นใจว่า ผู้นำพร้อมรักษาศักดิ์ศรีของประเทศ โดยไม่ยอมแลกกับอำนาจ
นี่คือ ทางแยกสำคัญที่รัฐบาลต้องตอบตัวเอง จะรักษาอำนาจไว้ด้วยการยอมเสียศักดิ์ศรีชาติ หรือจะยืนหยัดเพื่อชาติแม้ต้องแลกกับอำนาจ
รัฐบาลที่หลบเลี่ยงคำตอบนี้จะพบว่า วันหนึ่ง ประชาชนจะเป็นคนตอบแทน
สามศรในวันนี้เสียงถนน, คลิปเสียงที่บาดลึก, และศาลที่รอพิจารณา ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะเมินผ่านไปได้อีก
นี่ ไม่ใช่คำถาม แต่คือ คำประกาศจากประชาชนว่า ถ้าผู้นำไม่พร้อมปกป้องศักดิ์ศรีชาติ พวกเขาจะยืนแทน
และเมื่อวันนั้นมาถึง ไม่มีพรรค ไม่มีพันธมิตร ไม่มีชนชั้นนำใดจะปกป้องรัฐบาลนี้ได้ เพราะ ศักดิ์ศรีของชาติไม่ใช่ของซื้อขายทางการเมือง และนี่คือ ความจริงที่อำนาจต้องยอมรับ.