Nike ระบุว่า นโยบายภาษีทรัมป์ อาจจะมีผลต่อต้นทุนการผลิต เพราะสินค้ากว่า 16% ผลิตในจีน
ต่อไปนี้ รองเท้า-เสื้อผ้า จากแบรนด์ดังอย่าง Nike อาจราคาแพงกว่าเดิม?
Nike เปิดเผยว่า จากมาตรการภาษีของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากคู่ค้าสำคัญอย่างจีน อาจทำให้บริษัท Nike มีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.25 แสนล้านบาท) ในปีนี้
ผู้บริหารของ Nike บอกด้วยว่า บริษัทจะลดการพึ่งพาสินค้าที่ผลิตจากจีน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
เดือนที่แล้ว Nike ประกาศว่าจะปรับราคารองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าบางรุ่นในสหรัฐฯ ขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นประกาศที่ออกมาในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่แบรนด์คู่แข่งอย่าง Adidas ออกมาเตือว่าจะต้องปรับราคาสินค้าเนื่องจากมาตรการภาษีนี้
อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัท Nike ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมายังสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะเป็นตัวเลขรอบไตรมาสที่แย่ที่สุดในรอบ 3 ปีก็ตาม ด้าน แมททิว เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่า Nike จะย้ายการผลิตบางส่วนจากจีน ไปยังประเทศอื่น เพื่อตอบสนองต่อนโยบายภาษีของทรัมป์
ปัจจุบัน จีนผลิตรองเท้าให้ Nike ในสัดส่วน 16% ที่ส่งไปยังสหรัฐฯ ซึ่ง เฟรนด์ กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวจะถูกปรับลดลงเหลือ ‘เลขหลักเดียว’ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2026
ย้อนกลับไปถึงเรื่องเรียกเก็บภาษีของทรัมป์ เขาประกาศจะขึ้นภาษีจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกในวันที่ 2 เมษายน และต่อมาในเดือนเดียวกันทรัมป์ก็ออกมาระงับนโยบายนี้ เพื่อให้แต่ละประเทศเข้ามาเจรจา โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะให้เวลาทำข้อตกลงนี้ที่ 90 วัน
ซึ่งปัจจุบัน ทำเนียบขาวกำลังเผชิญคำถามที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ทรัมป์กำลังวางแผนจะทำเกี่ยวกับภาษี เนื่องจากระยะเวลา 90 วันที่ว่า กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้แล้ว โดยมีการตั้งคำถามต่อไปว่าจะมีการต่อเวลาหรือไม่ จึงเป็นอีกสิ่งที่เราจะต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิงจาก