ซาบซึ้ง“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ”ปอนด์ รุ่งรัตน์“กลับมาสดใส ลั่น ไม่ลืมทุกคนที่ช่วยเหลือ..?
ซาบซึ้ง“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ”ปอนด์ รุ่งรัตน์“กลับมาสดใส ลั่น ไม่ลืมทุกคนที่ช่วยเหลือ..?
หลังจากที่ผจญวิกฤตชีวิตจากการรับภาระหนี้สินจนกระทั่งประกาศขายที่ดินสมบัติชิ้นสุดท้ายไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดดาราสาว “ปอนด์ รุ่งรัตน์” กลับมามีหน้าตาสดใสผิดหูผิดตา โดยขณะมาร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครใหม่ของสถานีโทรทัศน์ ไทย พีบีเอส และเปิดใจว่า ชีวิตวันนี้ดีขึ้นมาก แม้ยังขายที่ดินไม่ได้ แต่ก็เริ่มมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามามากมาย จนสามารถประคองชีวิตในช่วงนี้ได้สบายขึ้นแล้ว โดยเธอเริ่มทยอยใช้หนี้และตามขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยเหลือในช่วงลำบาก โดยเฉพาะพระเอกรุ่นใหญ่ “ท็อป“ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ซาบซึ้งใจในการช่วยเหลือเรื่องแม่ของเธอมาตลอดเวลา
“ชีวิตปอนด์ก็วิกฤตมาตั้งแต่โควิด ถ้าคนติดตามปอนด์ก็จะรู้ว่าปอนด์วิกฤตมากๆ วิกฤตของปอนด์คือ ไม่มีแม้แต่ที่อยู่อาศัย ไม่มีรถขับ ไม่มีเงิน ไม่มีกิน ไม่มีงาน ต้องดิ้นรนมากๆ ช่วงหนึ่งเหมือนเร่ร่อนเลยค่ะ ไปอยู่ภูเก็ตบ้าง สงขลาบ้าง สุดท้ายก็พาครอบครัวมาหาบ้านเช่าอยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะทำงานสะดวก แรกๆ ได้โอกาสจากพี่เดชที่มีโรงงานผลิตกางเกงยีนส์ เขาก็ให้กางเกงไปขายที่ตลาดนัดรถไฟ ทีนี้พอขายเสร็จกลับมาดึกๆต้องดูแลแม่ต่อยันเช้า ใช้วิธีขโมยนอนวันละชั่วโมงสองชั่วโมง ต่อเนื่องแบบนี้เป็นปี จนมีอาการบ้านหมุน คิดอะไรไม่ออกก็โทรหาพี่ท็อปก่อนเลย มันหลายเรื่องมากค่ะ ช่วงนั้นพี่ท็อปก็ให้ความช่วยเหลือ ต้องขอขอบคุณพี่ท็อป ที่รับแม่ไปดูแลที่ บ้านสุขสุดท้าย น่ะค่ะ ตอนช่วงที่ปอนด์เคยติดโควิดต้องกักตัวรักษาที่โรงพยาบาลไปเลย พ่อแดง เผ่าไท ก็เลยช่วยประสานพี่ไทด์ พี่ท็อป รับแม่จากโรงพยาบาลไปดูแลที่บ้านสุขฯ ก่อน พอรักษาโควิดหายก็ไปรับแม่กลับ แล้วช่วงที่พี่ชายที่เป็นจิตเวชหายไป 9 วัน ออกตามหาทั้งวันทั้งคืนทุกวัน งานการไม่ได้ทำก็ไม่มีเงินเข้า พอเจอพี่ปุ๊ พ่อแดง ก็ประสานพี่สมศักดิ์ ทีมร่วมกตัญญูก็มารับพี่ปุ๊ไปรับการบำบัดที่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จ ตอนนั้นเหมือนชีวิตทรุดหนักเลย ไหนจะแม่ด้วย พี่ชายด้วย ไหนจะต้องหาเงินด้วย แล้วมีพี่ท็อปที่ให้กำลังใจให้ดูแลแม่ให้ดีเป็นห่วงแม่ แล้วบอกให้ปอนด์ดูแลตัวเองต้องหาเวลาพักผ่อนเดี๋ยวเป็นอะไรไปจะหนักกว่านี้ มีอะไรก็ให้บอกอย่าเกรงใจ ตอนนี้พอมีงานทุกวัน เลยดูแลแม่ได้ไม่ดี พี่ท็อปก็ให้แม่ไปอยู่บ้านสุขฯ ก็มีพี่นุกูลมีทีมดูแล ปอนด์ก็ได้เคลียร์เรื่องพี่ปุ๊ ตอนนี้พี่ป้อมพี่ชายคนโตก็รับพี่ปุ๊ไปอยู่ด้วย ปอนด์ก็ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง ส่วนแม่พอเราว่างก็หารถไปรับแม่สลับกลับมาอยู่ด้วยกัน พอมีงานก็ไปส่ง แต่ตอนนี้รถที่ยืมเสียต้องเข้าอู่ เลยไม่ได้ไปรับแม่ยาวเป็นสัปดาห์แล้วค่ะ“
ทั้งนี้ ปอนด์ รุ่งรัตน์ เล่าว่าจริงๆชีวิตเริ่มกลับมาดีขึ้นจากเดิมแล้ว แม้จะยังขายที่ดินไม่ได้ เธอก็ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางผู้ใหญ่ที่รับจำนองไป ว่าเธอยังสู้อยู่ พยายามหาโอกาสอยู่ ตอนนี้เริ่มมีผู้ใหญ่ให้โอกาสทำงาน ทั้งเล่นละครและทำพิธีกร ถึงตรงนี้เธอว่าพูดแล้วยังขนลุก เพราะงานเข้าหลังจากทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ วายเคเจ (คลีนิก YKJ Medical Center) ศัลยกรรมหน้าใหม่ ทำให้ชีวิตมีจุดเปลี่ยน
“ตอนนั้นปอนด์อยู่ในช่วงหมองหม่นไปหมด หน้าเราก็ดูอายุเยอะ แต่พอทำศัลยกรรมมาแค่ 2 สัปดาห์งานเข้าเลยค่ะ มีละครติดต่อเข้ามา แต่เรื่องหนึ่งเป็นละครย้อนยุค หน้าเรายังไม่เข้าที่ เลยไม่ได้เล่น แต่หลังจากนั้นก็มีนี่ล่ะค่ะ ทางไทยพีบีเอส ให้เล่นละครเรื่อง แซนดี้ ครูแสนดี เป็นละครปัจจุบัน เลยได้เล่น และไม่นานก็มีงานพิธีกร เอ็มวีทีวี ซึ่งเขาก็เมตตาเรา เลยให้ทำรายการจากหนึ่งรายการ ตอนนี้เพิ่มเป็น 5 รายการ ค่ะ จนรู้สึกว่า เฮ้ย ตั้งแต่เราเปลี่ยนโหงวเฮ้ง เปลี่ยนความสดใส และเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นความสุข ลืมเรื่องเก่าไปให้หมดก่อน พอมีหน้าสดใสขึ้น เหมือนมันเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามา แล้วยังมีงานต่างๆที่เราถือลิขสิทธิ์ จากที่มืดมนมาก ตอนนี้อยู่ๆ ก็มีติดต่อมาหาเราจากต่างประเทศ อยากได้งานของเราเองไปต่อยอด แล้วมีรายได้เข้ามา ซึ่งมันมหัศรรย์มากค่ะ (เรียกว่าฟ้าเปิด?) ใช่ค่ะ เห็นชัดเลย (เพราะเปลี่ยนโหงวเฮ้ง?) ปอนด์ไม่รู้ว่าเพราะโหงวเฮ้งหรือเปล่า แต่ตอนนั้นตาเราก็ตก หน้าตก ตกไปหมด (ทำอะไรมาบ้าง?) ปอนด์ทำทั้งหน้าเลย(ยิ้ม) คือคุณหมอเขาก็เมตตาทำให้หมดเลย ก็มีฉีดไขมันหน้าผาก ดึงหน้าทั้งหน้าเลย แล้วฉีดไขมันที่ตา เก็บถุงใต้ตา ดึงคอ แล้วแก้ปลายจมูกให้มันเชิดนิดนึง (ก่อนทำมีการคุยเรื่องโหงวเฮ้งมั้ย?) ไม่ได้คุยค่ะ แต่หลังจากทำเสร็จ แล้วมีการไปดูแลแผล หมอถามว่ามีงานเข้าหรือยัง ปอนด์ก็ถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับงานเข้าคะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะว่ามีงานเข้า คือปอนด์ไม่เคยโทรบอกใครเลย พอบอกหมอว่ามีละครเข้า 2 เรื่อง คุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวมีเข้ามาอีกเรื่อยๆ เราก็แบบว่า คุณหมอเป็นหมอดูหรือหมอศัลยกรรมคะ(หัวเราะ) คุณหมอคงรู้โหงวเฮ้งเรา แล้วทำเปิดโหงวเฮ้งให้ นี่ยังไม่เสร็จนะคะ คุณหมอกันบอกอาจจะต้องเปิดตาให้สว่างขึ้นอีกนิดนึง (ทำมานานหรือยัง?) ประมาณ 6 เดือนกว่า แต่งานเข้ามาก ปอนด์อยากเปิดตารางงานให้ดูเลย ว่ามีทุกวันเลย แต่ยังไม่พอนะคะ จริงๆ ยังอยากมีงานอีก เพราะเคยได้ยินผู้มีเมตตาหลายคนรับคนไลฟ์ขายของ อยากจะช่วยลูกหนี้อะไรยังงี้ค่ะ ถ้าจะช่วยลูกกตัญญูด้วยได้มั้ยคะ(หัวเราะ) เพราะตอนนี้คุณแม่ร่างกายไม่แข็งแรง ปอนด์ก็อยากหาเงินบำบัดฟื้นฟูให้ร่างกายและจิตใจให้แม่กลับมาแข็งแรง จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม ดาราสาวกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อเริ่มมีงานมีรายได้ ก็นึกถึงคนที่เคยเมตตา ช่วยเหลือตอนลำบาก “ปอนด์เริ่มทยอยคืนเงินทุกคนที่เขาเคยช่วยเรา บางคนที่เขาช่วยแบบไม่เอาคืน เราก็คืนค่ะ เพราะรู้ว่าเงินมันหายาก และบอกหลายๆ คนว่า ตอนนี้ปอนด์ดีขึ้นแล้วนะ ชีวิตดีขึ้นมากเลย แต่ดีขึ้นในลักษณะที่ว่าไม่ต้องดิ้นรนไปหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วเพราะมีเงินเดือนประจำแล้ว แต่ว่าค่าอยู่ค่ากินค่าแพมเพิร์ธแม่ จิปาถะต่างๆมากมาย ก็ยังต้องหาอีก ก็พยายามหาทุกทางเพื่อให้เราดูแลตัวเองได้ในเดือนนึงที่เราจะไม่ติดลบ ซึ่งปอนด์ต้องขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยตอนที่ปอนด์ลำบาก ขอบคุณไทยพีบีเอส(Thai PBS),ผู้จัดละคร, ขอบคุณMVTV, ช่องเกษตรนิวส์ และ พี่ๆ เพื่อนๆ กัลยาณมิตร พี่น้องสื่อฯทุกคนที่มีส่วนช่วยทุกเรื่องค่ะ ฝากถึงหมอของขวัญด้วยนะคะ อยากรับจ้างไลฟ์สดขายของให้ค่ะ(ยิ้ม)”
#ข่าวที่เกี่ยวข้อง